ทำเนียบรัฐบาล 4 ธ.ค.-นายกฯ ร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่หลายกระทรวงนำมาโชว์ก่อนประชุม ครม. แนะช่วยกันรักษาศิลปวัฒนธรรมชาติ ชวนคนไทยใช้ถุงผ้าลดการใช้พลาสติก
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยก่อนการประชุม นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นำคณะเข้าพบ เพื่อสรุปโอนการดำเนินกิจกรรม “อาสาปราบยุงลายควบคุมโรคไข้เลือดออก” โดยนายกรัฐมนตรีร่วมกับ ด.ญ.พิชญาภา พึ่งแพง และ ด.ญ.เบญญาภา ไทยสุวรรณ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนไผทอุดมศึกษาสาธิต ส่องไฟฉายที่กระถางต้นไม้เพื่อสำรวจยุงลาย ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้แนะนำให้นำน้ำขังออกจากกระถางและภาชนะอื่น ๆ ลดการก่อตัวของยุงลาย พาหะนำโรคไข้เลือดออก ทั้งนี้ นักเรียนทั้งสองคนได้ขอจับมือและสวมกอดนายกรัฐมนตรี โดยสัญญาว่าจะตั้งใจเรียนให้ได้เกรด 4 ทุกวิชา
พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำคณะผู้บริหารและภาคเอกชน มอบถุงผ้าและถุงกระดาษลดโลกร้อน เพื่อรณรงค์การจัดกิจกรรม “รับบริจาคถุงผ้าใส่ยากลับบ้าน” โดยนายกรัฐมนตรีได้ร่วมบริจาคถุงผ้าลายผ้าขาวม้านำร่องโครงการ พร้อมกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ คนทั่วไปไม่ค่อยคิดถึง จึงอยากให้ทุกคนใส่ใจ และร่วมกันรนณรงค์ใช้ถุงผ้า หากช่วยกันคนละไม้คนละมือจะช่วยลดปริมาณการใช้ถุงพลาสติกและสะท้อนความรับผิดชอบต่อสาธารณะ
ด้านนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นำคณะนักเรียนผู้พิการทางได้การยินและสายตาจากโรงเรียนโสตศึกษาและโรงเรียนกาวิละอนุกูล จ.เชียงใหม่ เนื่องในวันคนพิการสากล ตัวแทนนักเรียนได้สาธิตการอ่านอักษรเบรลล์ หนังสือประมวลเหตุการณ์ปฎิบัติการถ้ำหลวงวาระแห่งโลก และนายกรัฐมนตรีได้ร่วมสัมผัสและทดลองอ่านอักษรเบรลล์ จากนั้นได้พูดคุยและทดสอบนักเรียนมัคคุเทศก์ผู้พิการทางสายตาในกิจกรรมพิพิธภัณฑ์สัญจร และกล่าวว่า “ดูแล้วต้องรู้ประวัติความเป็นมา ขณะคนตาดีบางคนยังไม่รู้เลย”
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ชมการแสดงโขนจากตัวแทนนักเรียนคนพิการ ก่อนที่จะร่วมถ่ายรูปและให้กำลังใจว่า รัฐบาลไม่ได้ทอดทิ้ง แต่พร้อมสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นการบริการสาธารณะ รถเมล์ รถไฟฟ้าที่ต้องอำนวยความสะดวกให้คนพิการ ขออย่าท้อแท้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความพยายามของเรา อย่าคิดว่าเราพิการ แต่ขอให้คิดว่าเรามีความสามารถพิเศษ
ในโอกาสนี้ นายวีระได้รายงานผลการตัดสินของยูเนสโกที่ประกาศให้โขนไทยเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้คำแนะนำว่าเมื่อเรามีของดีก็ต้องรักษาและร่วมกันเผยแพร่ เพราะประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคนี้มีศิลปะและวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกับไทย ดังนั้น การได้รับการรับรองครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ขณะเดียวกันยังมีศิลปะต่อสู้แม่ไม้มวยไทย ซึ่งหลายประเทศเริ่มให้ความสนใจ ดังนั้นไทยควรจะช่วยกันส่งเสริมและอนุรักษ์ไว้.-สำนักข่าวไทย
