ประธานกกต.ชี้แจงแนวทางสรรหา ส.ว.ให้กับผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ

เมืองทองฯ 27 ก.ย.- “อิทธิพร” ชี้แจงแนวทางสรรหา ส.ว.ให้ “ผู้ว่าฯ-นายอำเภอ” ทั่วประเทศรับทราบ กางปฎิทินสรรหาเริ่มสมัครต้นธันวาคมนี้  ด้าน “ธวัชชัย” กำชับไม่เลือกเครือญาตินักการเมืองร่วมเป็นกรรมการสรรหา  ตั้งศูนย์ปฎิบัติการเพื่อจับตามพวกฮั้วสมัคร  


ผู้สื่อข่าวรายงานจากอาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี  ว่า กรมการปกครอง  กระทรวงมหาดไทย ได้จัดประชุมสัมมนาเพื่อเตรียมความพร้อม ในการสนับสนุนการได้มาซึ่ง ส.ว. และการเลือกตั้ง ส.ส. ให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด  นายอำเภอ และผู้บริหารระดับจังหวัด ทั่วประเทศประมาณ 1,300 คน ร่วมประชุม

นายอิทธิพร บุญประคอง  ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มอบนโยบายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ว่า การเลือกตั้งทุกครั้งที่ประสบความสำเร็จได้ดี  เพราะได้รับการสนับสนุนของกระทรวงมหาดไทย  และหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนที่ดีต่อไป บ้านเมืองเราไม่มีการเลือกตั้งมาหลายปีแล้ว  แต่หลังจากมีรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 เกิดความเปลี่ยนแปลงในการเลือกตั้งหลายอย่าง 


ประธาน กกต. กล่าวว่า การเลือกสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จะดำเนินการตามบทเฉพาะกาล ตามรัฐธรรมนูญ  มาตรา 269 โดย กกต.จะต้องเลือก ส.ว. 200 คน ให้แล้วเสร็จก่อนการเลือกตั้ง ส.ส.ไม่น้อยกว่า 15 วัน   จากนั้นจะส่งรายชื่อให้ คสช.คัดเลือกเหลือ 50 คน    ส่วน ส.ว.ที่เหลือ 194 คน   จะมาจากการสรรหาของคณะกรรมการสรรหาที่ คสช.แต่งตั้งขึ้น ส่วนอีก 6 คน เป็น ส.ว.โดยตำแหน่ง  ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงกลาโหม  ผู้บัญชาการทหารสูงสุด, ผู้บัญชาการทหารบก, ผู้บัญชาการทหารเรือ, ผู้บัญชาการทหารอากาศ และ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

นายอิทธิพร กล่าวว่า หลังจากมี พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.แล้ว   กกต.ได้ออกระเบียบรองรับการสรรหา ส.ว. ให้เป็นไปโดยสุจริต  จะเป็นการเลือกกันเองของกลุ่มอาชีพต่าง ๆ 10 กลุ่ม โดยกระบวนการเลือก ส.ว.จะเริ่มขึ้นเมื่อมีพระราชกฤษฎีกาการเลือก ส.ว. คาดว่าจะมีผลใช้บังคับประมาณวันที่ 30 พ.ย. จากนั้นจึงจะมีการประกาศวันรับสมัครผู้เข้ารับการคัดเลือก ส.ว. ประมาณวันที่ 5 ธ.ค. ส่วนการคัดเลือกแบ่งเป็น  3 ระดับ คือ ระดับอำเภอ ที่จะเริ่มคัดเลือกประมาณวันที่ 30 ธ.ค.  โดยมีนายอำเภอเป็นประธานคณะกรรมการคัดเลือก มีข้าราชการรวมทั้งเจ้าหน้าที่ กกต.ร่วมเป็นกรรมการ ซึ่งอำเภอหนึ่งจะมีผู้ได้รับเลือกประมาณ 60 คน รวมทั้งประเทศประมาณ  55,680 คน  

ประธาน กกต. กล่าวว่า จากนั้นอีก 7 วัน จะเริ่มการคัดเลือกในระดับจังหวัด คือประมาณ  6 ม.ค. 2562  มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานคณะกรรมการระดับจังหวัดดูแล  โดยจะคัดเลือกให้เลือกจากระดับอำเภอให้เหลือ 6,160 คน ต่อจากนั้นอีก 10 วัน  ก็จะมีการคัดเลือกระดับประเทศ  โดยมีประธาน กกต. และ กกต. เป็นคณะกรรมการระดับประเทศ โดยจะคัดผู้ที่ได้รับคะแนนสูงในแต่ละกลุ่ม  กลุ่มละ 10 คน  คาดว่ากระบวนการจะแล้วเสร็จในวันที่ 16 ม.ค.2562  ภายในวันที่ 22 ม.ค.2562 กกต.ก็จะเสนอรายชื่อ 200 คน ให้ คสช.ต่อไป


“หากการเลือก ส.ว.ครั้งแรกเป็นไปด้วยความคึกคัก  ผู้สมัครล้นหลาม เป็นไปด้วยความเข้าใจของผู้สมัครและผู้ปฏิบัติ ก็จะกลายเป็นพลวัตรที่ส่งผลทำให้บรรยากาศการเลือกตั้งส.ส.คึกคักตามไปด้วย  ดังนั้นอยากให้ดำเนินการเพื่อให้มีผู้เข้ามาสมัคร ส.ว.ในทุกระดับจำนวนมากที่สุด”นายอิทธิพร กล่าว

นายอิทธิพร กล่าวถึงการเลือกตั้ง ส.ส.ว่า จะเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกที่ กกต.จะมีเครื่องไม้เครื่องมือหรือกฎหมายใหม่ มาช่วยจัดการเลือกตั้ง  ทั้งเรื่องการสืบสวนไต่สวนคดีเลือกตั้ง หรือกรณี กกต. 1 คนสามารถสั่งระงับยับยั้งการเลือกตั้งบางหน่วยได้ การมีผู้ตรวจการเลือกตั้ง การคุ้มครองพยานรวมทั้งกันบุคคลไว้เป็นพยาน  แต่การเลือกตั้งครั้งนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้หากขาดการร่วมมือร่วมใจของทุกฝ่าย โดยคาดว่าในวันที่ 11 ธ.ค. 2560  จะเป็นวันที่ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มีผลบังคับใช้     ซึ่งจะเป็นวันแรกที่เริ่มนับกรอบเวลา 150 วันของการจัดเลือกตั้ง 

ประธาน กกต. กล่าวว่า ที่ผ่านมา กกต.ดำเนินการแบ่งเขตไปแล้ว  ซึ่งในระดับจังหวัดคาดว่าจะประกาศรูปแบบการแบ่งเขต  3 รูปแบบเพื่อให้พรรคการเมืองและประชาชนเสนอความคิดเห็นในสัปดาห์หน้า และ กกต.จะพิจารณาแล้วเสร็จภายในวันที่ 5 พ.ย.นี้  ส่วนการคัดเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้งนั้น ได้คัดเลือกไว้แล้ว 616 คน   และกำลังตรวจสอบข้อร้องเรียน  คาดว่าอีกไม่นานก็จะเสนอให้ กกต.ชุดนี้พิจารณาต่อไปได้

ด้านนายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย  กกต. มอบนโยบายเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมที่เกี่ยวข้องกับบทบาทหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทย ว่า ข้าราชการกระทรวง มหาดไทยทุกระดับ ถือว่ามีความสำคัญกับการคัดเลือกให้ได้มาซึ่ง ส.ว.ที่มีคุณภาพ   จึงอยากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดคัดคนเก่งที่เป็นกลาง ไม่เป็นเครือญาตินักการเมืองเข้ามาทำงาน และกำชับให้หาข่าว โดยเฉพาะเรื่องของการรับสมัคร  ว่าผู้สมัครจะต้องไม่มีการฮั้วกันมาสมัคร  และเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่คิดว่าการเลือก ส.ว.ไม่ได้เกี่ยวกับตัวเองนั้น  ให้มีความสนใจเป็นหูเป็นตา ไม่ให้การเลือก ส.ว.มีการทุจริต ควรจะต้องมีการตั้งศูนย์ปฎิบัติการในทุกระดับ 

นายธวัชชัย กล่าวว่า การเลือกระดับจังหวัดที่ กกต.วางปฏิทินไว้ในช่วง 30 ธ.ค. อาจจะเป็นปัญหากระทบกับกระทรวงมหาดไทยที่ติดภารกิจเรื่อง 7 วันอันตราย    ทาง กกต.ก็จะไปหารือให้มีการปรับแผนการทำงานให้มีความเหมาะสม   สำหรับการเลือกตั้ง ส.ส.อยากให้มีการใช้เครือข่ายของกระทรวงมหาดไทยไปรณรงค์ให้ประชาชนมาใช้สิทธิให้มาก ให้ทางจังหวัดประสานกับกระทรวงแรงงาน เพื่ออำนวยความสะดวกการลงทะเบียนการเลือกตั้งนอกเขตสำหรับผู้ใช้แรงงาน  และขอให้ข้าราชการวางตัวเป็นกลาง  โดย กกต.จะทำหนังสือถึง ครม.ให้แจ้งเวียนคำสั่งขอให้ข้าราชการวางตัวเป็นกลางในการเลือกตั้งอย่างเคร่งครัด

“คิดว่าการเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะเกิดขึ้นเป็นเรื่องใหญ่  จำเป็นจะต้องมีการบูรณาการทั้งภาครัฐและเอกชน  ทำเป็นเครือข่าย  เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงที่จะทำให้วงจรอุบาทว์กลับมาอีก  จึงต้องทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปอย่างสุจริตและเที่ยงธรรม”นายธวัชชัย  กล่าว

กกต. กล่าวว่า ส่วนการเลือกตั้งท้องถิ่นขณะนี้กฎหมายกำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คาดว่ากฎหมายดังกล่าวจะแล้วเสร็จในช่วง ธ.ค. ดังนั้นหลังจากการเลือกตั้ง ส.ส.ไปแล้ว 90 วัน ก็จะมีการเลือกตั้งท้องถิ่น ตามที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเคยบอกไว้  และเมื่อใกล้ช่วงเวลาดังกล่าวทาง กกต.ก็จะได้หารือร่วมกับกระทรวงมหาดไทยถึงเรื่องความร่วมมืออีกครั้งหนึ่ง.-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“พล.ท.บุญสิน” ยันยังไม่ดำเนินการโครงการอบรมโดรนเกษตร

กทม. 12 ก.ย.- “พล.ท.บุญสิน” แจงบริษัทเอกชนมามอบของ-ถ่ายรูป พร้อมเสนอโครงการอบรมโดรนเกษตร ยืนยันยังไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อวันที่ 12 ก.ย.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีที่มีบริษัทเอกชนเข้ามาถ่ายรูปร่วมกับแม่ทัพภาคที่ 2 โดยมีการนำโครงการ “อบรมการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ให้กับทหารเพื่อเป็นการเพิ่มทักษะ เพื่อใช้ในการเกษตร” วานนี้ (11 ก.ย.) ว่า บริษัทดังกล่าวได้เข้ามาพบเหมือนกับพี่น้องประชาชนและบริษัทต่างๆ ที่เข้ามาพบมอบของ เพียงแต่ว่าทางบริษัทนี้เข้ามานำเสนอโครงการโดรน ตนก็ไม่ได้พูดคุยอะไรมาก เพียงแต่รับฟังไว้ ประมาณ 10 นาที ทางคณะดังกล่าวก็ขอถ่ายภาพ ก่อนเดินทางกลับ “ผมยืนยันว่า ยังไม่ได้มีการดำเนินการทำอะไรเลย ยังไม่ผ่านการตรวจสอบให้รอบคอบ ยืนยันอีกครั้งยังไม่ได้ดำเนินการอะไรทั้งนั้น” พล.ท.บุญสิน กล่าว.-313.-สำนักข่าวไทย

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

ผลักดัน “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว 7 คน กลับกัมพูชา

จันทบุรี 12 ก.ย. – ตม.ศรีสะเกษ ประสาน ตม.จันทบุรี ส่งตัว “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว รวม 7 คน กลับกัมพูชา หลังถูกกล่าวหาเป็นไส้ศึก และถูกชาวบ้านรวมตัวขับไล่ ทั้งยังพบอาศัยอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ นำตัวนางเขื่อน ชาวกัมพูชา และสมาชิกครอบครัว รวมทั้งหมด 7 คน เดินทางไปที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จ.จันทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รอรับตัวอยู่ก่อนแล้ว เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา เนื่องจากที่ผ่านมา นางเขื่อน ถูกชาวบ้านในพื้นที่ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ รวมตัวกันขับไล่ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็น “ไส้ศึก” คอยส่งข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทหารไทยให้กับฝ่ายกัมพูชา และยังพบว่าทั้งหมดอาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จึงดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบการต่างประเทศ เพื่อส่งตัวกลับภูมิลำเนา. – สำนักข่าวไทย

“ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – “ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ งบปี 69 เน้นเส้นเลือดฝอยคู่เส้นเลือดใหญ่ สถานการณ์น้ำตอนนี้ เตรียมรับน้ำเหนือ-พายุ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2568 ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า วันนี้เป็นการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระที่สองและวาระที่สาม ซึ่งจะมีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างเข้มข้น เนื่องจากกว่า 30 วันที่ผ่านมา น่าจะได้ข้อสรุปว่าจะเพิ่มหรือลดงบประมาณอย่างไร ในจุดไหนบ้าง โดยผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน สำหรับงบประมาณส่วนใหญ่ได้ตามที่ตั้งเสนอของบฯ ไว้ โดยจะเน้นงบประมาณลงพื้นที่เขตมากขึ้น เช่น การก่อสร้างและปรับปรุงถนน การก่อสร้างฝายถนน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเส้นเลือดฝอย รวมถึงงบประมาณที่จะพัฒนาเส้นเลือดใหญ่ เช่น ก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ การติดตั้งเซ็นเซอร์วัดการสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวที่จะติดตั้งบนอาคารสูงของโรงพยาบาลแห่งใหม่ ก็ได้ตามที่เสนอของบประมาณไว้ […]