องค์กรต้านคอร์รัปชั่นฯ ทำโพลต้านโกง รับเลือกตั้ง

กรุงเทพฯ 29 พ.ย.-องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ จับมือ ม.หอการค้าไทย มูลนิธิเพื่อคนไทย และภาคี ทำโพลต้านโกง รับเลือกตั้ง 


องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มูลนิธิเพื่อคนไทย จัดการประชุมความร่วมมือภาคีเครือข่ายร่วมขยายผล “โพลต้านโกง” มีภาคีเครือข่ายภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งเครือข่ายวิชาการ เครือข่ายคนรุ่นใหม่ เครือข่ายสื่อ และเครือข่ายประชาชน จัดทำ “โพลต้านโกง” และขยายผล เข้าร่วมประชุมหารือและแถลงข่าวร่วมกัน 

นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) พยายามจะสร้างพลังประชาชนให้เกิดการตื่นรู้สู้โกง และออกมารณรงค์ เพื่อจะต่อต้านคอร์รัปชันในภารกิจหลาย ๆ เรื่อง ในโอกาสที่จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นปี 2562 จึงคิดว่าทำอย่างไรจะทำให้เสียงของประชาชนในเรื่องการต่อต้านคอร์รัปชันถูกรับฟังโดยพรรคการเมืองต่าง ๆ และนำไปจัดทำเป็นนโยบายแนวปฏิบัติ ดังนั้นในการเลือกตั้งปี 2562 น่าจะถึงเวลาที่พรรคการเมืองไทยควรมีนโยบายด้านการต่อต้านคอร์รัปชันอย่างจริงจัง และเป็นโอกาสของพรรคการเมืองด้วยที่จะใช้จังหวะนี้ประกาศเป็นนโยบายหาเสียงช่วงเลือกตั้ง 


“เป็นโอกาสสำคัญของประชาชนที่จะสามารถสะท้อนเสียงตัวเองออกไปในฐานะที่เป็นเจ้าของประเทศว่ามีความต้องการให้พรรคการเมืองและนักการเมืองไทยดำเนินการเรื่องการต่อต้านคอร์รัปชันอย่างไร ผ่านโพลที่ทางมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยดำเนินการ โดยพร้อมจะแถลงผลโพลในวันที่ 20 ธันวาคม 2561 เพื่อให้ทันกับที่พรรคการเมืองต่าง ๆ จะนำไปพัฒนาเป็นนโยบายในการหาเสียง แต่สำคัญกว่านั้นคือ จะต้องทำจริงตามสัญญาด้วย หลังพ้นช่วงเลือกตั้ง” นายประมนต์ กล่าว 

นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า “โพลต้านโกง” หรือ โครงการสำรวจความคิดเห็นประชาชนต่อนโยบายต่อต้านคอร์รัปชันของพรรคการเมืองและนักการเมืองไทยในการเลือกตั้ง 2562” มีประชากรเป้าหมายเป็นประชาชนทั่วไป ขนาดตัวอย่างไม่น้อยกว่า 3,000 ตัวอย่าง โดยมีสัดส่วนกลุ่มที่จะได้มีโอกาสเลือกตั้งครั้งแรกกับกลุ่มที่เคยเลือกตั้งมาแล้ว คิดเป็นสัดส่วน 1: 6 กระจายตัวอย่างทั่วประเทศ เกี่ยวกับความคาดหวังต่อการขับเคลื่อนงานต่อต้านคอร์รัปชันของพรรคการเมืองและนักการเมือง ในด้าน 1.การขับเคลื่อนนโยบายระดับประเทศ 2.การขับเคลื่อนการทำงานของพรรคการเมือง และ 3.การปฏิบัติตนของนักการเมือง ระยะเวลาโครงการ 30 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน-15 ธันวาคม 2561 และยังมีการสำรวจในช่องทางออนไลน์ ผ่านเวบไซต์ www.แจกการบ้านนักการเมืองต้านโกง.com ในช่วงวันที่ 1-14 ธันวาคม 2561 คาดว่าจะได้จำนวนประชากรเป้าหมายอย่างน้อย 5,000 คน โดยจะมีการแบ่งปันข้อมูลข่าวสารเพื่อให้เกิดการกระจายโพลออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ผ่านช่องทางออนไลน์ของภาคีเครือข่ายต่าง ๆ คาดว่าจะสามารถรวมเสียงของประชาชนได้ไม่น้อยกว่า 8,000  ตัวอย่าง ถือเป็นจำนวนที่มีความน่าเชื่อถือในทางสถิติ 

“จากผลสำรวจล่าสุดของปีนี้ พบว่าประชาชนร้อยละ 99 ไม่ทนต่อการคอร์รัปชัน กับร้อยละ 86 บอกว่าพร้อมจะมีส่วนร่วมในการป้องกันต่อต้านการทุจริต โพลต้านโกงนี้จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะไปเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน ให้เป็นเจ้าของประเด็นต่อต้านคอร์รัปชันตั้งแต่แรก และหากพรรคการเมืองรับข้อเสนอของผลโพลไปเป็นนโยบาย ย่อมเท่ากับว่าสังคมไทยเกิดนโยบายการแก้ปัญหาคอร์รัปชันในระบบมาจากการฟังเสียงประชาชน” นางเสาวณีย์ กล่าว 


นายวิเชียร พงศธร ประธานกรรมการมูลนิธิเพื่อคนไทย กล่าวว่า ด้วยกระบวนการของโพลต้านโกงมีหลายขั้นตอน การจะสำเร็จได้ต้องอาศัยความร่วมมือของหลายองค์กร เริ่มจากองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ผู้มีพันธกิจหลักในการสร้างเสริมพลังประชาชนร่วมต้านโกง และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านเครื่องมือสำรวจวิจัย ขณะที่มูลนิธิเพื่อคนไทยจะมุ่งเน้นเชื่อมโยงภาคีเครือข่ายให้เข้ามาช่วยกันขยายผลโพล เพื่อให้กระบวนการต่าง ๆ สมบูรณ์ขึ้น โดยต้องอาศัยภาคีเครือข่ายจำนวนมาก ช่วยกันกระจายเสียงของประชาชนที่โพลรวบรวมไว้สู่สาธารณะ แล้วให้พรรคการเมืองนำไปเป็นนโยบาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นภาคีกลุ่มคนรุ่นใหม่ ได้แก่ สถาบันเชนจ์ฟิวชั่น,  แฮนด์ วิสาหกิจเพื่อสังคม, ทูลมอโร, วายน็อต, โอเพ่นดรีม, สยามอาสา เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีภาคีวิชาการและสื่อมวลชน ตลอดจนผู้นำจากภาคส่วนต่าง ๆ ที่จะช่วยขยายผลในช่องทางโซเชียลมีเดียส่วนบุคคล อีกจำนวนมาก 

“กระบวนการทำงานนำไปสู่ผลลัพธ์ ไม่ได้จบแค่ผลโพล ยังมีเรื่องการติดตามพันธสัญญานักการเมืองอย่างต่อเนื่อง หลังเลือกตั้ง เครือข่ายภาคประชาชนร่วมขยายผลใน 3 ด้าน  ได้แก่ 1.ช่วยแชร์โพลออนไลน์ให้เข้าถึงประชาชนมากที่สุด ในช่วงวันที่ 1-14 ธันวาคม 2.ร่วมกระจายผลโพล หรือข้อเสนอของประชาชนในวงกว้างในรูปแบบต่าง ๆ อาจเป็นเวทีสาธารณะ หรือกิจกรรมอื่นใด ให้เกิดพันธะสัญญาสู้โกงของพรรคการเมือง ในช่วงมกราคมและกุมภาพันธ์ ก่อนการเลือกตั้ง 2562 และ 3.ร่วมติดตามตรวจสอบคำสัญญานักการเมืองอย่างต่อเนื่องหลังเลือกตั้ง” นายวิเชียร กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“พล.ท.บุญสิน” ยันยังไม่ดำเนินการโครงการอบรมโดรนเกษตร

กทม. 12 ก.ย.- “พล.ท.บุญสิน” แจงบริษัทเอกชนมามอบของ-ถ่ายรูป พร้อมเสนอโครงการอบรมโดรนเกษตร ยืนยันยังไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อวันที่ 12 ก.ย.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีที่มีบริษัทเอกชนเข้ามาถ่ายรูปร่วมกับแม่ทัพภาคที่ 2 โดยมีการนำโครงการ “อบรมการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ให้กับทหารเพื่อเป็นการเพิ่มทักษะ เพื่อใช้ในการเกษตร” วานนี้ (11 ก.ย.) ว่า บริษัทดังกล่าวได้เข้ามาพบเหมือนกับพี่น้องประชาชนและบริษัทต่างๆ ที่เข้ามาพบมอบของ เพียงแต่ว่าทางบริษัทนี้เข้ามานำเสนอโครงการโดรน ตนก็ไม่ได้พูดคุยอะไรมาก เพียงแต่รับฟังไว้ ประมาณ 10 นาที ทางคณะดังกล่าวก็ขอถ่ายภาพ ก่อนเดินทางกลับ “ผมยืนยันว่า ยังไม่ได้มีการดำเนินการทำอะไรเลย ยังไม่ผ่านการตรวจสอบให้รอบคอบ ยืนยันอีกครั้งยังไม่ได้ดำเนินการอะไรทั้งนั้น” พล.ท.บุญสิน กล่าว.-313.-สำนักข่าวไทย

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

ผลักดัน “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว 7 คน กลับกัมพูชา

จันทบุรี 12 ก.ย. – ตม.ศรีสะเกษ ประสาน ตม.จันทบุรี ส่งตัว “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว รวม 7 คน กลับกัมพูชา หลังถูกกล่าวหาเป็นไส้ศึก และถูกชาวบ้านรวมตัวขับไล่ ทั้งยังพบอาศัยอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ นำตัวนางเขื่อน ชาวกัมพูชา และสมาชิกครอบครัว รวมทั้งหมด 7 คน เดินทางไปที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จ.จันทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รอรับตัวอยู่ก่อนแล้ว เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา เนื่องจากที่ผ่านมา นางเขื่อน ถูกชาวบ้านในพื้นที่ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ รวมตัวกันขับไล่ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็น “ไส้ศึก” คอยส่งข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทหารไทยให้กับฝ่ายกัมพูชา และยังพบว่าทั้งหมดอาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จึงดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบการต่างประเทศ เพื่อส่งตัวกลับภูมิลำเนา. – สำนักข่าวไทย

“ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – “ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ งบปี 69 เน้นเส้นเลือดฝอยคู่เส้นเลือดใหญ่ สถานการณ์น้ำตอนนี้ เตรียมรับน้ำเหนือ-พายุ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2568 ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า วันนี้เป็นการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระที่สองและวาระที่สาม ซึ่งจะมีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างเข้มข้น เนื่องจากกว่า 30 วันที่ผ่านมา น่าจะได้ข้อสรุปว่าจะเพิ่มหรือลดงบประมาณอย่างไร ในจุดไหนบ้าง โดยผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน สำหรับงบประมาณส่วนใหญ่ได้ตามที่ตั้งเสนอของบฯ ไว้ โดยจะเน้นงบประมาณลงพื้นที่เขตมากขึ้น เช่น การก่อสร้างและปรับปรุงถนน การก่อสร้างฝายถนน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเส้นเลือดฝอย รวมถึงงบประมาณที่จะพัฒนาเส้นเลือดใหญ่ เช่น ก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ การติดตั้งเซ็นเซอร์วัดการสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวที่จะติดตั้งบนอาคารสูงของโรงพยาบาลแห่งใหม่ ก็ได้ตามที่เสนอของบประมาณไว้ […]