อภิสิทธิ์ ยันตลอดการทำงาน ยึดหลักธรรมาภิบาล

04มหาวิทยาลัยสวนดุสิต 10 ก.ย.- หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยัน ที่ผ่านมาบริหารงานยึดหลักธรรมาภิบาล ชี้ควรกำหนดบทลงโทษด้านจริยธรรมด้วยมาตรการทางสังคมมากกว่ามาตรการทางกฎหมาย แนะผู้นำองค์กรและคนรุ่นใหม่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง นำความเห็นต่างมาผสมผสานให้เกิดประโยชน์


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวบรรยายพิเศษ หัวข้อ “ความเป็นผู้นำและความท้าทาย ประเด็นการเมือง” ที่มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ว่า ตลอดการทำงาน ยึดหลักธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการที่ดีให้แก่บ้านเมืองและสังคม รวมถึงระเบียบที่กำหนด 6 ข้อของสำนักนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะความเป็นผู้นำในภาครัฐที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบ ที่ผ่านมามีตัวอย่างที่ไม่ยึดตามหลักการนี้ จึงหลีกหนีความรับผิดชอบไม่ได้ นอกจากนี้ยังต้องยึดหลักคุณธรรมและจริยธรรม แต่ส่วนตัวสงสัยว่าหากมีการอนุญาตให้ศาลวินิจฉัยเรื่องจริยธรรม จะเป็นอย่างไร เพราะมองว่าเมื่อเกิดปัญหาด้านจริยธรรม จะต้องเป็นการแก้ปัญหาด้วยมาตรการทางสังคมมากกว่าให้ยึดเป็นเรื่องของกฎหมาย เช่นกรณีในต่างประเทศ หากมีปัญหาด้านจริยธรรม จะมีการออกมาแสดงความรับผิดชอบของผู้กระทำผิด

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนความท้าทายการทำงานอีกอย่างหนึ่ง คือ การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารที่จะทำอย่างไรให้เกิดความเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันที่มีเทคโนโลยีเข้ามาเป็นปัจจัยสำคัญ อีกทั้งต้องคำนึงถึงข้อมูลส่วนบุคคล ในการทำงาน ถ้าไม่สามารถทำให้เกิดการรับรู้ว่าสิ่งใดทำได้ หรือทำไม่ได้ ความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ยาก


79นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังต้องยึดหลักการมีส่วนร่วม เพราะหากไม่มีส่วนร่วม จะนำไปสู่ความขัดแย้ง โดยเฉพาะในปัจจุบันที่มองว่าเกิดความกลัวว่าจะทำให้เกิดความขัดแย้ง จนทำให้การมีส่วนร่วมหายไป และขอยืนยันว่า หากไม่มีเวทีเปิดให้ผู้เห็นต่างได้โต้แย้งแสดงความคิดเห็นที่หลากหลาย ความขัดแย้งจะยิ่งปะทุขึ้นมา เพราะปัจจุบัน สังคมเลือกที่จะรับฟังข้อมูลในมุมมองของตัวเอง หากไม่มีการแลกเปลี่ยนความเห็น จะเป็นอันตรายและเกิดการถลำลึกมากขึ้น ดังนั้นจึงควรใช้ความหลากหลายและความเปลี่ยนแปลงให้เกิดประโยชน์มากกว่า

“การเป็นผู้นำ จะต้องมีความตื่นตัวและปรับเปลี่ยนตามความเปลี่ยนแปลงของสังคม เช่น นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ไม่เคยหยุดการเรียนรู้ และบอกให้สมาชิกพรรคหาความรู้ตลอดเวลา อย่างการเรียนรู้คอมพิวเตอร์ เพื่อให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นจะทำอย่างไรที่จะนำความหลากหลายมาทำให้เกิดประโยชน์ ซึ่งควรมองไปข้างหน้า เพื่อให้เป็นโอกาส ไม่ใช่มองในแง่ลบ อย่างไรก็ตาม ขอฝากถึงผู้นำองค์กรและผู้นำคนรุ่นใหม่ หากยึดหลักการนี้ได้ ก็จะสามารถวางรากฐานที่ดีสำหรับการพัฒนาในอนาคต” นายอภิสิทธิ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

เรือใบอิตาลีที่สวยงามที่สุดในโลกเดินทางถึงภูเก็ตแล้ว

ภูเก็ตคึกคัก เรือใบอิตาลีที่ขึ้นชื่อว่างดงามที่สุดลำหนึ่งของโลก ออกเดินทางมาแล้วรอบโลก ได้เข้าจอดเทียบท่าจังหวัดภูเก็ต โดยมีทัพเรือภาคที่ 3 ให้การต้อนรับทหารเรืออิตาลีกว่า 150 นาย อย่างอบอุ่นพร้อมเปิดให้ประชาชนขึ้นชมเรือฟรีได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (6 พ.ย.)

พระเปย์สีกา ช่องโหว่ผลประโยชน์ในดงขมิ้น

รองเจ้าอาวาสวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในมหาสารคาม ขอลาสิกขากลางดึก หลังถูกแฉ เป็นพระปลัดใจป๋า เปย์สีกาไม่อั้น ขณะที่รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สั่งตรวจสอบว่า เป็นเงินส่วนตัว หรือ เงินวัด เพราะจะมีความผิดแตกต่างกัน

“สันธนะ” เปิดใจหลังเคลียร์ใจ “ชูวิทย์” กลับไทยขึ้นศาล

“สันธนะ” เผย นอนคิดมา 1 คืนเริ่มใจอ่อนรับคำขอโทษ “ชูวิทย์” รับรู้ถึงความจริงใจ แต่คดีอาญาถอนฟ้องไม่ได้ ต้องปล่อยไปตามกฎหมาย