กรุงเทพฯ 14 พ.ย. – “ทนายอัจฉริยะ” ไลฟ์เฟซบุ๊กกรณีสาวถูกสาดน้ำกรด ยืนยันจะแจ้งความคดีกับโรงพยาบาล เพราะไม่มีแพทย์ตลอดเวลาทำการ ทำให้ผู้บาดเจ็บไม่ได้รับการช่วยเหลือรักษา พร้อมเผยตัว “คนขับแท็กซี่” พยานคนสำคัญ เล่านาทีพาผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาล
จากกรณีเพจชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เผยเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับหญิงคนหนึ่ง ระบุถูกสามีสาดน้ำกรดจากสาเหตุหึงหวง และโรงพยาบาลปฏิเสธการรักษา โดยให้ไปรักษาโรงพยาบาลอื่น จนสุดท้ายหญิงคนดังกล่าวได้เสียชีวิตระหว่างทาง ต่อมาเมื่อวันที่ 11 พ.ย. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม และครอบครัวของ น.ส.ช่อลัดดา ผู้เสียชีวิต ได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลพระราม 2 โดยได้นำโลงศพของนางช่อลัดดา ไปวางที่หน้าโรงพยาบาล โดยนายอัจฉริยะ และครอบครัว น.ส.ช่อลัดดา เจรจากับผู้บริหารของโรงพยาบาล บรรยากาศเป็นไปด้วยความตึงเครียด
เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (13 พ.ย.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ไลฟ์ผ่านเพจชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เผยถึงเหตุการณ์อีกครั้ง โดยเล่าถึงนาทีโชเฟอร์แท็กซี่ไปเจอนางช่อลัดดา และคนเจ็บจะไปโรงพยาบาลบางมด แต่เห็นอาการไม่ดีจึงพาไปส่งที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด จึงเดินทางไป รพ.พระราม 2 แต่เมื่อไปถึงกลับไม่มีเจ้าหน้าที่ด้านหน้า พร้อมยืนยันว่าไม่มีหมอ
นายอัจฉริยะ เผยอีกว่า จากการตรวจสอบไม่มีประสานไปยัง รพ.บางมด แถมขณะนั้นมีรถพยาบาลจอดอยู่ 2 คันก็ไม่ได้ไปส่ง โดยเจ้าหน้าที่เวรเปลยอมรับไม่มีหมออยู่ในที่เกิดเหตุ มีเพียงพยาบาลทำแผล ส่วนผลชันสูตรเบื้องต้นจาก รพ.ศิริราช ระบุว่าระบบหายใจไหลเวียนโลหิตล้มเหลว ตรงกับ รพ.บางมด ซึ่งจะดำเนินการแจ้งความคดีอาญากับผู้บริหาร ที่ปรึกษา และหมอ รพ.พระราม 2 เพราะไม่มีแพทย์ตลอดเวลาทำการของโรงพยาบาล ทำให้ผู้บาดเจ็บไม่ได้รับการช่วยเหลือรักษาและปฏิเสธการรักษาด้วย เข้าข่ายเป็นการกระทำประมาทจนทำให้มีผู้เสียชีวิต
ขณะที่พนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม คุมนายคำตัน สิงหนาท อายุ 50 ปี ผู้ต้องหาสาดน้ำกรดใส่ น.ส.ช่อลัดดา ภรรยา ไปศาลอาญาธนบุรีขออำนาจฝากขัง ข้อหาฆ่าผู้อื่น หลังลงมือสาดน้ำกรดใส่หน้าภรรยาขณะนอนหลับ ท้ายคำร้องฝากขัง พนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีมีอัตราโทษสูง.-สำนักข่าวไทย