กรุงเทพฯ 6 ก.ย. – เริ่มแล้วความร่วมมือการบินไทยและโรลส์ รอยซ์ ในการผลักดันอุตสาหกรรมการบินไทย ประเดิมโครงการวิจัยและพัฒนาเครื่องยนต์ Trent XWB แห่งแรกของโลก หวังพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีขั้นสูงในอุตสาหกรรมการบินของไทย
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการร่วมวิจัยและพัฒนาเครื่องยนต์ Trent XWB แห่งแรกของโลก ระหว่าง บมจ.การบินไทย และบริษัทโรลส์ รอยซ์ โดยโรลส์ รอยซ์สนับสนุนโครงการด้วยการลงทุนในไทยปีละ 100 ล้านเหรียญสหรัฐในการสนับสนุนการดำเนินงานสายการผลิตในประเทศไทย พร้อมเปิดเผยว่าความร่วมมือครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อการวิจัยและพัฒนาเครื่องยนต์โรลส์ รอยซ์ รุ่น Trent XWB-97 ซึ่งเป็นเครื่องยนต์รุ่นล่าสุดที่ถูกนำมาใช้งานเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมการบินกับเครื่องบินแบบแอร์บัส A350-1000 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้โรลส์รอยซ์ รู้ถึงสมรรถนะ จุดอ่อน จุดแข็ง ของเครื่องยนต์ตลอดอายุการใช้งาน โดยต้องทำการทดสอบเครื่องยนต์ที่อาคารทดสอบสมรรถนะเครื่องยนต์อากาศยานต่อเนื่องให้มีชั่วโมงการบินมากกว่าเครื่องบินที่ใช้งานในปัจจุบัน โดยฝ่ายช่างการบินไทยปรับปรุงและดัดแปลงระบบต่าง ๆ รองรับการทดสอบเครื่องรุ่นนี้แล้ว
สำหรับความร่วมมือดังกล่าวถือเป็นความร่วมมือรูปแบบใหม่ครั้งแรกของโลกระหว่างการบินไทยและโรลส์ รอยซ์ ในการวิจัยและพัฒนาเครื่องยนต์ที่เกิดขึ้นนอกสหราชอาณาจักร ทำให้อาคารทดสอบสมรรถนะเครื่องยนต์อากาศยานของการบินไทยเป็นศูนย์ซ่อมแห่งแรกของโลกที่โรลส์รอยซ์ไว้ใจ นอกจากนี้ ยังเป็นการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการกลยุทธ์ปี 2561-2562 เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับการบินไทยและเป็นการร่วมพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีขั้นสูงในอุตสาหกรรมการบินของประเทศไทย รวมถึงส่งเสริมการดำเนินการด้านคมนาคมทางอากาศของไทยให้เต็มรูปแบบ ทั้งการผลิต การซ่อมบำรุงรักษาและการปฏิบัติการ (MRO) และการพัฒนาทดสอบ โดยจะเน้นให้ศูนย์ซ่อมอากาศยานการบินไทยที่ดอนเมืองเป็นศูนย์ซ่อมเครื่องยนต์อากาศยานและศูนย์ซ่อมที่อู่ตะเภาเป็นศูนย์ซ่อมเครื่องบินทั้งหมด ขณะที่ปี 2563 การบินไทยจะขยายความร่วมมือกับโรลส์ รอยซ์พัฒนาเพิ่มขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีระดับสูง เพื่อซ่อมเครื่องยนต์โรลส์ รอยซ์รุ่น TRENT700 ถึงระดับ Overhaul และเป็นศูนย์ซ่อมเครื่องยนต์ที่ได้รับการรับรองให้สามารถซ่อมบำรุงเครื่องยนต์ของโรลส์ รอยซ์ด้วย
นายอาคม กล่าวถึงการบินไทยจะปรับขึ้นค่าธรรมเนียมน้ำมัน 58 เส้นทางบิน 11 กลุ่ม และมีผลวันที่ 14 กันยายนนี้ ว่า ฝ่ายบริหารการบินไทยน่าจะพิจารณาการปรับขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันขณะนี้ อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นจะต้องดูเรื่องการแข่งขันอุตสาหกรรมการบินด้วย ซึ่งเชื่อว่าจะมีการพิจารณาประเด็นดังกล่าวแล้ว
ขณะที่นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่การบินไทย กล่าวว่า การปรับขึ้นค่าธรรมเนียมดังกล่าวการบินไทยพิจารณาเรื่องการแข่งขันแล้ว โดยในช่วงนี้สายการบินที่เป็นคู่แข่งปรับขึ้นค่าธรรมเนียมทั้งสิ้น เพื่อให้สอดคล้องต้นทุนแท้จริง มั่นใจว่าค่าธรรมเนียมที่ปรับขึ้นครั้งนี้ยังทำให้การบินไทยแข่งขันได้ โดยจะติดตามตัวเลขการใช้บริการของผู้โดยสารอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ รมว.คมนาคม กล่าวถึงกรณีอธิบดีกรมการขนส่งทางบกและกรมทางหลวงลาออกนั้น ยืนยันว่าจะต้องพิจารณาแต่งตั้งบุคคลที่เหมาะสม เพื่อดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงแน่นอน ซึ่งขณะนี้ยังมีเวลาพิจารณาเรื่องดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย