มุกดาหาร 17 ก.ย.- คดีฆ่าปาดคอชิงทรัพย์ 2 ศพและสาหัส 1 คนย่านพระประแดง ล่าสุดตำรวจได้ตัวผู้ต้องหาชาวลาวแล้ว ขณะเตรียมลักลอบเดินทางกลับบ้านเกิด สารภาพเสพยาก่อนก่อเหตุ ด้านญาติผู้เสียชีวิตต้องการให้ผู้ต้องหามาขอขมาศพผู้ตาย หากไม่มาจะยังไม่ฌาปนกิจ
เวลาประมาณเที่ยงคืนที่ผ่านมา ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร เข้าควบคุมตัว ท้าวพูล้า อายุ 22 ปี สัญชาติลาว ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีบุกฆ่าปาดคอหญิงวัย 67 ปี พร้อมหลานสาววัย 12 ปีเสียชีวิต รวมถึงมีเด็กหญิงวัย 9 ปีบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดในบ้านหลังหนึ่ง ซอยเพชรหึงษ์ 23/1 ตำบลบางยอ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ
โดยเข้าจับกุมผู้ต้องหาได้ขณะนั่งดื่มเบียร์ที่ร้านชำบริเวณบ้านนาโปน้อย ริมฝั่งแม่น้ำโขง เขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายจับและผู้ต้องหายอมรับว่าเป็นตนเองจริง และสารภาพหน้าตาเฉยว่า ช่วงเวลาประมาณ 03.00 น.เมื่อวานนี้ (16ก.ย.) ได้เสพยาบ้า 1 เม็ด จากนั้นปีนเข้าบ้านเหยื่อเพื่อรื้อค้นทรัพย์สินนำเงินไปซื้อยาบ้า จากนั้นพบแมวในบ้าน จึงตัดสินใจปาดคอเพราะร้องเสียงดังและทดลองมีดไปในตัว จากนั้นปรากฏว่าเหยื่อวัย 67 ปีและวัย 12 ปีตื่นขึ้นมาเห็นตน จึงตัดสินใจปาดคอทั้งคู่จนเสียชีวิต และเดินไปปาดคอเหยื่อวัย 9 ปีอีกคน เมื่อได้ทรัพย์สินจึงนั่งจักรยานยนต์ไปที่บิ๊กซีพระประแดง ต่อแท็กซี่ไปสถานีขนส่งหมอชิต พร้อมกับเปลี่ยนเสื้อผ้า และขึ้นรถทัวร์มาถึงยโสธรในช่วงบ่าย ก่อนนำทองไปขายได้เงิน 7,500 บาท จากนั้นได้ขึ้นรถทัวร์มาลงที่มุกดาหาร เตรียมลักลอบหนีกลับไปยังแขวงสะหวันนะเขตโดยไม่ผ่าน ตม.
ทั้งนี้ ภายหลังสอบปากคำผู้ต้องหาในเบื้องต้นแล้วเสร็จ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหารได้ส่งตัวผู้ต้องหากลับไปดำเนินคดีที่ สภ.พระประแดง ซึ่งรายงานล่าสุดยังไม่แน่ชัดว่าตำรวจ สภ.พระประแดง จะพาตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพหรือไม่ เนื่องจากมีชาวบ้านในพื้นที่ที่โกรธแค้น เตรียมจองกฐินรุมประชาทัณฑ์
ส่วนที่วัดบางกระเจ้ากลาง ตำบลบางพึ่ง อำเภอพระประแดง ญาติได้จัดเตรียมพิธีสวดพระอภิธรรมผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ประกอบด้วย นางมะลิ อิ่มสวัสดิ์ อายุ 68 ปี เจ้าของบ้าน และ ด.ญ.อิสญา เพิกเฉย อายุ 12 ปี ซึ่งญาติยังอยู่ในอาการโศกเศร้า ซึ่งในช่วง 13.00 น. คาดว่าจะจัดรถออกไปรับศพที่สถาบันนิติเวช ขณะที่อาการของเด็กหญิงอีกคนที่บาดเจ็บ ล่าสุดพ้นขีดอันตรายแล้ว อย่างไรก็ตาม ญาติของผู้เสียชีวิตต้องการให้ผู้ต้องหามาขอขมาศพผู้ตาย หากไม่มาจะยังไม่ฌาปนกิจ.-สำนักข่าวไทย