จ.กาญจนบุรี 12 พ.ย.- นายกฯ ประชุมครม.สัญจรครั้งแรกหลังการเลือกตั้งที่กาญจนบุรี เตรียมพิจารณาโครงการชิม ช้อป ใช้เฟส 3 แผนพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 สนับสนุนการค้าผ่านแดนภาคตะวันตกเชื่อมโยงการท่องเที่ยว
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) นอกสถานที่อย่างเป็นทางการ และการประชุมพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎกาญจนบุรี โดยก่อนเริ่มการประชุม นายกรัฐมนตรีกล่าวทักทายนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรีที่มาต้อนรับอย่างเป็นกันเอง โดยทันทีที่ลงจากรถ นักศึกษาได้กล่าวว่า “รักลุงตู่” ทำให้นายกรัฐมนตรียิ้มและเดินเข้าไปหาเด็กที่ถือป้าย “ชิม ช้อป ใช้” พร้อมสอบถามว่า ได้ใช้ชิมช้อปใช้หรือไม่ ซึ่งนักศึกษาตอบว่า ใช้ค่ะ จากนั้น ก็ได้ร่วมถ่ายรูปกับนักศึกษาอย่างเป็นกันเอง พร้อมกล่าวขอให้ทุกคนตั้งใจเรียน เลือกเรียนคณะที่ตลาดต้องการ
สำหรับวาระการประชุมครม.วันนี้(12 พ.ย.) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) จะนำเสนอแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 ให้ที่ประชุมครม.รับทราบ เพื่อนำไปเป็นกรอบการพิจารณาโครงการและงบประมาณที่จะจัดสรรให้กับกลุ่มจังหวัดที่จะเสนอโครงการเข้าสู่การพิจารณา โดยการพัฒนาพื้นที่กลุ่มจังหวัดนี้ได้วางวิสัยทัศน์การเป็นศูนย์กลางการผลิตและการตลาดสินค้าภาคเกษตร อุตสาหกรรมปลอดภัย และการท่องเที่ยวคุณภาพและสนับสนุนการค้าผ่านแดนในเขตภาคตะวันตก
ขณะเดียวกันสศช.จะเสนอกรอบการพัฒนาพื้นที่ภาคกลางตอนล่าง 1 ให้สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนากรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้เคียงและเชื่อมต่อกันโดยเฉพาะประเด็นการเชื่อมต่อการคมนาคมขนส่งและแหล่งท่องเที่ยว เพื่อกระจายความเจริญและสร้างรายได้เพิ่มให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยสนับสนุนให้เปิดประตู การค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว เชื่อมโยงเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย พื้นที่ภาคกลางและเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยดำเนินการ 4 เรื่องที่สำคัญ ได้แก่ 1.การพัฒนาทางหลวงพิเศษ ระหว่างเมืองและรถไฟเชื่อมกรุงเทพฯ -กาญจนบุรี เพื่อเชื่อมโยงเศรษฐกิจพิเศษชายแดนกับพื้นที่เศรษฐกิจหลักของประเทศให้มีส่วนสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจระหว่างกัน เชื่อมท่าเรือทวาย-สีหนุวิลล์
2.เร่งพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษบ้านพุน้ำร้อน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ให้เป็นประตูเชื่อมระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ จากท่าเรือทวาย-ท่าเรือแหลมฉบัง-ท่าเรือ สีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา ไปจนถึงท่าเรือวังเตา ประเทศเวียดนาม โดยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวความสะดวกให้เชื่อมต่อกันได้ในอนาคต ซึ่งจะทำให้เกิดระเบียงเศรษฐกิจที่สมบูรณ์และได้ประโยชน์ร่วมหลายประเทศ
3.พัฒนาด่านชายแดนไทย- เมียนมา บ้านพุน้ำร้อน ด่านเจดีย์ สามองค์ และด่านสิงขร เพื่อเชื่อมโยง การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว กับเมียนมา โดยจัดระเบียบการใช้ประโยชน์ที่ดินให้สอดคล้องกับการพัฒนาในอนาคต พร้อมทั้งปรับปรุงและพัฒนาระบบโลจิสติกส์ สาธารณูปโภค จุดบริการและ สิ่งอำนวยความสะดวกบริเวณ จุดผ่านแดน ตลอดจนกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง และ4.พัฒนาพื้นที่เมืองและพื้นที่เศรษฐกิจของภาคกลางตามแนวแกนหลักการเชื่อมโยงเศรษฐกิจพิเศษทวายกับอีอีซี โดยจัดเตรียมระบบสาธารณูปโภครองรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพื่อให้เอื้อต่อการพัฒนาการค้า การลงทุน และท่องเที่ยว ระหว่างไทย-เมียนมา
ส่วนประเด็นอื่นที่จะนำเสนอให้รัฐบาลช่วยขับเคลื่อน เช่น โครงการที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคมขนส่งเช่น โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองกรุงเทพฯ-บางใหญ่-กาญจนบุรี จะขอให้รัฐบาลเร่งรัดให้เปิดบริการได้เร็วขึ้น เช่นเดียวกับโครงการคมนาคมและแหล่งน้ำอื่น ๆ ที่อยู่ในแผนการก่อสร้าง โดยจะขอให้เร่งรัดการก่อสร้างให้เร็วขึ้นจากแผนที่มีอยู่
กระทรวงการคลัง โดยนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เสนอครม.พิจารณาโครงการชิม ช้อปใช้ เฟส 3 เน้นส่งเสริมการใช้เงินผ่านออนไลน์ หวังดึงประชาชนลงทะเบียนเพิ่มอีก 2 ล้านคน รวมเป็นผู้ร่วมลงทะเบียนทั้งหมด 15 ล้านคน กระทรวงพาณิชย์ โดย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เสนอครม.พิจารณาอนุมัติวงเงิน 9,671 ล้านบาท ประกันรายได้กษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ฤดูผลิต 62/63 ทั่วประเทศ กก.ละ 2.50 บาทไม่เกินครัวเรือนละ 100 ตัน ประกาศโอนเงินงวดแรกในวันที่ 1 ธันวาคมนี้
กระทรวงคมนาคม โดยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเสนอโครงการเบื้องต้นด้านโครงสร้างพื้นฐาน แบ่งเป็นโครงข่ายทางบก จ.กาญจนบุรี ประกอบด้วย การศึกษาโครงข่ายถนน เชื่อมเส้นทางแนวระเบียงเศรษฐกิจฝั่งตะวันตก (Western Economic Corridor : WEC) ในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี ราชบุรี และ สุพรรณบุรี งบประมาณ 22,000 ล้านบาท และแผนพัฒนาโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ได้แก่ โครงการมอเตอร์เวย์สาย M81 นครปฐม-ชะอำ วงเงิน 80,000 ล้านบาท. – สำนักข่าวไทย