ยังไม่พบเบาะแส “พีท ลวงโลก” จนท.เร่งระดมกำลังติดตาม

9 ก.ย. – ตำรวจเร่งติดตามตัว “พีท แผงแตก” หลังถูกศาลอนุมัติหมายจับฐานผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แต่ยังไม่พบเบาะแสสำคัญ ขณะที่ตำรวจหลายฝ่ายเร่งระดมกำลังติดตามตัว ด้าน “อัจฉริยะ” เปิดเผยชัดมีการทำเป็นขบวนการสร้างเรื่องราวขึ้นมา เพื่อกระตุ้นยอดขาย และมียี่ปั๊วอยู่เบื้องหลัง


หลังจากที่เมื่อวานนี้ (8 ก.ย.) ศาลจังหวัดสมุทรสาคร อนุมัติหมายจับนายธนวรรธน์ คำแหงพล หรือ “พีท” พ่อค้าหวย 90 ล้าน ลวงโลก นข้อหาโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท โดยตำรวจสมุทรสงครามยังระดมกำลังติดตามตัวมาดำเนินคดี แต่ยังไม่ได้ตัว ขณะที่มีข้อมูลว่า เพื่อนบ้านของนายพีทพบเห็นน้องสาวของผู้ต้องหา เข้าไปเก็บของภายในบ้านพักเมื่อคืนที่ผ่านมา 

ด้านนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ซึ่งเป็นผู้เปิดโปงเรื่องนี้ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวไทย ว่า เรื่องนี้ถูกกุขึ้นมาเพื่อหาผลประโยชน์ทางการตลาด โดยมีการวางแผนเป็นขั้นตอน ไม่ใช่การบังเอิญหรือถูกคนอื่นนำเรื่องมาเผยแพร่ในโซเชียลฯ โดยที่ชมรมฯ ออกมาเคลื่อนไหวเรื่องนี้ เพราะเห็นความไม่ชอบมาพากล ภาพที่เห็นมีการตัดเลข 7 มาแปะทับเลขอีกตัว โดยหลังจากเคลื่อนไหวพบว่ามี ยี่ปั๊วรายหนึ่งมาข่มขู่ไม่ให้มีการเคลื่อนไหว เพราะกระทบกับโควตาลอตเตอรี 


สำนักข่าวไทยนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์และตั้งสมมติฐานขึ้นมา พบว่า หากมี “ยี่ปั๊ว” คอยหนุนหลังและทำเป็นขบวนการในเหตุการณ์นี้จริง แน่นอนว่าผลที่ตามมาคือ เป็นการกระตุ้นยอดขาย โดยเฉพาะ “หวยชุด” ที่ทราบกันดีว่าการรวมเลขเป็นชุดๆ ผิดกฎหมาย แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ทำให้ยอดซื้อที่แผงนั้นๆ เพิ่มขึ้นทันตาเห็น ซึ่งจะมีรายได้ทั้งแบบยอดขายสลากฯ แบบปกติ รวมถึงยอดขายสลากฯ เป็นชุดๆ ที่มีการหวังผล

สำหรับวิธีการตรวจสอบสลากฯ หลังเพจชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม บอกวิธีการตรวจสอบว่าสลากฯ ดังกล่าวเป็นของจริงหรือปลอม มีวิธีตรวจสอบ คือพิจารณาจากลายน้ำบนสลากฯ ที่พบว่ามีรอยเคลื่อนจากเดิม คล้ายกับการตัดต่อ  ส่วนอีกวิธีคือตรวจสอบตัวอักษรด้านขวาของสลากฯ  หากเป็นเลข 734510 ตัวอักษรที่ระบุด้านข้างก็จะต้องเขียนว่า “เจ็ด สาม สี่ ห้า หนึ่ง ศูนย์” แต่ภาพที่พ่อค้าพีทนำมาเผยแพร่นั้น พบว่าตัวแรกคล้ายกับคำว่า “สาม” มากกว่าคำว่า “เจ็ด”

นอกจากนี้ยังมีอีกวิธีถ้าเห็นภาพบาร์โค้ดชัดเจนบนสลากฯ ก็สามารถตรวจสอบได้ที่หน้าเว็บไซต์ของสำนักงานสลากฯ โดยวิธีการ คือ กรอกเลขบาร์โค้ด ที่ปรากฎบนสลากฯ ใส่ไว้ในช่อง จากนั้นหากเป็นบาร์โค้ดจริงและถูกรางวัลก็จะปรากฎข้อความแจ้งว่า ถูกรางวัล  ซึ่งวิธีการนี้ก็สามารถใช้สำหรับตรวจว่าสลากฯ จริงหรือปลอมได้เช่นกัน


ส่วนความเคลื่อนไหวที่บ้านเกิดของ “พีท” พ่อค้าสลากฯ คนดังที่อำเภอเอราวัณ จังหวัดเลย ก็ไม่พบครอบครัว โดยเมื่อวานนี้ (8 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านหลังหนึ่ง หมู่บ้านทรัพย์เจริญ ตำบลเอราวัณ อำเภอเอราวัณ จังหวัดเลย ซึ่งเป็นบ้านเกิดของนายธนวรรธน์ คำแหงพล พ่อค้าสลากฯ คนดัง ซึ่งมีหมายจับศาลฐานผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ แต่ไม่พบผู้ใด มีเพียงเอกสารใบแจ้งหนี้เหน็บหน้าประตูบ้าน และรถจักรยานยนต์ 2 คัน

ผู้สื่อข่าวจึงโทรศัพท์ไปหานางเครือวัลย์ วิจิตรผล แม่ของ “พีท” บอกปฏิเสธว่าไม่ว่าง เพราะติดธุระที่อุดรธานี พอทราบว่าลูกชายได้ทำเรื่องหลอกลวงไว้ก็รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก ขณะที่เพื่อนบ้านละแวกใกล้เคียงให้ข้อมูลว่า เคยถูก “ญาติ” ของนาย “พีท” หลอกเอาเงินไปลงทุนซื้อสลากฯ ราคาใบละ 75 บาทไปขาย สูญเงินไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท  ซึ่งทราบมาว่าเป็น “ยี่ปั๊วะ” ที่อำเภอวังสะพุง โดยมีชาวบ้านที่มีอาชีพเร่ขายสลากฯ หลงเชื่อไม่ต่ำกว่า 20 คน คนละไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท โดยมีเพียงหนึ่งครั้ง ที่นายพีทได้เข้ามาเกี่ยวข้อง คือเป็นคนขับรถเอาสลากฯ ไปให้ผู้ค้าที่คำชะโนด จังหวัดอุดรธานี แต่ผู้ค้าหลายคนไม่ได้สลากฯ ตามที่อ้าง ซึ่งคดีนี้ยังอยู่ในกระบวนการยุติธรรม

ส่วนเมื่อวานนี้ (8 ก.ย.)  มีนางบุญเรียง ดอกกระโทก หนึ่งในผู้เสียหายเดินทางเข้ามาแจ้งความกับตำรวจที่ สภ.โคกขาม จ.สมุทรสาคร โดยอ้างว่าตนเองเป็นยี่ปั๊วย่านคอกวัว ถ.ราชดำเนิน โดยถูกนาย “พีท” ซื้อสลากฯ เป็นเงิน 210,000 บาท แต่ยังไม่ได้รับเงิน อย่างไรก็ตาม นางบุญเรียงฯ เคยแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ชนะสงคราม มาแล้ว 1 ครั้ง และเมื่อวานนี้ (8 ก.ย.) เพียงแค่มาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น เนื่องจากไม่ใช่ท้องที่เกิดเหตุ อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีรายงานว่า นางบุญเรียง ได้รับการติดต่อจากมารดาของ “พีท” แล้วว่าจะมีการนำเงิน 210,000 บาท  มาคืนให้ จึงเตรียมถอนแจ้งความกรณีดังกล่าว. -สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี

ชลบุรี 26 มิ.ย. – คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท ห้างดังกลางเมืองชลบุรี ระหว่างหนีเจอตำรวจนอกเครื่องแบบ คนร้ายยิงปืนใส่ 1 นัด โดนหมวกกันน็อก ตำรวจหลบทันแย่งปืนได้ แต่คนร้ายวิ่งหลบหนี คนร้ายชายสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำสวมหมวกสีชมพูใส่แมสก์ปิดบังใบหน้ากางเกงขายาว ทำทีเข้ามาซื้อทองภายในร้านทอง ในห้างสรรสินค้าย่านบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะชักปืนออกมาจี้บังคับพนักงานให้หยิบ สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท จำนวน 2 เส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะเอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้าง ระหว่างหลบหนี มีตำรววิ่งไล่ติดตามคนร้าย และตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปจับกุม แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถแย่งปืนจากคนร้ายเอาไว้ได้ พนักงานร้านทอง เล่าว่าตอนเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังจัดร้านเพราะเพิ่งเปิดมีผู้ก่อเหตุสวมหมวกสีชมพู ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าเข้ามาขอดูทองหนัก 10 บาท จึงบอกให้ถอดหมวกและแมสก์ แต่พูดยังไม่ทันขาดคำผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมาพร้อมกับจี้บังคับให้เอาทองหนัก 10 บาท มาให้สองเส้นและสร้อยคอหนัก 9 บาทอีกสองเส้น รวมเป็น 4 เส้น น้ำหนักรวม […]

ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone สอยร่วง 4 ลำโดรนไม่ทราบฝ่าย

กองทัพเรือ 26 มิ.ย.-ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone ตอบโต้โดรนไม่ทราบฝ่ายที่บินเหนือฐานชายแดนจันทบุรีช่วงต้นสัปดาห์ สอยร่วง 4 ลำ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุถึงกรณี จนท.เฝ้าตรวจการณ์นาวิกโยธิน ใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โดรนไม่ทราบฝ่าย บินเหนือฐาน ชายแดนจันทบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ Anti-Drone ยิงตกไป 4 ลำ ทั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว และเป็นไปตามที่ได้ชี้แจง ถึงแนวทางปฏิบัติของกองทัพเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกองทัพเรือมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนบริเวณแนวชายแดน และแจ้งเตือนหากมีโดรนเข้ามาในเขตหวงห้ามก็จะใช้มาตรการต่อต้านโดรน.-313.-สำนักข่าวไทย

สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – เลขาธิการ กพฐ. สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จัดอาหารมื้อเช้าให้นักเรียนเป็นข้าว พะโล้ไก่ กับไข่ต้ม 1 ใบนั้น สพฐ.ได้รับทราบเหตุและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนโดยทันที เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ยังสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นการชั่วคราวจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านการบริหารภายในสถานศึกษา โดย สพฐ. จะกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งให้กำกับติดตามสถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการโครงการต่างๆ ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและครูต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

เลื่อน! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ลงทะเบียน 1 ก.ค.

25 มิ.ย. – เลื่อน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5 แสนสิทธิ์ ประชาชนเริ่มลงทะเบียน 1 ก.ค. เวลา 08.00 น. เดินทางได้ตั้งแต่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค.68 เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าครม. มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,750 ล้านบาท โดยมีการแจ้งว่า จะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ 5 แสนสิทธิ์ เที่ยงคืนที่ผ่านมา และสามารถเที่ยวได้ 1 ก.ค.เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า มีการแจ้งเลื่อนเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดย ผู้ว่าการ ททท. แจ้งว่าจะเปิดลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. […]

ข่าวแนะนำ

ฝนถล่มน้ำท่วมหลายพื้นที่ ส่งสัญญาณรับมือฤดูน้ำหลาก

เชียงราย 27 มิ.ย. – ชาวบ้านอย่างน้อย 4,000 ครอบครัวใน 5 อำเภอของเชียงราย เดือดร้อนหนักจากน้ำท่วม หลังฝนตกทั้งคืน โดยเฉพาะ อ.พญาเม็งราย วัดปริมาณฝนได้กว่า 300 มิลลิเมตร น้ำท่วมสูงเป็นวงกว้าง เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุออกจากบ้านเพื่อความปลอดภัย ล่าสุดแม้ระดับน้ำที่ท่วมหลายจุดเริ่มลดลงแล้ว แต่ยังต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เพราะน้ำท่วมครั้งนี้เป็นเหมือนสัญญาณเตือนให้เตรียมรับมือฤดูน้ำหลากในปีนี้.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ คุยตรง “มาครง” หวังฝรั่งเศสประสานเอื้อเจรจาทวิภาคีไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 27 มิ.ย.- “นายกฯ แพทองธาร” หารือ “ปธน.มาครง” ทางโทรศัพท์ กระชับความสัมพันธ์ ยันให้ความสำคัญกับบทบาทศูนย์กลางของอาเซียนรับมืออาชญากรรมข้ามชาติ-ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ย้ำ ไทยหนุนกลไกล JBC ทำงานเดินหน้าด้วยดี หวัง ฝรั่งเศส ประสานความร่วมมือ เอื้อเจรจาทวิภาคีไทย-กัมพูชา เมื่อเวลา 16.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายเอมานูว์แอล มาครง (H.E. Mr. Emmanuel Macron) ประธานาธิบดีสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยนายกรัฐมนตรี และประธานาธิบดีมาครง แสดงความยินดีที่ได้พูดคุยอย่างเป็นทางการครั้งแรกนับตั้งแต่นายกรัฐมนตรีรับตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ยืนยันความตั้งใจที่จะยกระดับความสัมพันธ์ไทย–ฝรั่งเศส สู่ความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์โดยเร็ว พร้อมแสดงความยินดีหากประธานาธิบดีมาครง จะเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ในห้วงที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดขององค์การระหว่างประเทศของกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส (Organisation Internationale de la Francophonie : OIF) ที่กัมพูชาในปีหน้า ซึ่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้เชิญนายกรัฐมนตรีเยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการ รวมถึงเชิญเข้าร่วมการประชุม Paris Peace Forum ที่ฝรั่งเศส เช่นกัน […]

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

“ภูมิธรรม” เผยวงถก สมช. ยังคุมเข้มมาตรการชายแดนกัมพูชา

ทำเนียบ 27 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” เผยที่ประชุม สมช. ยังคุมเข้มมาตรการชายแดนกับกัมพูชา แต่ไม่เพิ่มมาตรการ เชื่อสถานการณ์จะดีขึ้น ความรุนแรงเป็นสิ่งสุดท้ายในการแก้ปัญหา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ว่าวันนี้มีการพิจารณาทบทวนมาตรการต่างๆ ในการดูแลพื้นที่ชายแดนมั้งหมด ยังยืนยันปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา ยังใช้มาตรการเดิมเพราะเป็นมาตรการที่ยังใช้ได้ และยืนยันจะใช้สันติวิธีและพยายามหลีกเลี่ยงผลกระทบ ไม่ให้ประชาชนสองฝ่ายได้รับความเดือดร้อน นอกจากนี้ยังมีมาตรการสนับสนุนเจรจาของทั้งสองฝ่าย ส่วนการปิดด่านผ่านแดง ยังอยู่ใน ขั้นที่หนึ่งและสอง คือการจำกัดเวลาเข้าออก และการอนุญาตตัวบุคคล สิ่งที่กัมพูชาประกาศมาตรการใดๆ ออกมา โดยเฉพาะเรื่องการปิดด่านต่างๆ ถือเป็นเหตุและผลของกัมพูชา แต่ของไทยยังยืนยันในความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหา ส่วนมากมาตรการ seal stop safe อยากให้กลับไปทบทวน ว่า สิ่งที่ดำเนินการไป 3-4 เดือน ให้เร่งดำเนินการประเมินผล ว่ายังต้องคงมาตรการตัดน้ำ ตัดไฟฟ้า อยู่หรือไม่เพราะขณะนี้ชายแดน ส่วนที่เป็นปัญหาอยู่เดิมเริ่มลดน้อยลง แต่ก็ยังมีบางส่วนที่เข้าไปลึกกว่านั้น ก็ต้องดูว่าจะจัดการอย่างไร โดยมอบหมายให้คณะเล็กไปพิจารณาดำเนินการ ส่วนที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เสนอให้ยกเลิกการจัดกิจกรรม ครบรอบจากสถาปนาความสัมพันธ์ไทยกัมพูชา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ได้เสนอเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม […]