เริ่มด้วยความรัก แต่จุดจบคือความตาย! ย้อน 5 คดีฆ่าโหดสังเวยรักขม

สำนักข่าวไทย 4 ก.ย.-คดีอุกฉกรรจ์ที่เกิดขึ้นจากปมหึงหวง กรณีนี้ถือเป็นกรณีล่าสุดที่เกิดขึ้น แต่ก่อนหน้านี้ไม่นานก็เพิ่งมีกรณีของ “เสี่ยอ้วน” ที่หึงโหดจ่อยิง “น้องสปาย” เสียชีวิต ซึ่งก็มีจุดเริ่มต้นจากความรัก แต่จุดจบคือความตาย 


คดีลักษณะดังกล่าวเพิ่งเกิดคดีที่นายปัญญา ยิ่งดัง หรือ “เสี่ยอ้วน” พร้อมพวก บุกยิงโหด น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือ “สปาย” และเพื่อนชาย เสียชีวิตที่ลานจอดรถหน้าพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ จ.ชลบุรี ในวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา คดีนี้เกิดจากความรักที่ซับซ้อนและไม่สมหวัง เพราะฝ่ายหญิงพยายามตีตัวออกห่างจากฝ่ายชายที่รักหมดใจ พร้อมทุ่มเทให้ทุกอย่าง แต่ท้ายสุดก็พูดคุยกันไม่ลงตัว ฝ่ายชายจึงตัดสินใจระดมพรรคพวกบุกมาก่อยิง เพราะแค้นหนัก


ก่อนหน้านั้นไม่นาน เพิ่งเกิดเหตุฆาตกรรมอำพรางสุดโหด กรณีพบศพหญิงสาวผมแดงถูกฆ่าหั่นศพแยกชิ้นส่วนอวัยวะร่างกายเป็น 14 ชิ้น เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา บริเวณป่าข้างทางในซอยสามวา เขตคลองสามวา โดยพบว่าผู้ตายคือ น.ส.ลักขณา (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี เป็นพนักงานบัญชี ถูกฆ่าด้วยฝีมือของอดีตแฟนหนุ่มที่เลิกรากันไป ทราบชื่อคือนายธนกฤต ประกอบ อายุ 36 ปี ซึ่งปมสังหารมาจากความหึงหวง เพราะผู้ตายเตรียมกลับไปคบหากับอดีตสามี จึงล่อลวงมายังห้องพัก ก่อนใช้ค้อนตีที่ศีรษะผู้ตาย 1 ครั้ง กระทั่งใช้มีด 6 เล่มหั่นศพผู้ตายเป็นชิ้นๆ ก่อนนำไปทิ้งอำพรางคดี


กลางดึกของคืนวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา มีคนร้ายบุกจ่อยิงพนักงานบริษัทสาวสวย และเป็นอดีตผู้สื่อข่าว เสียชีวิตคาบ้านพักย่านบางเสาธง จ.สมุทรปราการ จำนวน 10 นัดซ้อน ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ น.ส.เหมือนแพร ศรีสุวรรณ อายุ 32 ปี หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้เร่งสืบสวนจนพบเบาะแสสำคัญว่าผู้ก่อเหตุคืออดีตแฟนหนุ่ม กระทั่งผ่านมาไม่ถึง 24 ชั่วโมง นายยงยันย์ จันทะสะเร อายุ 38 ปี ผู้ก่อเหตุ เข้ามอบตัว สารภาพว่าเป็นผู้เหนี่ยวไกจริง เหตุเพราะหึงหวง เนื่องจากผู้เสียชีวิตเตรียมไปมีรักใหม่

อีกคดีเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 17 พฤษภาคม 2560 มีมือปืนคนหนึ่งบุกจ่อยิง 6 นัดซ้อน หญิงสาวพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งกลางเมืองจันทบุรี ทราบชื่อ น.ส.ปภัสรา มิตรภักดี อายุ 26 ปี หรือ “ขวัญ” โดยเหตุการณ์นี้ถูกกล้องวงจรปิดบันทึกไว้ได้ทั้งหมด และผู้ก่อเหตุคือแฟนหนุ่มที่เดินเข้าไปภายในที่ทำงานของ น.ส.ปภัสรา ก่อนชักอาวุธปืนยิง แต่ไม่นานก็ถูกจับกุมตัวมาดำเนินคดี ทราบชื่อนายบดินทร์ พ่วงพี อายุ 28 ปี สารภาพทำไปเพราะหึงหวง เพราะผู้ตายกำลังจะตีจาก

และคดีสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนมีนาคม 2560 หลัง น.ส.วีรญาภา งามวิลัย อายุ 36 ปี เจ้าหน้าที่ อบต.บึงชำอ้อ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ถูกยิงเสียชีวิตภายในรถเก๋งฮอนด้า แอคคอร์ด เจ้าหน้าที่จำกัดวงผู้ต้องสงสัยว่าอาจเป็นคนใกล้ชิด กระทั่งพบว่าผู้บงการคือ นายทวีวงศ์ ทองยืน หรือ “นายกหมึก” อดีตนายก อบต.พานทอง จ.ชลบุรี โดยจ้างวานให้ลูกน้องอีก 1 คนก่อเหตุ ส่วนสาเหตุมาจากความโกรธแค้นจากความรัก.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย