กทม. ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ

กทม.17 พ.ย.-รอง ผอ.สำนักพัฒนาสังคม ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุยังอัตราเดิม  อย่าเชื่อข้อมูลที่ส่งต่อกันทางสังคมออนไลน์ กรณีจะมีการปรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุทุกคน ให้ไปรายงานตัวที่เขตด่วน ไม่จริง 


นางชลิดา ถนอมศักดิ์ รองผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยข้อเท็จจริงกรณีเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ว่า ตามที่มีการส่งข้อความเรื่องปรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุทุกคน ให้ไปรายงานตัวที่เขตด่วนพร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้อง  โดยให้รายงานตัวยื่นเอกสารที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือที่ทำการเขตเพื่อรายงานตัวว่ายังมีชีวิตอยู่ ถ้าไม่ไปรายงานตัวในปีงบประมาณหน้าเงินจะไม่เข้าบัญชีโดยระบุว่าอายุ 60 ปี เพิ่มเป็น 700 บาท อายุ 70 ปี เพิ่มเป็น 800 บาท อายุ 80 ปี เพิ่มเป็น 900 บาท และอายุ 90 ปีขึ้นไป เพิ่มเป็น 1,000 บาท พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้านไปยื่นที่สถานที่ดังกล่าวนั้น 


ในการนี้กรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ว่า การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้ยึดแนวทางปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2552 ปัจจุบันจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ยังคงเป็นการจ่ายแบบขั้นบันไดคงเดิม ดังนี้ อายุ 60-69 ปี 600 บาท/เดือน ,อายุ 70-79 ปี 700/เดือน ,อายุ 80-89 ปี 800 บาท/เดือน และอายุ 90 ปีขึ้นไป 1,000 บาท/เดือน 


ส่วนสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมตามแนวทางการจ่ายเงินช่วยเหลือเพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ จากการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนผู้สูงอายุได้มีมติในการจ่ายเงินในโครงการมาตรการให้เงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย ในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ รวม 2 ครั้ง ได้แก่ 1. การประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนผู้สูงอายุ ครั้งที่ 6/2561 เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.61 มีมติอนุมัติการจ่ายเงินในโครงการมาตรการให้เงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุมีรายได้น้อยในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ดังนี้ รายได้มากกว่า 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาท/ปี ได้รับเพิ่ม 50 บาท/คน/เดือน และรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท/ปี ได้รับเพิ่ม 100 บาท/คน/เดือน โดยการจ่ายเงินลงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เริ่มจ่ายตั้งแต่เดือนก.ค.-ก.ย.61 

 

และ 2. การประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนผู้สูงอายุ ครั้งที่ 7/2561 เมื่อวันที่ 31 ก.ค.61 มีมติอนุมัติขยายเวลาการจ่ายเงินในโครงการมาตรการให้เงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ตั้งแต่เดือน ต.ค.61-มี.ค.62 

ทั้งนี้ การจ่ายเงินลงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เริ่มจ่ายตั้งแต่เดือน ก.ค.61-มี.ค.62 งวดแรกจ่ายเงินลงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในวันที่ 15 ส.ค.61 ผู้มีสิทธิสามารถถอนเงินที่โอนเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นเงินสดผ่านตู้ ATM ของ บจม.ธนาคารกรุงไทย และสาขา บจม.ธนาคารกรุงไทย โดยสามารถเบิกเป็นเงินสดหรือใช้ซื้อของได้ หากจ่ายเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่หมดสามารถสะสมในบัตรได้ ซึ่งปัจจุบันได้จ่ายเงินผ่านโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้แก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี ได้รับเงินสงเคราะห์ 100 บาท จำนวน 3,090,319 คน เป็นจำนวนเงินทั้งหมด 309,031,900 บาท และผู้สูงอายุที่มีรายได้เกิน 30,000 บาทต่อปี ได้รับเงินสงเคราะห์ 50 บาท จำนวน 581,136 คน เป็นจำนวนเงิน 29,056,800 บาท รวมจำนวนผู้สูงอายุทั้งหมดที่ได้รับเงินบัตรสวัสดิดารแห่งรัฐ 3,671,455 คน เป็นจำนวนเงิน 338,088,700 บาท .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

นายกฯ ปัดตอบ ผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม.

“นายกฯ อิ๊งค์” ไม่ตอบคำถามผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม. บอกพรุ่งนี้ตอบทีเดียว ก่อนแซว “ประเสริฐ” ปรับให้แล้ว เหตุพูดตำแหน่ง “จุลพันธ์” ผิด จาก รมช.คลัง เป็น รมช.มหาดไทย

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]