กทม. 22 พ.ย.-กระทรวงวัฒนธรรมได้เลือกวัดราชาธิวาสวิหาร พระอารามหลวงชั้นโท ในเขตดุสิต เป็นสถานที่จัดงานวันลอยกระทงประจำปีนี้ ด้วยความเก่าแก่ เปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์ที่ทรงคุณค่า อีกทั้งตั้งอยู่ใกล้ท่าวาสุกรี สถานที่ลอยพระประทีปของพระมหากษัตริย์
วัดราชาธิวาสฯ หรือวัดอันเป็นที่ประทับของพระราชา ศาสนสถานเก่าแก่กว่า 700 ปี ตั้งตระหง่านริมแม่น้ำเจ้าพระยา สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยสุโขทัย ก่อนผูกพัทธสีมาในช่วงกรุงศรีอยุธยาแตก จากอดีตเป็นวัดป่าที่ตั้งสำนักกรรมฐาน ที่ศึกษาพระไตรปิฎกอย่างเคร่งครัด มีพระมหากษัตริย์และเจ้านายผู้ใหญ่ในพระบรมราชจักรีวงศ์หลายพระองค์เสด็จมาทรงผนวชและปฏิบัติธรรม ทั้งยังเป็นวัดแรกที่ถือกำเนิดคณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย
ความงามของวัดถูกฉายชัดผ่านการออกแบบสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างศิลปะไทยและตะวันตก อย่างพระเจดีย์ รูปทรงคล้ายศิลปะศรีวิชัย ซึ่งสร้างครอบเจดีย์เดิมในสมัยรัชกาลที่ 5 มีพระพุทธรูปศิลาและมหายาน 4 องค์ ประดิษฐานที่ซุ้มพระเจดีย์ทั้ง 4 ทิศ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่รัชกาลที่ 5 ทรงนำมาจากประเทศอินโดนีเซีย ขณะที่พระอุโบสถของวัดออกแบบโดยเจ้าฟ้าศิลปิน กรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ คล้ายนครวัดขอม ภายในมีพระสัมพุทธพรรณี เป็นพระประธาน มีนพปฎลมหาเศวตฉัตรและซุ้มคูหาล้อมรอบ ขณะที่ภาพจิตรกรรมฝาผนัง ฝีมือจิตรกรชาวอิตาลี ที่ใช้สีปูนเปียกบอกเล่าเรื่องราวพระเวสสันดรชาดก
โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นสัมพันธ์กับสายน้ำ เพราะหันทางทิศตะวันตก ซึ่งต่างจากโบสถ์ทั่วไปที่หันทิศตะวันออก เพื่อให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตคนในอดีตที่สัญจรทางน้ำ ที่สำคัญยังเอื้อกับการลอยกระทงที่วัดจัดขึ้นทุกปี ด้วยวัดสร้างขึ้นในสมัยสุโขทัย ชาวบ้านจึงรับความเชื่อและวัฒนธรรมการขอขมาพระแม่คงคา และการสะเดาะเคราะห์ ขณะเดียวกันท่าน้ำใกล้เคียงวัด เป็นท่าวาสุกรี หรือพระตำหนักแพ สถานที่ประกอบพระราชพิธีลอยพระประทีปของกษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์
ลุงชัย วัย 75 ปี เกิดและโตในชุมชนใกล้วัดราชาฯ เล่าบรรยากาศความสนุกสนานในคืนวันลอยกระทงที่ยังคงชัดเจนในความทรงจำ ทุกบ้านจะรวมตัวทำกระทง และมาลอยร่วมกัน พร้อมกับการชมมหรสพ.-สำนักข่าวไทย