ศาลพิพากษา 13วัยรุ่นรุมฆ่าโหด”ปอนด์ นศ.ศิลปากร”ผิดจริงจำคุกสูงสุดตลอดชีวิต

กรุงเทพฯ 24 ต.ค.- ศาลชั้นต้นพิพากษา จำคุก25 ปี มือแทงไขควงศรีษะนักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากร เสียชีวิต      และให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายโจทก์ร่วม 


ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้น ในคดีพนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ฟ้องนายกรกนก วรัญญสาธิต หรืออาร์ท กับพวกรวม 14 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น 

จากกรณีเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2560  จำเลยกับพวกบุกเข้าไปในหอพักแห่งหนึ่งและร่วมกันทำร้ายนักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตเพชรบุรี และใช้ไขควงแทงศรีษะนายธีรพงศ์ ฐิติฐาน หรือปอนด์ อายุ 24 ปี นักศึกษาชั้นปีที่4  เข้าบริเวณขมับด้านขวา ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ในชั้นสอบสวนจำเลยกับพวกให้การปฏิเสธ


โดยวันนี้ศาลได้เบิกตัวนายเดชาธร หรือไบร์ท มูลมณี จำเลยที่2 จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯมาฟังคำพิพากษา ขณะที่จำเลยอีก 13 คนได้รับประกันตัวก็ได้เดินทางมาศาลด้วย

สำหรับจำเลยในคดีนี้มีทั้งหมด  14 คน  ประกอบด้วย นายกรกนก วรัญญสาธิต หรืออาร์ท นายเดชาธร หรือไบรท์ มูลมณี สิบตรีชรินทร แก่สาร หรือบิ๊ก นายญาณวัฒน์ ทิพย์เที่ยงแท้ หรือปาร์ม นายเรวัติ วงศ์ขยาย หรือเต้ย นายกฤตนันท์ เนียมเงิน หรือปาล์ม นายเศรษฐา อุปถัมภ์ หรือเปิ้ล นายธีราพัฒน์ โพธ์สุทธิ์ หรืออั้ม นายธีรธานนท์ ทัพนาค หรือนนท์ นายภาคิน เสือนาค หรือมิค นายศุภสิทธิ์ ตีท้วม หรือแป้ง นายอธิบ กุญแจทอง หรือซิม นายชินกิตติ์ อรรถวรรธน หรือกิต และน.ส.มาริสา เงินทอง หรือลูกหมี 

ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า  พยานโจทก์และโจทก์ร่วมทั้งสี่มีประจักษ์พยานและวัตถุพยานเป็นภาพวงจรปิด รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่ให้การยืนยันฟังได้ว่า จำเลยที่ 1 ถึง13 ได้กระทำการตามฟ้องจริง บุกรุกโดยมีเหตุฉกรรจ์ และร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับอันตราย  และเสียชีวิตโดยจำเลยที่1 และ 2 ได้ร่วมฆ่าผู้ตาย มีจำเลยที่1 เป็นผู้ล๊อคคอให้จำเลยที่ 2 ใช้ไขควงแทงผู้เสียชีวิตบริเวณขมับขวา พิพากษาจำเลยที่ 1 จำคุกตลอดชีวิต ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น จำเลยที่ 2 จำคุก 25 ปี 6 เดือน ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นและบุกรุกเคหะสถาน  จำเลยที่ 3,10,12 คนละ1 ปี ฐานบุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้าย จำเลยที่ 4,5,6,11 จำคุก11 ปี ฐานบุกรุกเคะสถานในเวลากลางคืนและร่วมกันทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตราย ฯ  โดยให้จำคุกจำเลยที่4 ต่อจากคดีเดิมที่ศาลจังหวัดหัวหิน  จำเลย 7,8,9,13 จำคุก คนละ 10 ปี 6 เดือน   ฐานร่วมกันทำร้ายผู้อื่น    และให้จำเลยที่1-13  ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทกฺร่วมที่ 1 เจ้าของหอพักที่เกิดเหตุ เป็นเงิน 1 แสน5 หมื่ยบาท โจทกร่วมที่ 2 เจ้าของห้องที่เกิดเหตุและ 1 ในผู้บาดเจ็บ 1 แสน 2 หมื่น5 พันบาท  โจทกร่วมที่ 3 ผู้บาดเจ็บเป็นเงิน 9 หมื่น 5 พันบาท และโจทกร่วมที่ 4 มารดาของผู้ตาย เป็นเงิน  6 ล้าน 8 แสน 7 หมื่น และให้ชำระ ดอกเบี้ยร้อยละ 7.5ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 25 ก.พ. 2560 จนกว่าจะชำระเงินให้กับโจทกร่วมครบถ้วน   และให้ยกฟ้องจำเลยที่14 เนื่องจากเป็นผู้ที่พักอาศัยในหอพักที่เกิดเหตุ ร่วมทั้งไม่ได้ลงจากรถของจำเลยไปร่วมก่อเหตุ


ด้านนางอรุณี ดีสุวรรณ ป้าของนายธีระพงษ์ ฐิตะฐาน หรือ ปอนด์ เปิดเผยหลังฟังคำพิพากษาของศาล ว่า ศาลได้ให้ความยุติธรรมที่สุดแล้ว จะไม่ยื่นอุทธรณ์คดี ส่วนฝ่ายจำเลยจะยื่นอุทธรณ์ เป็นเรื่องของฝ่ายนั้น และไม่ขออโหสิกรรมให้ ขอให้คนที่ฆ่าหลานชายไปรับโทษตามกฎหมาย ส่วนศพหลานชายที่ยังแช่อยู่ในโลงเย็นที่บ้าน จังหวัดชุมพร จะรอจนกว่าคดีจะสิ้นสุด แล้วจะฌาปนกิจต่อไป จนถึงขณะนี้แม่ยังทำใจไม่ได้ ทุกวันกลับจากทำงานยังกลับมาเปิดดูหน้าลูกชาย หากฟังอยู่ อยากให้น้องปอนด์ไปสู่สุขคติ สู่ภพภูมิที่ดี ชาติหน้ามีจริงขอให้เกิดมาเป็นคนในครอบครัวอีก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร