“สมคิด” สั่งทูตพาณิชย์ผลักดันส่งออก

กระทรวงพาณิชย์ 18  ต.ค. – รองนายกรัฐมนตรีสั่งทูตพาณิชย์ผลักดันส่งออก แปลงวิกฤติให้เป็นโอกาส ท่ามกลางสงครามการค้าจีน-สหรัฐ หวังคงเป้าหมายส่งออกร้อยละ 8 ในปี 61 


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี  ประชุมร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ผู้บริหาร และทูตพาณิชย์จากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อหาช่องทางรักษาระดับการส่งออกให้เป็นไปตามเป้าหมายเดิมร้อยละ 8 ในปี 2561 มูลค่า 255,565 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากการส่งออกช่วง  8 เดือนแรกของปีขยายตัวร้อยละ 10 และต้องการผลักดันการส่งออกขยายตัวร้อยละ 8 ในปี 2562 มูลค่าส่งออก 276,011 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังชะลอตัวและปัญหาสงครามการค้าจีนและสหรัฐ หากขยายวงกว้างจะกระทบไปหลายประเทศรวมทั้งไทย จึงต้องการให้ทูตพาณิชย์ประเมินว่าสินค้ารายการใดได้รับผลกระทบบ้าง รวมทั้งแนวโน้มราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นอาจกระทบต้นทุนผู้ประกอบการ 


สำหรับตลาดสหรัฐ กำหนดเป้าหมายส่งออกขยายตัวร้อยละ 7 จากปัจจุบันขยายร้อยละ 10.6 นับว่าพอใจ และปีหน้าคาดว่าขยายตัวร้อยละ 6 เนื่องจากเป็นตลาดที่มีอำนาจซื้อสูง จึงมุ่งพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส การนำนวัตกรรมท้องถิ่นสู่สากล การเจาะตลาดใหม่ ตลาดรองที่มีศักยภาพ เช่น ลาตินอเมริกา การส่งเสริมร้านอาหารไทย ผลักดันผู้ประกอบการรุ่นใหม่ Young Gens & Startup เพื่อส่งเสริมแบรนด์ไทยออกสู่ตลาดโลก แม้เศรษฐกิจโลกชะลอแต่สหรัฐยังมีกำลังซื้อสูงมาก 

ขณะที่ตลาดจีน ตั้งเป้าหมายส่งออกขยายตัวร้อยละ 10 ฮ่องกงร้อยละ 10 ในปี 2561 ส่วนปี 2562 ตั้งเป้าหมายส่งออกขยายตัวร้อยละ 12 ฮ่องกงร้อยละ 12 จากปัจจุบันการส่งออกไปจีนขยายตัวร้อยละ 6.3 มูลค่า 20,071 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ฮ่องกงเติบโตร้อยละ 6.9 มูลค่า 8,309 ล้านดอลาร์สหรัฐ รัฐบาลต้องการให้กระทรวงพาณิชย์จับมือกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) จัดงานแสดงสินค้าและการลงทุนร่วมกันและจัดงานบุกตลาดให้ถี่มากขึ้น เพื่อสำรวจดูว่าชาวจีนชอบบริโภคสินค้าไทยเพิ่มเติมอย่างไร ไม่ใช่เพียงข้าว ยางพารา ทุเรียน เพราะสินค้าไทยหลายรายการยังเป็นที่ต้องการของคนจีน จึงให้ลงลึกเป็นรายสินค้าทุกมณฑล เพิ่มเจ้าหน้าที่ทั้งไทยและคนจีนมาช่วยงานให้เพียงพอ 

ส่วนตลาดอาเซียน นับว่ามีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 27 ของการส่งออกรวมไปทั่วโลก ปัจจุบันการส่งออกขยายตัวร้อยละ 17.7 มูลค่า 45,564 ล้านดอลาร์สหรัฐ กลุ่ม CLMV มูลค่า 19,110 ล้านดอลาร์สหรัฐ  ที่ประชุมมองว่าอาเซียนมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เพราะคนมีรายได้ยังบริโภคสูงมากขึ้น สินค้าแบรนด์ไทยยังได้รับความนิยม จึงต้องหาทางส่งเสริมเอสเอ็มอีไทยบุกตลาดอาเซียนผ่านการส่งเสริมของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์)  อุดหนุนสินเชื่อเพื่อขยายตลาดการค้าผ่านการสร้างแบรนด์ ส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าและบริการของไทย มุ่งบุกตลาดเชิงรุก ขอความร่วมมือให้หอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)  ต้องร่วมกันทำตลาด ไม่ใช่แยกกันเดินทางทำตลาด ใช้โอกาสในการเป็นประธานอาเซียน จัดงานแสดงสินค้านานาชาติของไทย การส่งเสริมสินค้าใหม่ ซอฟต์แวร์และแอพพลิเคชั่น สำหรับธุรกิจร้านอาหาร โรงแรม สปา 


สำหรับการบุกตลาดในเอเชียใต้โดยเฉพาะอินเดีย ปัจจุบันขยายตัวร้อยละ 20.8 มุลค่า 7,522 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีสัดส่วนร้อยละ 4.5 ของการส่งออกโดยรวม ตั้งเป้าหมายส่งออกร้อยละ 8 ทั้งในปี 2561 และปี 2562 นับว่าสินค้าไทยเป็นที่ยอมรับของอินเดีย บังกลาเทศ ในกลุ่มผู้มีรายได้สูง นิยมมาท่องเที่ยวเมืองไทย ซื้อสินค้าโอทอป สินค้าออร์แกนิกไทย จัดงานแต่งงาน  

นายสมคิด ย้ำว่า สำหรับปัจจัยภายในประเทศได้รับผลกระทบจากปัญหาแนวโน้มราคาน้ำมันปรับสูงขึ้น อาจกระทบต้นทุนผู้ประกอบการ โดยกระทรวงพลังงานและบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) พร้อมตรึงราคาน้ำมันไม่ให้สูงมาก จึงให้เรียกประชุมพาณิชย์จังหวัดตรวจสอบดูแลไม่ให้ฉวยโอกาสปรับเพิ่มราคาสินค้า 

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า หากต้องการให้ส่งออกขยายตัวร้อยละ 8 ในปี 2561 ต้องผลักดันการส่งออกให้ได้ 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือนในช่วงเวลาที่เหลือ ต้องใช้โอกาสจากปัญหาสงครามทางการค้าจีนและสหรัฐ ประเมินช่องทางใดผลิตสินค้าที่ทั้ง 2 ผลิตไม่ได้ นำมาทดแทนตลาดที่ต้องการและเน้นการพัฒาไปสู่การค้า E-Commerce มากขึ้น. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ชาวบ้าน-พระ เดือดร้อน

สุโขทัย 28 ส.ค. – หลายพื้นที่เมืองสุโขทัย จมอยู่ใต้น้ำและขยายวงกว้าง แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ด้านหลังวัดปากแคว พระและชาวบ้าน ช่วยกันขนสิ่งของหนีน้ำ ภาพมุมสูง เผยให้เห็นสภาพน้ำท่วมสูงภายในวัดปากแคว และบริเวณโดยรอบ ทหารนำกำลังพล 22 นาย ลงพื้นที่ช่วยเหลือ พระวัดปากแคว ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 2 หมู่ 4 ต.ปากแคว 4 ชุมชน ในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ถูกน้ำท่วมขยายวงกว้าง รถยนต์จมน้ำหลายคัน ด้านหลังวัดปากแคว อำเภอเมือง แม่น้ำยมผนังกั้นน้ำล้นตลิ่ง มวลน้ำมหาศาล ทะลักเข้าท่วมเต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงรอบวัดเกือบ 2 เมตร ทะลักเข้าท่วม ไหลข้ามถนนจรดวิถีถ่อง ระยะทางกว่า 500 เมตร ต้องปิดกั้นถนนห้ามสัญจรไปมา พระครูปลัดสุวัฒนสาธุคุณ (พระอาจารย์นาค) เจ้าคณะตำบลบ้านกล้วย เจ้าอาวาสวัดพายชุมพล หลังทราบข่าว ระดับน้ำท่วม ในวัดปากแคว รีบนำอาหารกล่องพร้อมทั้งถุงยังชีพ เข้าไปถวายพระสงฆ์ 18 รูป ที่จำพรรษาอยู่ในวัดปากแคว เร่งหาผู้สูญหายที่แม่ฮ่องสอน […]

เร่งค้นหาอีก 3 ผู้สูญหายดินถล่มปางอุ๋ง ท่ามกลางความหวังของญาติ

28 ส.ค. – เข้าสู่วันที่ 2 ของเหตุดินโคลนถล่มบ้านปางอุ๋ง หมู่บ้านกลางหุบเขา อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายอีก 3 ราย โดยระดมกำลังนับร้อยนายพร้อมเครื่องจักรเดินหน้าค้นหา ท่ามกลางบรรดาญาติที่เฝ้ารอด้วยความหวัง ล่าสุดวันนี้พบร่างผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้เพิ่มเป็น 6 ราย และยังสูญหายอีก 3 คน ขณะที่หลายครอบครัวต้องสูญเสียบ้านที่อยู่มาหลายสิบปีและยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นสร้างขึ้นใหม่ได้อย่างไร.-สำนักข่าวไทย

ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. โผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด

กทม. 28 ส.ค.-ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. หลัง “ภูมิธรรม” ถกลับ ผบ.ตร. นานหลายชั่วโมง เหตุมีหนังสือร้องเรียนจำนวนมาก ทำโผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. เป็นประธานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 7/2568 ณ ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 มีระเบียบวาระการประชุม 5 วาระ ประกอบด้วย วาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ /วาระที่ 2 รับรองรายงานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 6/2568 /วาระที่ 3 เรื่องที่เสนอเพื่อทราบ เรื่องที่ 1 รายงานการดำเนินการของ อ.ก.ตร.สืบสวนสอบสวน ที่ ก.ตร. มอบหมายให้ทำการแทน […]

กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา เขต อ.อรัญประเทศ

สระแก้ว 23 ส.ค.-กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา จุดแรกบริเวณหลักเขตที่ 50-51 เขต อ.อรัญประเทศ ระยะทาง 10 กม. เชื่อเริ่มดำเนินการได้เป็นรูปธรรมภายในปีนี้ พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทยพร้อมคณะลงพื้นที่เพื่อสำรวจแนวชายแดนตั้งแต่หลักเขตที่สี่ 48 ต่อเนื่องถึง 51 บริเวณพื้นที่บ้านป่าไร่ ถึงบ้านท่าข้าม ในเขต อ.อรัญประเทศ โดยการสำรวจดังกล่าวเพื่อเตรียมสร้างแนวกำแพงแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นบริเวณหลักเกณฑ์ที่ห้า 50 และ 51 ซึ่งไทยและกัมพูชาเห็นตรงกันแล้วในเรื่องเขตแดน จะสร้างเป็นรั้วถาวรเป็นจุดแรกระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ขณะบริเวณอื่นๆ ซึ่งยังมีการอ้างสิทธิ และยังไม่มีข้อสรุปเรื่องเขตแดนที่ชัดเจน เบื้องต้นก็จะสร้างเป็นแนวรั้วชั่วคราวด้วยวิธีการตัดถนนเลียบตลอดแนวชายแดนและวางรั้วลวดหนามหีบเพลงสามชั้น พร้อมติดกล้องวงจรปิดในจุดที่สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเกิดประโยชน์ในการเคลื่อนย้ายกำลัง รวมไปถึงการลาดตระเวนตรวจตรา นอกจากนี้การปรับพื้นที่ให้โล่งก็จะทำให้การลักลอบผ่านแดนตามช่องทางธรรมชาติยากขึ้น ซึ่งถือเป็นการสกัดกั้นทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์และปัญหาสแกมเมอร์ ได้ โดยการดำเนินการจะเริ่มต้นทันทีที่นำเรื่องเข้าขออนุมัติจากสภาความมั่นคงแห่งชาติและไม่ได้ติดขัดในเรื่องงบประมาณแต่อย่างใด เชื่อว่าภายในปีนี้น่าจะเห็นแนวรั้วกำแพงชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มต้นเกิดขึ้นได้ ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้จะมีการลงในรายละเอียดพื้นที่ต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนตามแนวชายแดนที่บางส่วนอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็เชื่อว่าประชาชนพร้อมที่จะเสียสละเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของส่วนรวม พลตรี วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำรั้วตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาเกิดขึ้นจากข้อเรียกร้องของประชาชน […]