ชุมพร 24 ก.ย.- สำนึกผิด! นักท่องเที่ยวในคลิปแชร์โซเชียลโพสต์ขอโทษแทนกลุ่มเพื่อนทำไม่เหมาะสมสัมผัสและขี่หลังฉลามวาฬ จนถูกวิจารณ์หนัก พร้อมน้อมรับบทลงโทษทุกกรณี และยังถูกครูสอนดำน้ำว่ากล่าวตักเตือน ด้าน หน.อช.หมู่เกาะชุมพรเน้นย้ำข้อปฏิบัติเคร่งครัด และขอเวลาตรวจสอบคลิปก่อนเอาผิด
กรณีมีคลิปภาพแชร์ทางโซเชียลความยาว 1.16 นาที เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวขับเจ็ทสกีดำน้ำประมาณ 5-8 คน กรูกันเข้าไปสัมผัสฉลามวาฬยักษ์ในทะเลชุมพร และขึ้นไปขี่บนหลังส่งเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนาน ทำให้ฉลามวาฬว่ายน้ำหนีออกจากบริเวณดังกล่าว ขณะที่ชาวเน็ตพากันตำหนิอย่างมากในการกระทำของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ พร้อมเรียกร้องหน่วยงานเกี่ยวข้องหามาตรการคุมเข้ม
ทั้งนี้ หลังจากคลิปดังกล่าวถูกแชร์ไม่ถึงชั่วโมงปรากฏว่าคลิปถูกลบออกทันที จากนั้นมีผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์ขอโทษด้วยความสำนึกผิด พร้อมยอมรับว่าไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องกฎของนักด้ำและนักอนุรักษ์ หากมีบทลงโทษ ทุกคนขอน้อมรับทุกกรณี และยินดีให้ความร่วมมือทุกอย่าง “ผมต้องขอโทษทุก ๆ ท่านที่ไม่พอใจกับเหตุการณ์นี้ แต่ผมขอเล่าตั้งแต่เริ่มเมื่อหลายเดือนก่อนตัวผมเองกับกลุ่มเพื่อนขี่เจ็ทสกีได้ไปเที่ยวที่ จ.ชุมพร และได้ขี่เจ็ทสกีไปดำน้ำกันและผมกับกลุ่มเพื่อนได้เจอปลาฉลามวาฬเราดีใจและตื่นเต้นกันมาก ๆ จนลืมตัวกันหมดว่ายน้ำเข้าไปเล่นกับปลา จับปลา ถ่ายคลิปกันตามที่ทุกท่านเห็น แต่เย็นวันนั้นผมได้โทรคุยกับร้านดำน้ำร้านหนึ่ง และเล่าให้ฟังส่งคลิปให้ดู ครูสอนดำน้ำท่านนั้นได้กล่าวตักเตือนผมทันที และสั่งให้ผมลบคลิปนั้นส่วนตัวผมได้ลบคลิปทันที เพราะครูดำน้ำบอกว่าผิดกฎหมาย และเป็นกฎของนักดำน้ำว่าห้ามจับต้องปลาดูได้อย่างเดียว ในกลุ่มผมยังมีบางคน เซฟ vdo ไว้ และเอามาส่งต่อออกมา ผมต้องขอโทษทุก ๆ ท่าน ผมและกลุ่มเพื่อน ๆ ยอมรับผิด”
ด้านนายรักพงษ์ บุญย่อย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร กล่าวว่า พฤติกรรมตามคลิปวิดีโอนั้นนักท่องเที่ยวกระทำการไม่เหมาะสม ที่ผ่านมาได้ขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวและนักท่องเที่ยว ที่นำเรือเข้ามาเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติให้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด หากเจอฉลามวาฬ คือ ห้ามจับหรือสัมผัส ควรอยู่ห่างจากตัวฉลามวาฬประมาณ 3-4 เมตร ห้ามใช้แฟลชถ่ายภาพใต้น้ำ เนื่องจากฉลามวาฬเป็นสัตว์ที่ไวต่อแสงมาก ห้ามโยนสิ่งของลงไปในน้ำ เพราะฉลามวาฬจะกลืนทุกสิ่งอยู่ใกล้ตัวเข้าไป รวมถึงงดการตีน้ำแรง ๆ หรือกระโดดน้ำ เพราะเป็นการรบกวน และไม่ควรนำเรือเข้าใกล้ฉลามวาฬในระยะ 20 เมตร จึงขอให้ปฏิบัติตามนี้ด้วย แต่ยังเกิดเหตุดังกล่าวขึ้นอีก กรณีนี้จะขอตรวจสอบก่อนว่าเหตุเกิดขึ้นช่วงวันเวลาใดและเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มใดเพื่อดำเนินตามมาตรการที่เกี่ยวข้อง.-สำนักข่าวไทย