กทม.5 พ.ย.-ตำรวจจับขบวนการหลอกลวงประชาชนให้ร่วมลงทุน หนึ่งในนั้นเสียรู้คนใกล้ชิดสูญเงินกว่า 37 ล้าน
พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทนผู้บัญชาการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แถลงจับกุมแก๊งหลอกลวงประชาชนในลักษณะร่วมลงทุนที่กำลังแพร่ระบาดสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนรวม 3 คดี
คดีแรกจับกุมนายคมสันต์ ศรีสุข พร้อมพวกอีก 7 คน โดยจับได้แล้ว 4 คน หลังหลอกลวงผู้เสียหายให้ร่วมลงทุน ซื้อถุงบิ๊กแบ็กจากบริษัทเอกชนใหญ่แห่งหนึ่ง จากราคาใบละ 60 บาท สามารถขายได้ใบละ 80-100 บาท แต่ต้องลงทุนคราวละ 300,00-400,000 บาท โดยขอค่าตอบแทนร้อยละ 10 ของกำไร
นางปรานี ศรีบัวทิม หนึ่งในผู้เสียหายเล่าว่า ไว้ใจนายคมสันต์ เพราะเคยให้การช่วยเหลือครอบครัวนี้มาตลอด บิดามารดานายคมสันต์ พักอาศัยกับตนนานกว่า 10 ปี แต่นายคมสันต์ กลับสร้างกลุ่มไลน์ อุปโลกน์ ตัวละคร เรื่องราวทุกอย่างเพื่อมาหลอกตน เริ่มลงทุนตั้งแต่ปี 2558 กระทั่งต้นปีนี้ จึงรู้ว่าถูกหลอก มีผู้เสียหายหลายคน เฉพาะตนเสียหายรวมกว่า 37 ล้านบาท
รายที่ 2 จับกุมนายวัชรินทร์ แก้วศรี หลังชักชวนประชาชนให้ประมูลซื้อสินค้าไอที ราคาถูกกว่าท้องตลาดเช่น hdd ความเร็วสูงราคา 4,590 บาท สามารถประมูลซื้อได้ในราคา 2,000 บาท เมื่อผู้เสียหายโอนเงินแล้วกลับได้รับพัสดุเป็นลูกอมแทน จนสื่อออนไลน์แฉพฤติกรรมของนายวัชรินทร์ มีผู้เสียหายกว่า 100 คน มูลค่าเสียหายกว่า 300,000 บาท
รายที่ 3 จับกุมนางภัสราภรณ์ โชติสิงห์สิริ และนายพิพัฒน์ชัย จงจิตไพศาล สามีภรรยาร่วมกันอ้างเป็นตัวแทนขายเครื่องนวดสปาหน้า และชักชวนประชาชนให้ร่วมลงทุน โดยลงทุนเครื่องนวดสปาหน้า 1 เครื่อง โอนเงิน 30,000 บาทครบกำหนด 7 วันรับกำไร 3,500 บาท มีผู้เสียหายกว่า 100 คนมู ลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท
พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ ยืนยันว่าปัญหาการหลอกลวงประชาชนให้ร่วมลงทุน แล้วให้ผลกำไรเกินร้อยละ 10 ต่อเดือนไม่มีอยู่จริง ซึ่งปัญหาลักษณะนี้มีเพิ่มมากขึ้น จึงอยากขอเตือนประชาชนให้ตรวจสอบ ให้ชัดเจน ก่อนจะโอนเงินร่วมลงทุน ใดๆ ว่ามีการลงทุนลักษณะดังกล่าวจริงหรือไม่ ส่วนผู้ที่ถูกหลอก ให้รีบมาแจ้งความดำเนินคดี อย่าอาย จะได้ดำเนินคดีผู้ต้องหาได้อย่างครบถ้วน รวมถึงใช้มาตรการฟอกเงิน ยึดทรัพย์สินคืนให้กับผู้เสียหาย.-สำนักข่าวไทย