สนช.รับหลักการร่างกม.กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา

S__4104220รัฐสภา 9 ก.ย. –ที่ประชุมสนช.รับหลักการร่าง พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เพื่อให้การบริหารจัดการกองทุนมีประสิทธิภาพ


การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันนี้ (9 ก.ย.) เริ่มขึ้น เวลา 10.00 น. มีนายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธาน สนช.เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. ….ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอโดยนายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังชี้แจงหลักการและเหตุผล ว่า เนื่องจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาตามพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2541  และกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการบริการกองทุนเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2549   การบริหารจัดการมีข้อจำกัด  ไม่สอดคลัองกับการผลิตกำลังคน และการพัฒนาประเทศ

“จึงจำเป็นต้องบูรณาการทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวให้เป็นเอกภาพอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน เพื่อให้การบริหารกองทุนให้มีประสิทธิภาพ  จึงต้องปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว  โดยกำหนดให้มีกองทุนเพื่อการศึกษา มีฐานะเป็นนิติบุคคล มีหน้าที่สนับสนุนส่งเสริมการศึกษาด้วยการให้กู้ยืมเงินแก่นักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ และในสาขาวิชาที่เป็นความจำเป็นหรือความต้องการหลักของประเทศในการพัฒนาสาขาวิชาที่ขาดแคลน พร้อมกำหนดโครงสร้างให้มีคณะกรรมการกองทุนเพื่อการศึกษา ทำหน้าที่กำหนดนโยบายและกรอบแนวทางในการดำเนินงาน  รวมถึงผู้จัดการกองทุน ซึ่งสามารถจ้างสถาบันการเงิน หรือนิติบุคคลมาบริหารจัดการกองทุนฯ และติดตามเร่งรัดเงินคืน นอกจากนี้ ยังกำหนดให้ผู้กู้ยืมเงินต้องยินยอมให้กองทุนฯ สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกู้ยืมเงิน และการชำระเงินคืนกองทุนฯ ได้” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าว


นายวิสุทธิ์ กล่าวถึงสถิติของกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา ว่า มีสมาชิก  4.6 ล้านราย วงเงินกู้เกือบ 5 แสนล้านบาท  ชำระหนี้มาแล้ว กว่า 4 แสนราย และมีคนค้างชำระอีกร้อยละ 74 ส่วนปัจจัยที่ผู้กู้ไม่คืนเงิน เด็กอาจจะไม่มีงานทำและระยะเวลาการให้คืนเงินนานเกินไป อีกทั้งยังมีการสร้างข่าวว่าไม่ต้องจ่ายคืน โดยมีพรรคการเมืองนำไปใช้เป็นนโยบายหาเสียงว่าจะให้โดยไม่ต้องคืนด้วย

ขณะที่สมาชิกแสดงความเห็นด้วยให้ปรับปรุงร่างกฎหมายเพื่อให้การดำเนินการคล่องตัว เนื่องจากมีกลไกที่จะสามารถติดตามเงินกู้ยืมของผู้ค้างจ่ายเข้าสู่กองทุนได้มากกว่าเดิม  และกำหนดหลักเกณฑ์ในการคืนเงิน การทวงถามหนี้ให้ชัดเจน โดยเสนอให้เพิ่มเงื่อนไขหักจากภาษีเงินได้ส่วนบุคคล แต่ยังมีข้อห่วงใยเงื่อนไขบางประการที่จะต้องให้ผู้กู้ยืมเปิดเผยข้อมูลโดยการทำสัญญา ซึ่งผู้กู้บางรายยังไม่บรรลุนิติภาวะจึงควรพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้การดำเนินการตามร่างกฎหมายนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ หลังเปิดให้อภิปรายระยะหนึ่ง สนช.ลงมติรับหลักการร่างกฎหมายดังกล่าววาระแรกด้วยคะแนน 141 ต่อ 1 งดออกเสียง 4 พร้อมตั้งกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้  15 คน แปรญัตติ  7วัน  กำหนดเวลาดำเนินการ 30 วัน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ตัดไฟ 5 จุดชายแดนเมียนมา วันแรก กระทบชาวบ้านหลายหมื่นคน

หลังทางการไทยตัดไฟฟ้าที่เชื่อมโยงไปยังเมืองเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งผลชาวบ้านแห่กักตุนน้ำมัน โรงพยาบาลเมียวดีได้รับผลกระทบในการเก็บเวชภัณฑ์ที่ต้องใช้ตู้แช่

ตร.ปัตตานีเร่งล่า 6 คนร้ายควงปืนปล้นร้านสะดวกซื้อ

อุกอาจ 6 คนร้าย พร้อมอาวุธมีด-ปืน ยกพวกปล้นร้านสะดวกซื้อใน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินไป 4,492 บาท ตำรวจเร่งไล่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว