สำนักข่าวไทย 7 ธ.ค. – รองนายกฯ สมคิด เร่งลดราคาปุ๋ย 30% ช่วยสวนปาล์มและยางพาราเต็มที่ ด้านรัฐมนตรีพลังงานนำทีมลงใต้แก้ปัญหาปาล์มล้นตลาด
ต่อเนื่องจากเรื่องราคาน้ำมันที่ตกต่ำในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาก็กระทบต่อรายได้เกษตรกร เพราะในช่วงราคาน้ำมันกว่า 100 ดอลลาร์/บาร์เรล ทุกคนพยายามหาพลังงานทางเลือก ปาล์มเป็นดาวเด่น ยางพาราก็มีราคาแพงตามน้ำมัน ก็มีการเพิ่มพื้นที่ปลูกเป็นจำนวนมาก แต่เมื่อราคาน้ำมันลดฮวบ ก็ส่งผลกระทบต่อราคาปาล์มและยางพาราลดต่ำลง
รัฐบาลเร่งหาทางลดภาระเกษตรกร วันนี้มีการหารือที่กระทรวงพาณิชย์เรื่องลดราคาปุ๋ยร้อยละ 30 และจะเข้า ครม.สัปดาห์หน้า ส่วน ครม.เมื่ออังคารที่ผ่านมาก็อนุมัติช่วยเหลือชาวสวนยางพื้นที่สวนที่เปิดกรีด 1,800 บาทต่อไร่ ช่วยเหลือชาวสวนปาล์ม 1,500 บาท/ไร่ ซึ่งช่วงนี้ ชาวสวนปาล์มต้องไปตรวจจะต้องแจ้งยืนยันขอรับสิทธิกับกรมส่งเสริมการเกษตร ชาวสวนยางก็ต้องขึ้นทะเบียนกับการยางแห่งประเทศไทย
คุณสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่กระทรวงพาณิชย์ เพราะปุ๋ยเป็นปัจจัยการผลิตหลักของเกษตรกรปีปีหนึ่งใช้ปุ๋ย 98,000 ล้านบาท รัฐบาลจึงตั้งเป้าหมายลดราคาลงร้อยละ 30 หรือ 30,000 ล้านบาท โดยขอความร่วมมือผู้ผลิตปุ๋ย ลดราคา และใช้กลไกร้านธงฟ้าประชารัฐ 30,000 แห่ง เชื่อมโยงปุ๋ยราคาถูกไปสู่เกษตรกรทั่วประเทศ
ซึ่งให้ใช้ปุ๋ยสั่งตัดและปุ๋ยผสม โดยใช้กลไกสหกรณ์การเกษตร 700 แห่ง เป็นผู้ดำเนินการผลิตกระจายให้สมาชิก ในขณะที่ ปตท. แสดงความสนใจที่จะเป็นผลิตปุ๋ยราคาถูกช่วยเกษตรกรด้วย ตั้งเป้าเกษตรกรได้ประโยชน์กว่า 30 ล้านคน
ด้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ร่วมกับกรมการค้าภายใน และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยลงพื้นที่ชุมพร พื่อติดตามความก้าวหน้าการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบหรือซีพีโอสำหรับการผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าพลังความร้อนบางปะกง ในราคาซีพีโอ ก.ก.ละ 18 บาท จำนวน 160,000 ตัน เพื่อนำมาผลิตกระแสไฟฟ้า ตั้งแต่เดือนเดือนนี้ถึงเดือนกุมภาพันธ์ คาดจะดูดซับน้ำมันปาล์มส่วนเกินในสตอก จะทำให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบ ขยับจากขณะนี้ 2.40 บาท/กก. เป็น ก.ก.ละ 3-3.20 บาท โดย รมว.พลังงานย้ำว่าได้เร่งโปรโมทรถบรรทุกใช้บี 20 ส่วนข้อเสนอใช้ บี 10 ก็ได้พยายามพูดคุยกับค่ายรถยนต์แต่ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากไปฟังเสียง รมว.พลังงาน
ในขณะที่ชาวสวนปาล์มแม้จะขอบคุณ ครม.ที่ช่วยเหลือลดภาระ 1,500บาท/ไร่ แต่สิ่งที่อยากเห็นการช่วยยกระดับราคาไม่ต่ำกว่า 5 บาท/กก.
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ วันนี้ หารือ ร่วมกับเอกชน ผลิตทั้งผลิตล้อยาง, ที่นอน, เฟอร์นิเจอร์ จากวัตถุดิบยางพารา โดบขอความร่วมมือในการใช้ยางเพื่อการผลิตมากยิ่งขึ้น 1 ในแนวทางส่งเสริมคือ ให้หน่วยงานราชการที่มีการจัดซื้อครุภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของยาง ขอให้พิจารณาจัดซื้อยางในประเทศ ซึ่งจะต้องแก้ไขระเบียบจัดซื้อจัดจ้าง ในขณะที่ผู้ประกอบการขอให้ขยายระยะเวลาดำเนินโครงการช้อปช่วยชาติต่อไปอีก 3-6 เดือน จากที่จะเริ่ม 15 ธันวาคมนี้ถึง 16 มกราคมปีหน้า ส่วนโครงการทำถนนยางพาราซอยด์ซีเมนต์ หรือถนนงานดินซีเมนต์ผสมยางพารานั้น ทางกระทรวงเกษตรฯ จะส่งมอบราคากลางและสูตรการทำถนนใหม่ไปยังองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ อปท. ได้ภายในวันที่ 11 ธันวาคมนี้ โดยจะเป็นมาตรฐานกลางสำหรับให้ อปท. นำไปดำเนินการเองได้ ตามโครงการ 1 หมู่บ้าน 1 กิโลเมตร ซึ่งจะช่วยลดความยุ่งยากและลดต้นทุนรวมทั้งเกษตรกร สามารถขายน้ำยางสดได้ตรงตามความต้องการมากขึ้น .- สำนักข่าวไทย