ขนส่งขู่เพิกถอนใบอนุญาตรถสาธารณะทำผิดซ้ำซาก

กรุงเทพฯ 16 ต.ค. – กรมการขนส่งทางบกเตือนรถโดยสารสาธารณะทุกประเภท กระทำผิดซ้ำซากลงโทษสูงสุดถึงขั้นพักใช้เพิกถอนใบอนุญาตขับรถ 


นายกมล บูรณพงษ์  รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบกและโฆษกกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ค DOM teamwork ได้แสดงตัวเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพื่อทดสอบพฤติกรรมการให้บริการของผู้ขับรถแท็กซี่กรณีพบลูกค้าชาวต่างชาตินั้น กรมการขนส่งทางบกร่วมกับตำรวจท่องเที่ยวลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและได้ติดตามตัวผู้ขับรถแท็กซี่ทั้ง 3 ราย เพื่อมาชี้แจงข้อเท็จจริงในทันที จากการสอบสวนผู้ขับรถทั้ง 3 รายให้การและยอมรับว่าได้กระทำผิดจริงตามที่ปรากฏเป็นภาพในคลิป ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.รถยนต์ มาตรา 5(2) ประกอบมาตรา 58 กรมการขนส่งทางบกจึงได้เปรียบเทียบปรับรายละ 1,000 บาท และพักใช้ใบอนุญาตผู้ขับรถทั้ง 3 ราย เป็นเวลา 1 เดือน พร้อมเข้ารับการอบรมกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องและบันทึกประวัติการกระทำผิดเพื่อติดตามพฤติกรรมต่อไป 

นายกมล กล่าวว่า เพื่อรักษามาตรฐานการให้บริการรถโดยสารสาธารณะที่มีคุณภาพปลอดภัย แก้ปัญหากรณีกระทำผิดซ้ำซาก กรมการขนส่งทางบกมีมาตรการลงโทษตามกฎหมายถึงขั้นพักใช้และเพิกถอนใบอนุญาตขับรถผู้ขับรถโดยสารสาธารณะกระทำผิดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สร้างมาตรฐานคุณภาพการให้บริการรถโดยสารสาธารณะที่ดี ซึ่งปีงบประมาณที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560 – 30 กันยายน 2561 สั่งเพิกถอนใบอนุญาตขับรถผู้กระทำความผิด 1 ราย ฐานกระทำการอันควรขายหน้าและพักใช้ใบอนุญาตขับรถ 59 ราย  ฐานปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร 26 ราย ไม่ใช้มาตรค่าโดยสาร 13 ราย เก็บค่าโดยสารเกินอัตรา 4 ราย ส่งไม่ถึงจุดหมาย 2 ราย แสดงกิริยาไม่สุภาพ 1 ราย ขับรถประมาท 1 ราย ใช้รถตู้ไม่ตรงตามประเภท 2 ราย และใช้รถจักรยานยนต์ไม่ตรงตามประเภทที่จดทะเบียน 10 ราย โดยกรมฯ ได้ส่งตัวผู้กระทำผิดเข้ารับการอบรมเสริมสร้างทักษะและจิตสำนึกการให้บริการที่ดี จัดเก็บประวัติการกระทำความผิดและพฤติกรรมของผู้ขับรถไว้ที่ศูนย์ประวัติผู้ขับรถสาธารณะ เพื่อประกอบการพิจารณาต่อใบอนุญาตขับรถครั้งต่อไป ทั้งนี้หากมีการร้องเรียนหรือตรวจสอบพบการกระทำความผิดซ้ำซากข้อหาเดิม จะพิจารณาลงโทษปรับสูงสุดและเพิกถอนใบอนุญาตขับรถทันทีโดยไม่มีข้อยกเว้น ส่วนกรณีความผิดทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวร้ายแรง เช่น พฤติกรรมลามกอนาจาร กระทำชำเรา ปล้นจี้ ลักทรัพย์ มีเจตนาทำร้ายร่างกาย จะถูกส่งตัวดำเนินคดีและเพิกถอนใบอนุญาตทันที.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

ทุจริตยาโรงพยาบาล

ปปป.เตรียมระดมพลร่วมทำคดีทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ปปป.เตรียมระดมพนักงานสอบสวนในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมทำคดีทุจริตยาและเวชภัณฑ์โรงพยาบาลทหารผ่านศึก พร้อมเตรียมลงพื้นที่ลพบุรี สอบผู้ป่วยกว่า 100 คน ว่าใช่ผู้ป่วยที่แท้จริง มีความจำเป็นต้องใช้ยาหรือไม่ ในเร็ว ๆ นี้

ตร.ไซเบอร์เร่งสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์

ตำรวจไซเบอร์อยู่ระหว่างสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์ พฤติการณ์เชื่อมโยง 46 คดี ที่มีผู้เสียหายแจ้งความในไทย พบข้อมูลผู้ต้องหาบางรายโพสต์โซเชียลหางานสีเทาเอง ส่วนเยาวชน 2 ราย อยู่ระหว่างรวบรวมออกหมายจับ หลังพบสมัครใจร่วมองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ