เกษตรฯ เพิ่มใช้ยางในประเทศ 8 แสนตัน

กรุงเทพฯ 30 พ.ย. – เกษตรฯ มั่นใจเพิ่มใช้ยางในประเทศอีก 800,000 ตัน จะกระตุ้นราคาตลาดโลกปรับสูงขึ้น  


นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ทูตเกษตรทุกประเทศสรุปแนวนโยบายการเพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราในประเทศตามมติคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) ซึ่งกำหนดมาตรการต่าง ๆ ให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนรับซื้อยางพาราจากสถาบันเกษตรกรโดยตรง พร้อมทั้งเร่งขับเคลื่อนให้เกิดการใช้ในปริมาณมากและเร็วที่สุด ทั้งนี้ ให้ทูตเกษตรเผยแพร่ปริมาณยางพาราที่จะลดลง เพื่อกระตุ้นราคายางพาราในตลาดซื้อขายล่วงหน้า

นายกฤษฎา กล่าวต่อว่า ตลาดซื้อขายยางพาราล่วงหน้าของโลกเป็นตลาดที่อ่อนไหวต่ออุปสงค์และอุปทาน เนื่องจากทำสัญญาแล้วส่งมอบสินค้าภายหลัง ซึ่งใน 5 ปีที่ผ่านมาราคาซื้อขายล่วงหน้าต่ำลงอย่างต่อเนื่อง เพราะปริมาณยางพาราที่ออกสู่ตลาดโลกมีมาก สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) คาดการณ์ว่าปริมาณยางพาราที่ไทยผลิตปีนี้  4.8 ล้านตัน โดยเป็นผู้ส่งออกยางพาราอันดับ 1 ของโลก ส่งออกประมาณปีละ  4 ล้านตัน หากเพิ่มปริมาณการใช้ในประเทศ 800,000 ตันต่อปี จะไม่มีผลผลิตยางพาราตกค้าง อีกทั้งสตอกยางของผู้ค้าในตลาดโลกลดลง ส่งผลให้ราคาซื้อขายในตลาดล่วงหน้าปรับสูงขึ้น 


“ตามมาตรการทำถนนและสหกรณ์แปรรูปยางนั้น ประมาณการว่าจะใช้ยางไม่ต่ำกว่า 820,320 ตัน อีกทั้งกระทรวงเกษตรฯ ยังจะเชิญบริษัทผลิตล้อยางและบริษัทแปรรูปยางมาลงทุนในไทย โดยจะให้สิทธิพิเศษทางภาษีและส่งเสริมการลงทุนทุกด้าน ซึ่งบริษัทเหล่านี้จะรับซื้อยางโดยตรงจากสถาบันเกษตรกร ดังนั้น จะมีผลให้ราคาซื้อขายยางพาราในไทยสูงขึ้นอย่างแน่นอน” นายกฤษฎา กล่าว

ด้านนายวิษณุ อรรถวานิช อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งวิจัยเกี่ยวกับปัจจัยที่ทำให้ราคายางพาราตกต่ำ พบว่า ราคายางพาราตกต่ำตั้งแต่ปี 2555 ปัจจัยแรก คือ การเพิ่มขึ้นของปริมาณยางในสตอกของตลาดโลกเริ่มสะสม เนื่องจากปริมาณการผลิตมากกว่าการใช้ ทำให้ปี 2561 สตอกยางพาราของโลกสูงเป็นประวัติการณ์ ปัจจัยที่ 2 คือ ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปรับตัวลดลงจากจุดสูงสุดในปี 2554 ทำให้ราคายางสังเคราะห์ซึ่งเป็นสินค้าทดแทนยางพาราปรับตัวลดลง ปัจจัยที่ 3 คือ สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐเริ่มรุนแรงขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคม 2561 ต่างฝ่ายจะปรับขึ้นภาษีศุลกากร ทำให้สินค้าที่มีส่วนประกอบของยางพาราปรับตัวสูงขึ้น มีการคาดการณ์ว่าจะมีการขึ้นภาษีศุลกากรกับสินค้ายางรถยนต์ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้ยางธรรมชาติกว่าร้อยละ 70 ของการใช้ทั้งหมด ทำให้ผู้ผลิตยางรถยนต์ชะลอแผนการผลิตล้อยาง อีกทั้งสงครามการค้าทำให้ค่าเงินหยวนของจีนอ่อนค่าลงส่งผลให้ต้นทุนการซื้อยางพาราจากไทยแพงขึ้น ขณะนี้สตอกยางในจีนซึ่งเป็นผู้ใช้ยางอันดับ 1 ของโลกมีปริมาณสูงขึ้นมาก

จากการคำนวณใช้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์คาดว่าปริมาณการผลิตยางธรรมชาติทั่วโลกปีนี้ 14,453,000 ตัน ขณะที่ปริมาณการใช้ยางธรรมชาติทั่วโลก 13,921,000 ตัน ดังนั้น ปริมาณการผลิตมากกว่าปริมาณการใช้ถึง 532,000 ตัน ทำให้ปริมาณสตอกยางธรรมชาติของโลกที่สะสมมาต่อเนื่องจนถึงปีนี้จะมากถึง 4,665,000 ตัน ตามผลการคำนวณนี้ราคาที่เกษตรกรจะได้รับสูงสุดจึงอยู่ที่ 41.63 บาทต่อกิโลกรัม หากไทยสามารถทำให้ปริมาณยางพาราในประเทศลดลงได้ 1 ล้านตัน ทั้งจากการเพิ่มปริมาณการใช้และลดปริมาณการผลิตจะทำให้ราคายางพาราสามารถปรับเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 9.337-13.667 บาทต่อกิโลกรัม แม้ว่าประเทศผู้ผลิตรายอื่นจะยังคงมีปริมาณการใช้และการผลิตเท่ากับปัจจุบัน 


“มาตรการล่าสุดของ กนย.เร่งใช้ยางพาราในประเทศควบคู่กับลดพื้นที่ปลูกนั้น เป็นนโยบายที่ถูกทาง ต้องดำเนินการให้เร็วที่สุด จึงจะช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนของชาวสวนยางทั้งประเทศได้” นายวิษณุ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดปมสามียิงภรรยาดับคารถ ปัญหาเรื่องเงิน

กทม. 11 มิ.ย. – เปิดปมเหตุสามียิงภรรยาดับคารถ พี่ชายกับเพื่อนรุ่นน้องเผยว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาเรื่องเงิน พบช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป จากกรณีนายมีนาพัฒน์ อายุ 40 ปี ก่อเหตุยิงนางสาวนันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยาของตัวเอง แล้วทิ้งศพไว้ในรถ ในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เขตบางแค และหลังก่อเหตุปิดล็อกประตูเงียบอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่ล้อมจับนาน 4 ชั่วโมง จนยอมมอบตัวเมื่อคืนวานนี้ (10 มิ.ย.) ต่อมาพี่ชายของนายมีนาพัฒน์ มาเยี่ยมผู้ก่อเหตุที่ สน.เพชรเกษม เปิดใจยอมรับว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัญหาเรื่องเงิน เมื่อช่วงเดือนเมษายน น้องสะใภ้ (ผู้ตาย) บอกว่า น้องชายนำบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดกไปเข้าธนาคาร 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งผิดจากปกติที่น้องไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินมาก่อน เพราะแม่ยกสมบัติให้เยอะมาก ครั้งสุดท้ายที่คุยกับน้องชายคือเมื่อวานนี้ช่วง 19.30 น. น่าหลังจากก่อเหตุฆ่าภรรยาแล้ว คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงสังเกตได้ว่าน้องชายมีอาการสับสน พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มีบางประโยคที่น้องชายพูดออกมาแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ เรื่องบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดก บอกว่า “บ้านหลังนี้ครอบครัวเราจะต้องได้อยู่” […]

ตำรวจภาค 8 รวบ 3 ราย ขบวนการส่งยาขนมากับรถทัวร์

กระบี่ 11 มิ.ย. – รวบขบวนการค้ายาบ้า ขนมากับรถทัวร์ สายเชียงใหม่-ภูเก็ต 3 แสนเม็ด แวะลงกระบี่ ส่งให้เอเย่นต์สาขาสุราษฎร์ฯ ตำรวจรวบทีเดียวทั้งคนส่งและคนรับ นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผบช.ภ.8 รักษาการ ผบ.ภ.จ.กระบี่ แถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ได้ผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 300,000 เม็ด ประกอบด้วย นายสัมพันธ์ อายุ 54 ปี นายสุรพล อายุ 30 ปี และนางสาวสุนารี อายุ 27 ปี พร้อมยึดรถเก๋ง 1 คัน และแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน การจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการส่งมอบยาบ้ากันบริเวณสามแยกเขาต่อ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เมื่อถึงเวลาก็มีรถทัวร์สายเชียงใหม่-ภูเก็ต […]

‘ฮุน มาเนต’ ย้ำทหารกัมพูชาไม่ได้ถอยออกจากพื้นที่

ปารีส 10 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งสารจากฝรั่งเศสถึงชาวกัมพูชา ยืนยันจุดยืนกองทัพไม่ได้ถอนออกจากพื้นที่ภายใต้อธิปไตย พร้อมร่วมมือกับไทยปักปันเขตแดน ตามกลไกเจบีซี ยกเว้น 4 จุดที่จะส่งศาลโลกตัดสิน ฮุน มาเนต ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุมว่าด้วยมหาสมุทรของสหประชาชาติ ครั้งที่ 3 ที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Hun Manet ส่งสารถึงชาวกัมพูชา มีใจความดังนี้ กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางแก้ไขปัญหานี้โดยสันติ แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการพยายามรุกรานใดๆ กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะเข้าร่วมสนับสนุนกลไกการเจรจาชายแดนกับไทยที่มีคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม เพื่อดำเนินงานรังวัดและปักปันเขตแดนที่เหลือระหว่าง 2 ประเทศต่อไป ยกเว้นประเด็นที่กัมพูชาจะส่งให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ไอซีเจ (ICJ) พิจารณา

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

ข่าวแนะนำ

จากด่านสู่ดุลอำนาจ

จากด่านสู่ดุลอำนาจ : ไทย-กัมพูชา กับบทบาทใหม่ของเศรษฐกิจ

ใครพึ่งใคร? – วิเคราะห์แรงกดดันเศรษฐกิจชายแดนต่อกัมพูชา หลังไทยจำกัดการข้ามแดน กรณีพิพาทบริเวณช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี แม้เคยเกิดเหตุปะทะเล็กน้อยระหว่างทหารของทั้งสองฝ่าย แต่ในเวลาต่อมา กัมพูชาตัดสินใจถอยกำลังออกจากพื้นที่ โดยไม่มีการยกระดับความขัดแย้ง กลายเป็นกรณีศึกษาสำคัญของ “ความมั่นคงยุคใหม่” ที่ไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธเป็นตัวตัดสิน หากแต่เกิดจากแรงกดดันทางเศรษฐกิจที่ไทยเลือกใช้ แทนการเผชิญหน้าด้วยแสนยานุภาพ ผ่าน “มาตรการจำกัดการข้ามแดน” ที่บีบช่องทางการเคลื่อนย้ายคน สินค้า และระบบโลจิสติกส์ โดยเฉพาะที่ด่านอรัญประเทศ – จุดยุทธศาสตร์ซึ่งถือเป็นหัวใจของการค้าชายแดนไทย–กัมพูชา จุดเปลี่ยน : เมื่อเศรษฐกิจกลายเป็นเครื่องมือของความมั่นคงไทยเลือกใช้ “แรงบีบเชิงเศรษฐกิจโดยสันติวิธี” เป็นกลยุทธ์กดดันคู่ขนานกับการเจรจา ผ่านมาตรการสำคัญ ได้แก่ : ไทยยังส่งสัญญาณชัดว่า พร้อมจะยกระดับมาตรการเหล่านี้ หากสถานการณ์ตามแนวชายแดนยังตึงเครียด มาตรการซึ่งสำหรับกัมพูชาแล้ว เปรียบเสมือนกดทับ “เส้นเลือดใหญ่ทางเศรษฐกิจ” ของฝั่งตะวันตกที่ต้องพึ่งพาการค้าข้ามแดนจากไทยเป็นหลัก ไทย : ผู้ถือ “กุญแจด่าน” และพลังการค้าข้ามพรมแดนข้อได้เปรียบของไทยยิ่งชัดเจน เมื่อพิจารณาจากตัวเลขการค้าข้อมูลจากกรมการค้าต่างประเทศ (เมษายน 2568) ระบุว่า การค้าชายแดนไทย-กัมพูชามีมูลค่ารวม 64,612 ล้านบาท ในช่วง 4 เดือนแรกของปี เพิ่มขึ้น […]

ลุ้นมติแพทยสภาวันนี้ ปมลงโทษ 3 หมอกรณีชั้น 14

กทม. 12 มิ.ย.-ที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา เริ่มการประชุมแล้ว โดยวาระที่ต้องจับตา คือการลงมติชี้ขาดโทษแพทย์ 3 ราย กรณีรักษา “ทักษิณ” ชั้น 14 รพ.ตำรวจ กรรมการแพทยสภา เริ่มทยอยเดินทางเข้าห้องประชุมตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา การประชุมคณะกรรมการบริหารแพทยสภา จัดขึ้นทุกวันพฤหัสบดีที่ 2 ของทุกเดือน โดยวันนี้มีวาระที่สังคมจับตา คือการพิจารณามติลงโทษแพทย์ 3 คน จากโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ที่รักษานายทักษิณ ชินวัตร บนชั้น 14 หลังจาก นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข วีโต้คัดค้านความเห็นมติการลงโทษแพทย์ทั้ง 3 รายในการประชุมครั้งที่แล้ว โดยวันนี้มีรายงานว่า นายสมศักดิ์ จะเข้าชี้แจงต่อที่ประชุมในเวลา 12.00 น. โดยมีเวลา 15 นาทีในการชี้แจง จากนั้นต้องออกจากห้องประชุมทันที เพราะเป็นการประชุมลับ รศ.พญ.ประสบศรี อึ่งถาวร หนึ่งในกรรมการแพทยสภาโดยเลือกตั้ง ให้ข้อมูลก่อนเข้าประชุมว่า การที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สธ. ในฐานะสภานายกพิเศษแพทยสภาจะเข้าร่วมการประชุม ไม่ถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติ เพราะที่ผ่านมา […]

ภรรยาช็อก สามีเสียชีวิตกลางวงสังสรรค์ที่อิสราเอล

อุดรธานี 12 มิ.ย. – ภรรยาช็อก สามีเสียชีวิตที่อิสราเอล นั่งคุยกับเพื่อนเรื่องลูกสาว จู่ๆ วูบดับคาโต๊ะกลางวงสังสรรค์ เชื่อทำงานต่างแดน โหมงานหนักจนเสียชีวิต เมื่อวานนี้ (11 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฤษฎาง พูนเจ๊กมะดัน อายุ 39 ปี ชาวบ้านลานเต อ.ประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี เสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลว เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.68 ขณะไปทำงานที่อิสราเอล เจ้าหน้าที่จากสำนักงานจัดหางานจังหวัดอุดรธานี ประกันสังคมจังหวัด แรงงานจังหวัด และผู้สื่อข่าว เดินทางลงพื้นที่ร่วมแสดงความเสียใจกับครอบครัว จากการตรวจสอบข้อมูล ทราบว่า นายกฤษฎาง เคยเดินทางไปทำงานในรัฐอิสราเอลเมื่อปี พ.ศ.2553 โดยบริษัทจัดหางานจัดส่ง ต่อมาได้เดินทางไปทำงานในประเทศไต้หวัน เมื่อวันที่ 6 พ.ค.67 ภายหลังได้รับการติดต่อจากนายจ้างในรัฐอิสราเอลให้เดินทางกลับไปทำงานอีกเป็นครั้งที่ 2 จึงได้ตัดสินใจเดินทางเข้าไปทำงานต่อในรัฐอิสราเอลเมื่อ ม.ค.68 ในส่วนข้อมูลประกันสังคมพบข้อมูลผู้เสียชีวิตสิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2551 และมีเงินสะสมกรณีบำเหน็จชราภาพ จำนวน […]

ร่างตัวประกันไทยรายสุดท้ายที่เสียชีวิตในกาซา ถึงไทยแล้ว

11 มิ.ย. – ร่างแรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันและเสียชีวิตในฉนวนกาซา ถึงไทยแล้ว ด้านกระทรวงแรงงาน เผยเร่งช่วยเหลือครอบครัวและทายาท ร่างของนายณัฐพงษ์ ปินตา แรงงานไทยที่ถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกันและเสียชีวิตในฉนวนกาซา ที่ถูกส่งกลับมาด้วยสายการบินอิสราเอลแอร์ไลน์ ออกเดินทางจากกรุงเทลอาวีฟ ได้เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เรียบร้อยแล้ว เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (11 มิ.ย.) โดยมี นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และ น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ ที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงผู้แทนเอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย มารอรับ และร่วมวางพวงหรีดหน้าหีบศพเพื่อแสดงความอาลัย โดยนายณัฐพงษ์ เป็นตัวประกันแรงงานไทยรายสุดท้ายที่ค้นพบร่างและสามารถส่งกลับไทยได้ สำหรับการช่วยเหลือเยียวยาที่ทายาทจะได้รับ คือ 1.ในส่วนของสถาบันประกันภัยอิสราเอล กรณีแรงงานเสียชีวิต ครอบครัวหรือทายาทจะได้รับเงินชดเชย ได้แก่ ค่าทำศพ ประมาณ 79,000 บาท, ค่าใช้จ่ายในการฝังศพเท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 47,000 บาท (1,300 USD), เงินช่วยเหลือการเป็นม่าย (หากมีภรรยา) ประมาณ 57,000 บาท, เงินชดเชยรายเดือนและรายปีอื่นๆ […]