พล.อ.ประยุทธ์เผยรอพรรคการเมืองทาบนั่งบัญชีรายชื่อนายกฯ

ทำเนียบฯ 26 พ.ย.- “พล.อ.ประยุทธ์” เผย รอพรรคการเมืองทาบทาม นั่งบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรี หากตรงกับใจก็เป็นไปตามนั้น  ยันไม่สมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมือง จะมีความชัดเจนหลังกฎหมายเลือกตั้งส.ส.มีผลบังคับใช้  ชี้การย้ายพรรคของอดีตส.ส.เป็นเรื่องปกติ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือสั่งการให้ใครย้ายไปอยู่พรรคใด


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ที่ประชุม คสช. ได้หารือเกี่ยวกับการนัดพรรคการเมืองพูดคุยในวันที่ 7 ธันวาคมนี้  โดยจะเป็นการรับฟังความเห็นและชี้แจงขั้นตอนทางกฎหมาย  รัฐบาลยินดีรับฟังและหาทางออก ทั้งเรื่องที่ทำได้และทำไม่ได้ ดังนั้นขออย่าทำให้ความขัดแย้งเกิดขึ้นอีก เพราะวันที่ 7 ธันวาคม ถือเป็นการเริ่มต้นไปสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์  ซึ่งหลังการพูดคุยกับพรรคการเมืองเสร็จสิ้น น่าจะได้คำตอบที่ชัดเจนเกี่ยวกับการปลดล็อกให้พรรคการเมืองทำกิจกรรม โดยจะปลดล็อกให้เร็วที่สุด และหลังจากนั้นให้ปฏิบัติตามกฎหมายและข้อปฏิบัติของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพราะ คสช. มีหน้าที่ปลดล็อก ส่วนที่เหลือเป็นเรื่องของ กกต.

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีความสนใจทางการเมือง เพราะวันนี้ทำงานการเมืองและบริหารประเทศอยู่ ไม่สนใจคงไม่ได้ และจำเป็นต้องสนใจงานการเมืองต่อไป ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในประเทศหลังจากนี้ การบริหารประเทศจะเป็นไปตามยุทธศาสตร์และแผนแม่บทหรือไม่ สิ่งที่รัฐบาลชุดนี้ได้แก้ไขและปฏิรูปไปแล้ว จะได้รับการสานต่อหรือไม่ อยากให้ทุกคนสนใจเรื่องนี้มากกว่าไปรับฟังคำบิดเบือน ไม่ว่าจะเป็นกรณีการยกเลิกที่ดิน ส.ป.ก. ว่าจะเอาที่ดินดังกล่าวคืนทั้งหมด ซึ่งไม่เป็นความจริง รวมถึงการบิดเบือนเรื่องการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอย ที่จะให้กลับมาดำเนินการแบบเดิมได้ทั้งหมด เพื่อไม่ให้พ่อค้าแม่ค้าได้รับความเดือดร้อน รวมไปถึง เรื่องราคายางพารา จึงขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการรับฟัง 


ส่วนกรณีที่สื่อมวลชนตั้งคำถามว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีสนใจการเมือง จะต้องสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองนั้น  พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้สอบถามฝ่ายกฎหมายแล้ว ยืนยันว่าตนไม่ต้องสมัครอะไรทั้งสิ้น และขณะนี้ยังไม่มีพรรคการเมืองใดทาบทามให้เข้าร่วมงานทางการเมือง มีแต่สื่อมวลชนที่ทาบทามให้ตนทุกวัน

“เมื่อกฎหมายออกมาบังคับใช้ ทุกอย่างจะเกิดความชัดเจนเอง และหากพรรคการเมืองที่มาทาบทามผม ให้เป็นหนึ่งในบัญชีรายชื่อของบุคคลที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี และตรงกับใจที่ผมคิดไว้  ก็เป็นไปตามนั้น ไม่ต้องถามว่าตอนนี้ตัดสินใจแล้วกี่เปอร์เซนต์ เพราะเมื่อถึงเวลาตัดสินใจ และถึงเวลาที่ต้องเสนอชื่อนายกฯ ทุกอย่างก็จะร้อยเปอร์เซนต์” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว  

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการย้ายพรรคของอดีต ส.ส.ในขณะนี้ว่า เป็นเรื่องความสมัครใจของแต่ละคน และเป็นเรื่องปกติที่มีมาโดยตลอดในทางการเมือง ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไปสั่งการให้ใครย้ายไปพรรคไหนได้ ทุกคนสามารถย้ายพรรคได้หมด หากเห็นว่านโยบายทางการเมืองตรงใจและหลายคนก็อยากจะแก้ไขปัญหาข้อบกพร่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในอดีต ถือเป็นสิ่งที่ดี ดังนั้นจะต้องเรียนรู้ เพราะระบบการเลือกตั้งของเราเป็นอย่างไรก็รู้กันอยู่ ดังนั้นต้องเอานโยบาย หลักการและเหตุผล การปฏิบัติตามยุทธศาสตร์ชาติมาเป็นหลัก 


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า พรรคใดก็ตามที่ดำเนินการแบบนี้ ก็น่าจะไปสู่ความสำเร็จ แต่หากทำอย่างอื่นก็จนใจ เพราะตนไม่เกี่ยวข้องและไม่สามารถรับผิดชอบได้ หากวันข้างหน้าแก้ไขไม่ได้ ก็คงกลับมาที่ตน ที่จะถูกตำหนิว่าเสียของ ดังนั้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชนในวันข้างหน้า และขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้ง ซึ่งใครจะเป็นก็ยังไม่ทราบ แต่หากนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่อย่างมีธรรมาภิบาล ทุกอย่างคงจบ ดังนั้นต้องหานายกรัฐมนตรีที่เป็นเช่นนั้นมา 

ต่อข้อถามว่า ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน นิด้าโพล ที่กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ มีความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรี ลดลง และมีความนิยมน้อยกว่าคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ุ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าไม่ได้รู้สึกอะไรกับผลโพล เพราะการทำโพล มีขั้นตอน และมีเป้าหมายในการสอบถามความเห็นประชาชน  กลุ่มตัวอย่างเพียง 2-3 พันคนเท่านั้น ไม่ใช่ความเห็นของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทุกคน  การนำเสนอผลสำรวจ จะต้องดูจุดประสงค์ในการตั้งคำถาม และกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงการจัดทำจะมีเบื้องหลังหรือไม่ ซึ่งส่วนตัวให้ความสำคัญกับความคิดเห็นของประชาชนมากกว่า .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชิงทอง

สอบเครียด! คนร้ายชิงทอง 113 บาท สารภาพเอาไปจำนำบางส่วน

สอบเครียดทั้งคืน ผู้ต้องหาชิงทอง 113 บาท รับสารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน ซื้อเบ้าหลอมเพื่อให้ยากต่อการติดตามของตำรวจ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด

ข่าวแนะนำ

ทำแผนชิงทอง

คุมทำแผนโจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท

คุมตัวทำแผน โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท ในห้างฯ ย่านลำลูกกา สารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน และซื้ออุปกรณ์หลอมทองเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่

จับเรือประมงเมียนมา

จับเรือประมงเมียนมา รุกล้ำน่านน้ำไทย

ศรชล.ภาค 3 จับกุมเรือประมงเมียนมาพร้อมลูกเรือ 13 คน ขณะลักลอบนำเรือประมงจอดลอยลำในทะเลอาณาเขตของไทย บริเวณ จ.ระนอง ใกล้เกาะค้างคาว