แต่งตั้ง “รมช.ยักษ์” เผยแพร่วิถีเกษตรกรรมยั่งยืน

กรุงเทพฯ  30 ส.ค. – ก.เกษตรฯ แต่งตั้ง “อาจารย์ยักษ์” รัฐมนตรีช่วยเป็นประธานคณะทำงานศึกษาและเผยแพร่วิถีเกษตรกรรมยั่งยืน เพื่อให้ความรู้เกษตรกรลด ละ เลิก ใช้สารเคมีในการกำจัดวัชพืชและแมลง 


นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การที่นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร หรืออาจารย์ยักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ประกาศเจตนารมณ์จะส่งเสริมการทำเกษตรแบบยังยั่น ไม่พึ่งสารเคมี เนื่องจากกังวลเรื่องผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมนั้น กระทรวงเกษตรฯ ซึ่งดูแลเกษตรกรและผลผลิตทางการเกษตรมีแนวปฏิบัติเป็นทางเดียวกัน คือ ต้องการให้เกษตรกรมีสุขภาพดีและปลอดภัย ส่วนผลผลิตทางการเกษตรมีคุณภาพและปราศจากสารปนเปื้อน ดังนั้น จึงจะแต่งตั้งนายวิวัฒน์ เป็นประธานคณะทำงานศึกษาและเผยแพร่วิถีเกษตรกรรมยั่งยืน เพื่อเป็นตัวอย่างให้เกษตรกรเห็นว่าการทำเกษตรโดยไม่ใช้สารเคมีทำได้ ซึ่งจะนำไปสู่การลด ละ และเลิกใช้สารเคมีในการกำจัดวัชพืชและศัตรูพืชในที่สุด 

นายกฤษฎา กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ ปฏิบัติตามกรอบของกฎหมาย เนื่องจากคณะกรรมการวัตถุอันตราย ซึ่งมีปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธานมีมติให้กระทรวงเกษตรฯ ทำแผนจำกัดการใช้สารพาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ได้ทำแผนจำกัดการนำเข้าและควบคุมการใช้ไปยังคณะกรรมการวัตถุอันตรายแล้ว จากเดิมนำเข้าปีละ 3-5 หมื่นตัน ให้ลดเหลือ 1.3-1.5 หมื่นตัน อีกทั้งเกษตรกรที่จะใช้สารนี้ได้ต้องผ่านการฝึกอบรมและมีใบอนุญาตใข้ ส่วนแนวทางการกำกับดูแลให้เป็นไปตามแผนดังกล่าวยังไม่ได้กำหนด ขณะนี้รอผลกการพิจารณาของคณะกรรมการศึกษาแก้ไขปัญหาการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูงซึ่งแต่งตั้งโดยนายกรัฐมนตรีพิจารณาและให้ข้อสรุปที่กำหนดว่า จะแล้วเสร็จใน 60 วันออกมาก่อน หากมีมติออกมาว่า ให้ใช้ต่อได้หรือไม่ให้ใช้ ก็จะต้องออกกฎหมายมากำกับเพื่อให้เจ้าพนักงานปฏิบัติได้ถูกต้อง 


สำหรับวิถีเกษตรกรรมยั่งยืน ประกอบด้วย การทำเกษตรปลอดภัยจากสารพิษ (GAP)  เกษตรอินทรีย์ (Organic) เกษตรทฤษฎีใหม่ เกษตรผสมผสาน และวนเกษตร ซึ่งนายวิวัฒน์ ได้ประกาศเจตนารมย์ชัดเจนว่าไม่ต้องการให้ใช้สารเคมีทำการเกษตร เนื่องจากมีผลวิจัยว่าส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม โดยจะอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติพัฒนาที่ดิน พ.ศ.2551 มาบังคับใช้ตามมาตรา 13 และ 15 ซึ่งว่าด้วยการห้ามกระทำการใด ๆ รวมถึงการทำให้เกิดการปนเปื้นของสารพิษที่เป็นอันตรายต่อดินหรือทำให้สภาพดินเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

นายกฯพบสีจิ้นผิง

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง”

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง” ย้ำความสัมพันธ์ทางการทูตและหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ด้านจีนหนุนไทยมีบทบาทในเวที ระดับโลกและภูมิภาค

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟเมื่อวาน

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ขอทำไปประเมินไป อย่าทำให้เป็นประเด็น มองเป็นสิทธิฝั่งเมียนมาซื้อไฟฟ้าจากลาว ลั่นเดี๋ยวต้องคุยอีก ย้ำตัดไฟครั้งนี้ไม่ได้ใช้อารมณ์ รู้อยู่กระทบเศรษฐกิจบ้าง แต่แค่ 0.1%

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี