สบส.แนะสาวน้อยสาวใหญ่พิจารณารอบด้านก่อนเสริมหน้าอก

สบส.28 พ.ย.-กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ แนะสตรีพิจารณาให้รอบด้านก่อนเสริมความงาม โดยเฉพาะการศัลยกรรมเสริมหน้าอก ต้องพร้อมในทุกด้าน ทั้งการเติบโตของร่างกาย สุขภาพแข็งแรง และต้องรับบริการจากสถานพยาบาล-แพทย์ที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น


จากกรณีหญิงสาวรายหนึ่งเข้าร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน ว่าเข้ารับบริการศัลยกรรมเสริมความงามบริเวณหน้าอกกับคลินิกแห่งหนึ่งย่านรังสิต แต่พบว่าเกิดการติดเชื้อจากการศัลยกรรมและมีการกล่าวอ้างว่าพบผู้เสียหายในลักษณะเดียวกันอีกหลายราย นั้น


วันนี้ (28 พ.ย.) นพ.ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า จากการตรวจสอบข้อมูลในเบื้องต้นพบว่าคลินิกดังกล่าวตั้งอยู่ จังหวัดปทุมธานี ซึ่งขณะนี้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ปทุมธานี ได้รับทราบข้อมูลแล้วและอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบมาตรฐานคลินิกของดังกล่าว โดยจะมุ่งตรวจสอบในประเด็นสำคัญตามที่พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 กำหนด 2 ประเด็น คือ 1) คลินิกที่ถูกกล่าวอ้าง มีการขออนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลอย่างถูกต้องตามกฎหมายกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฯ หรือไม่ และ2) หากคลินิกดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการอย่างถูกต้องแล้ว ผู้ดำเนินการสถานพยาบาลได้ควบคุม ดูแล คุณภาพ มาตรฐานของสถานพยาบาล ครบถ้วนทั้ง 5 ด้าน ตามที่กฎหมายกำหนด หรือไม่ ประกอบด้วย 1.สถานที่มีความสะอาด เหมาะสมกับการเป็นสถานพยาบาล 2.แพทย์ผู้ให้บริการมีใบประกอบวิชาชีพฯ 3.มีการให้บริการที่ถูกต้องตามมาตรฐานวิชาชีพและประเภทสถานพยาบาล 4.ยาและเวชภัณฑ์ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และ5.ด้านความปลอดภัย มีการเตรียมความของพร้อมอุปกรณ์ช่วยชีวิตหากเกิดเหตุฉุกเฉินกับผู้รับบริการ หากพนักงานเจ้าหน้าที่ฯตรวจสอบพบว่ามีการฝ่าฝืนกฎหมายหรือตกมาตรฐานแม้ด้านใดด้านหนึ่งจะดำเนินการลงโทษตามกฎหมายโดยทันที 


นพ.ณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า แม้ว่าการศัลยกรรมเสริมความงามจะเป็นสิทธิส่วนบุคคล  แต่ต้องขอเน้นย้ำให้ทุกคนพิจารณาอย่างถี่ถ้วน โดยเฉพาะการเสริมความงามบริเวณหน้าอก จะต้องพิจารณาให้ดี ทั้งช่วงอายุจะต้องเหมาะสมให้ร่างกายมีการเจริญเติบโตอย่างเต็มที่ สุขภาพแข็งแรงไม่มีอาการติดเชื้อ , ไม่มีประวัติป่วยเป็นโรคมะเร็ง, ไม่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เนื่องจากการศัลยกรรมเสริมหน้าอกอาจมีผลต่อการรักษาและเป็นข้อคำนึงด้านความปลอดภัยของหญิงกำลังตั้งครรภ์และให้นมบุตร อีกทั้งคลินิกและแพทย์ที่ให้บริการก็จะต้องขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ด้านทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กล่าวว่า เพื่อความปลอดภัยก่อนรับบริการทางแพทย์ทุกครั้งขอให้ประชาชนตรวจสอบหลักฐานสำคัญของทั้งสถานพยาบาลและแพทย์ โดยสามารถตรวจสอบชื่อของสถานพยาบาล ผ่านเว็บไซต์ สำนักสถานพยาบาลฯ (http://mrd-hss.moph.go.th) ที่ไอคอนตรวจสอบคลินิก/รพ.เอกชน โดยพิมพ์ชื่อคลินิกเป็นภาษาไทยให้ถูกต้องตามป้ายคลินิกก็จะรู้ทันที และในส่วนของแพทย์ให้ตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ของแพทยสภา (www.tmc.or.th) โดยพิมพ์ชื่อ-นามสกุล ของแพทย์ที่ให้บริการ หากไม่ปรากฏให้ตั้งข้อสงสัยว่าบุคคลนั้นมิใช่แพทย์ และให้แจ้งได้ที่ กรม สบส.หรือ สสจ.เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ ผู้ใดลักลอบเปิดคลินิกจะมีความผิดตามพ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541  มีระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และในกรณีที่ผู้ดำเนินการใช้หมอเถื่อนมาให้บริการทางการแพทย์ในสถานพยาบาล มีระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้ง ตัวหมอเถื่อนเองก็ถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับอีกด้วย .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร