ระนอง 8 พ.ย.- หนึ่งเดียวที่ระนอง “ปลาเค็มฝังดินไร้แดด” ของดีอำเภอกะเปอร์จากภูมิปัญญาชาวบ้าน ถนอมอาหารได้นานรับมือสภาพอากาศฝน 8 เดือน พร้อมจดสิทธิบัตรเรียบร้อย เจ้าของถ่ายทอดสูตรเด็ดต่อยอดอาชีพให้ชุมชน ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง
นายวิสุทธิ์ สิทธิเดช ปราชญ์ชาวบ้าน อ.กะเปอร์ จ.ระนอง เปิดเผยถึงการถ่ายทอดความรู้ปลาเค็มฝังดินไร้แดด และกะปิผงให้กับชาวบ้านในชุมชนว่า หลังจากประสบความสำเร็จในการคิดค้นปลาเค็มฝังดินไร้แดด และกะปิผง จึงได้จดสิทธิบัตรทรัพย์สินทางปัญญาไว้เป็นที่เรียบร้อย และเปิดศูนย์เรียนรู้ปลาเค็มฝังดินไร้แดดและกะปิผงที่หมู่ 4 ต.ม่วงกลวง เน้นส่งเสริมด้านอาชีพในชุมชนโดยปราชญ์ชาวบ้าน เป็นการต่อยอดอาชีพและลดรายจ่ายในครัวเรือน ชาวบ้านสามารถนำความรู้ที่ได้ไปทำรายได้เสริมของครอบครัวอย่างยั่งยืน ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง
นายวิสุทธ์ กล่าวว่า การทำปลาเค็มฝังดินไร้แดดและกะปิผง เพื่อแก้ปัญหาช่วงหน้าฝนในพื้นที่จังหวัดระนองมีฝนตกบ่อยถึง 8 เดือน ซึ่งการทำปลาเค็มฝังดินไร้แดดนั้น เป็นวิธีการถนอมอาหารจากภูมิปัญญาชาวบ้าน วัตถุดิบคือปลาที่หาง่ายในท้องถิ่นนำมาผ่านกระบวนการต่างๆ ทำให้ปลาเค็มมีรสชาติหอมอร่อย เก็บไว้ได้นานยังคงคุณภาพ ราคาจำหน่ายประมาณกิโลกรัมละ 800 บาท
“นำปลามาขอดเกล็ดและไส้ออก ล้างให้สะอาด โรยเกลือให้ทั่วตัวปลาและในท้อง จากนั้นก็ห่อด้วยกระสอบมัดเชือกให้แน่นรอบตัวปลาแล้วนำไปฝังทราย 5-7 วัน เมื่อครบกำหนดก็นำขึ้นมาจากดินล้างให้สะอาด แล้วผูกเชือกห้อยหัวลง 3 วัน โดยไม่ต้องใช้แสงแดดในการตากแห้งเสร็จนำเข้าตู้เย็น 2 วัน เพื่อเป็นการปรับกลิ่นออกจากตัวปลา เป็นการเสร็จกระบวนการ กลายเป็นปลาเค็มฝังดินไร้แดด รสชาติอร่อย”
ส่วนกะปิผง นายวิสุทธิ์ อธิบายว่า เป็นการนำกะปิที่ผ่านการอบด้วยพลังงานแสงอาทิตย์โดยนำกะปิสดมาแบ่งเป็นก้อนเล็กๆ ขนาดเท่าหัวแม่มือ เพื่อให้แห้งเร็วและทั่วถึง อบนาน 2 วัน จนแห้งสนิท นำไปบดด้วยเครื่องบดและนำกลับไปอบเพื่อปรับกลิ่นอีกครั้ง ประมาณ 3 ชั่วโมง จึงเสร็จพร้อมนำไปใส่บรรจุภัณฑ์ไว้รับประทานหรือจำหน่าย.-สำนักข่าวไทย