กรุงเทพฯ 2 ต.ค. – กรมขนส่งทางบกยืนยันแก้ปัญหารถตู้หมดอายุวันแรก เสริมรถเมล์แค่ 4 เที่ยว และจะไม่เสริมรถเมล์ ขสมก.ในวันนี้
นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวถึงการแก้ปัญหารถตู้ที่ครบอายุ 10 ปี และต้องหยุดวิ่งขาดไปจากระบบประมาณกว่า 1,000 คัน และมีผลวันแรกเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ขณะที่กรมการขนส่งทางบกได้จัดรถเมล์ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) วิ่งเสริมเส้นทางที่รถตู้มีไม่เพียงพอต่อการให้บริการ จากการติดตามข้อมูลพบว่าเมื่อวานที่ผ่านมามีการเสริมรถเมล์เพียง 4 เที่ยว ประกอบด้วย ต.41 วิ่งจากรังสิต-แฮปปี้แลนด์ 2 เที่ยว และ ต.18 จากรังสิต-สถานีบีทีเอสหมอชิต อีก 2 เที่ยว และวันนี้มั่นใจว่าสถานการณ์การให้บริการรถตู้จะกลับสู่ภาวะปกติ เชื่อว่าไม่จำเป็นต้องเสริมเที่ยวรถของ ขสมก.
ทั้งนี้ ภาพรวมการแก้ปัญหาที่กรมการขนส่งทางบกวิเคราะห์ก่อนหน้านี้ พบตัวเลขชัดเจนว่าปริมาณรถตู้ที่วิ่งในหมวด 1 คือ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีปริมาณของรถมากกว่าความต้องการของผู้โดยสาร ดังนั้น แม้จะมีรถส่วนหนึ่งออกจากระบบก็จะไม่กระทบการให้บริการภาพรวม ส่วนข้อร้องเรียนบางส่วนของผู้โดยสารที่ระบุว่าต้องยืนรอรถนานโดยเฉพาะเย็นวานนี้ เนื่องจากปัญหาสภาพการจราจรที่ติดขัดและฝนตก ทำให้รถหมุนเวียนเข้ามารับผู้โดยสารช้าลง ซึ่งเป็นปกติที่การให้บริการชั่วโมงเร่งด่วนอยู่แล้ว
ขณะที่ปัญหาการให้บริการรถเมล์โดยสาร ภายหลังได้มีการโพสต์ภาพผ่านโซเชียลมีเดียมีพนักงานปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสารของบริษัทเอกชนร่วมบริการสาย 122 หมายเลข 45 มีการสูบบุหรี่ขณะปฏิบัติหน้าที่ ในวันนี้ ขสมก.จึงได้ประสานงานให้บริษัทดังกล่าวนำพนักงานรายดังกล่าวมารายงานตัวเพื่อสอบสวนและยอมรับว่าได้กระทำผิดจริง ขสมก.จึงลงโทษปรับเงินบริษัท 1,000 บาท และลงโทษปรับพนักงานรายดังกล่าวอีก 1,000 บาท ก่อนนำไปอบรมมารยาท.-สำนักข่าวไทย