พม.9 พ.ย.-เครือข่ายปกป้องเด็ก ร้อง พม.ตรวจสอบ หลังพบสื่อบางสำนักนำเสนอข่าวละเมิดสิทธิเด็ก เหยื่อล่วงละเมิดทางเพศ
นายวันชัย พูลช่วย ผู้ประสานงานเครือข่ายนักกฎหมายเพื่อเด็กและเยาวชน และภาคีเครือข่าย กว่า 30 คน ยื่นหนังสือจดหมายเปิดผนึกต่อ นายสมคิด สมศรี อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน โดยมีนายอนุกูล ปีดแก้ว รองอธิบดีฯ เป็นตัวแทนรับหนังสือแทน ที่บริเวณชั้น 1 กระทรวง พม.
นายวันชัย กล่าวว่า การยื่นจดหมายครั้งนี้เพื่อเรียกร้องให้กรมกิจการเด็กและเยาวชนตรวจสอบ หลังพบสื่อบางสำนัก นำเสนอข่าวกรณีเด็กหญิง 4 ขวบถูกเด็กชายวัย 13 ปี ล่วงละเมิดทางเพศอย่างไม่เหมาะสม เช่น สัมภาษณ์เด็กผู้เสียหายโดยตรง ไม่ผ่านการประเมินสภาพจิตใจและสภาพแวดล้อมไม่เป็นไปตามหลักสากล ไม่มีสหวิชาชีพ ทั้งคำถามก็ไม่เหมาะสม มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับคดี ทำให้เด็กตอบไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ถือเป็นการซ้ำเติมปัญหา ทำให้เด็กมีความบอบช้ำเพิ่มมากขึ้น แม้ว่าการนำเสนอจะมีการเบลอหน้าก็ตาม แต่ยังถือว่าเป็นการกระทำที่ละเมิดสิทธิเด็กอย่างร้ายแรง เข้าข่ายผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ปัญหาเหล่านี้กระทบเด็ก ทั้งตัวผูเสียหายและเด็กผู้กระทำที่อาจถูกผลักออกจากสังคม ชุมชนและเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ซ้ำ จึงอยากให้กรมกิจการเด็กและเยาวชน พม.ซึ่งเป็นองค์กรหลักดูแลเรื่องนี้ เข้ามาตรวจสอบและเอาผิดดำเนินคดีกับสื่อที่กระทำผิดด้วย และขอให้เร่งเยียวยาเด็กทั้ง 2 คน รวมถึงครอบครัว และชุมชนของพวกเขาด้วย เพื่อให้เด็กกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติอีกครั้ง
นายอนุกูล ปีดแก้ว รองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กล่าวว่า ขอบคุณทางเครือข่ายปกป้องเด็กที่ห่วงใยและช่วยสอดส่องดูแลพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับเด็ก ซึ่งกรมเองเบื้องต้นได้ส่งเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมจังหวัดอ่างทอง เข้าดูแลและเยียวยาเด็กทั้ง 2 ครอบครัวแล้ว
ส่วนการนำเสนอของสื่อที่ไม่เหมาะสมทางกรมฯเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีเจตนาอย่างไร เข้าข่ายผิดกฎหมาย โดยอยากฝากให้สื่อตระหนักในเรื่องนี้เพราะตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กนั้น เด็กมีสิทธิได้รับความเป็นส่วนตัว สิทธิในการไม่เปิดเผยข้อมูลและสิทธิในการได้รับการปกป้อง ซึ่งที่ผ่านมาในส่วนของกรมฯ มีการขับเคลื่อนเรื่องนี้มาตลอด โดยเฉพาะการคุ้มครองเด็กในระดับท้องถิ่น เพื่อให้เด็กที่อยู่ในครอบครัวเปราะบาง ได้รับความเสี่ยงน้อยที่สุด ซึ่งหากพบว่าสื่อสำนักไหน นำเสนอเนื้อหาเข้าข่ายผิดอาจ จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย มีโทษทั้งปรับและจำคุก .-สำนักข่าวไทย