สธ. เตือนผู้ปกครองระวังบุตรหลานท้องร่วง

สธ.24ก.ย.-ก.สาธารณสุข เตือนผู้ปกครองระวังบุตรหลานป่วยเป็นโรคอุจจาระร่วง ให้ดื่มสารละลาย โออาร์เอส ห้ามกินยาหยุดถ่าย หรือกินยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็น หากอาการรุนแรง มีไข้สูง ไม่ดื่มน้ำ ให้รีบพาไปพบแพทย์  


นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า ช่วงนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย มีฝนตกหนักสลับอากาศร้อน บางพื้นที่อากาศหนาว พบโรคอุจจาระร่วงมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น โดยเฉลี่ยมีเด็กป่วยเป็นโรคอุจจาระร่วงเข้ารับการรักษาในคลินิกประมาณ 131,000 รายต่อปี และเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 56,000 รายต่อปี ส่วนใหญ่เกิดจากสารพิษของเชื้อโรคหรือเรียกว่าอาหารเป็นพิษ ส่วนที่เหลือเกิดจากไวรัส พยาธิ และแบคทีเรีย โดยโรคอุจจาระร่วงที่พบมากในกลุ่มเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี มักเกิดจากเชื้อไวรัส สถานที่ที่พบมากคือสถานสงเคราะห์เด็ก นอกจากนี้ อาจพบการติดเชื้อได้ในผู้ดูแลเด็ก ผู้ปกครอง และผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง 


นพ.โอภาสกล่าวต่อว่า โรคอุจจาระร่วงจากเชื้อไวรัส อาการจะรุนแรงมากในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 2 ปี เชื้อจะอยู่ในน้ำมูก น้ำลาย อุจจาระของผู้ป่วย ติดต่อทางการกินอาหาร นม น้ำดื่ม หรือการอมมือที่สัมผัสกับเครื่องใช้หรือของเล่นต่าง ๆ ที่ปนเปื้อนเชื้อ มักจะมีอาการภายใน 2-10 วันหลังรับเชื้อ โดยมีอาการคล้ายไข้หวัดนำมาก่อน ต่อมาจะถ่ายอุจจาระเป็นน้ำ ปนฟอง และมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว ถ่ายเหลว 3 ครั้ง/วัน หรือมากกว่า มีไข้สูงและอาเจียนร่วมด้วย ทั้งนี้ ยังพบอีกว่า ก่อนอายุ 5 ปีเด็กทุกคนจะมีการติดเชื้อซ้ำได้หลายครั้ง

“ผู้ป่วยโรคท้องร่วง ร้อยละ 95 ไม่จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ เนื่องจากจะทําให้เชื้อแบคทีเรียที่มีตามธรรมชาติอยู่ในร่างกายเกิดการดื้อยาได้ ไม่ควรกินยาหยุดถ่ายเพราะจะทำให้เชื้อโรคยังคงอยู่ในลำไส้ ต้องให้เด็กดื่มสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ โออาร์เอส แต่ถ้าอาการรุนแรง เช่น มีไข้สูง อุจจาระบ่อย และไม่สามารถดื่มน้ำทดแทนได้ เด็กจะมีอาการขาดน้ำรุนแรง หากรับการรักษาไม่ทันหรือไม่เหมาะสม อาจเกิดภาวะช็อกและอาจเสียชีวิตได้ ขอให้รีบพาไปพบแพทย์” นพ.โอภาสกล่าว    


สำหรับการป้องกันโรคอุจจาระร่วงในเด็ก ขอให้ผู้ดูแลเด็กล้างมือให้สะอาดก่อนปรุงอาหาร ชงนม หรือเตรียมอาหารให้เด็ก ก่อนรับประทานอาหาร และหลังจากการใช้ห้องน้ำ สอนเด็กให้รู้จักล้างมือบ่อย ๆ โดยเฉพาะก่อนรับประทานอาหารและหลังใช้ห้องน้ำ ดื่มน้ำที่สะอาดหรือน้ำต้มสุก ดูแลเด็กให้รับประทานอาหารที่สะอาดและปรุงสุกใหม่ๆ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระบะชนต้นไม้

สังเวย 7 ศพ กระบะหักหลบรถรับ-ส่งนักเรียน พุ่งชนต้นไม้

รถกระบะเสียหลักจะชนรถตู้รับ-ส่งนักเรียน คนขับตัดสินใจหักหลบ ทำให้รถพุ่งชนต้นไม้ เสียชีวิต 7 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 4 คน

สลด! รถทัวร์พาผู้โดยสารกลับจากเที่ยวเบตง ชนต้นไม้ ดับ 8 ราย

รถทัวร์พาผู้โดยสารกลับจากเที่ยว อ.เบตง จ.ยะลา เสียหลักไถลลงร่องกลางถนนชนต้นไม้บนถนนสาย 41 อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เบื้องต้นเสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก

ตักบาตรปีใหม่

ปชช.ร่วมตักบาตรวันปีใหม่ 2568 เพื่อความเป็นสิริมงคล

ประชาชนร่วมกิจกรรมตักบาตร​ รับปีใหม่ 2568 เนืองแน่น​ “สุดาวรรณ” เผยตัวเลขสวดมนต์ข้ามปี กว่า 12 ล้านคน พร้อมเชิญชวนสักการะพระเขี้ยวแก้ว ถึง 14 ก.พ.นี้

ข่าวแนะนำ

ผบก.น.3 เผยมี 26 คนจีนเข้าคอร์สตำรวจอาสา กว่าครึ่งจ่ายเงินจริง

ผบก.น.3 เผยมีคนจีน 26 คน เข้าคอร์สตำรวจอาสา กว่าครึ่งจ่ายเงินจริง กำลังไล่สอบเส้นเงินเข้ากระเป๋าใคร ส่วนตำรวจที่ไปอบรมน่าจะได้เงินค่าจ้างจริง

ดีเอสไอประชุมนัดแรกร่วม ตร.นครบาล 1 คดี “นพ.บุญ”

ดีเอสไอรับคดี “นพ.บุญ” กับพวกเป็นคดีพิเศษ เปิดประชุมนัดแรกร่วมตำรวจนครบาล 1 แย้มรู้พิกัด “หมอบุญ” ที่หลบหนีแต่ยังไม่ขอเปิดเผย

คนร้ายวางระเบิดตำรวจตั้งด่าน เจ็บ 6 นาย

คนร้ายวางระเบิดตำรวจขณะตั้งด่าน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี บาดเจ็บ 6 นาย เด็ก 3 ขวบ เจ็บ 1 ราย เชื่อสร้างสถานการณ์ ก่อนครบรอบ 21 ปี ไฟใต้