สปส.-รพ.จุฬาภรณ์ MOUดูแลผู้ประกันโรคหัวใจและหลอดเลือด

กรุงเทพฯ 29 ส.ค.- สปส.จับมือ รพ.จุฬาภรณ์ ดูแลผู้ประกันตนป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยไม่สำรองจ่ายและจ่ายส่วนต่าง


 

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงการให้บริการทางการแพทย์ตามโครงการรักษาหัวใจ 7/24 เฉลิมพระเกียรติ ระหว่างราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โดยโรงพยาบาลจุฬาภรณ์และสำนักงานประกันสังคม ณ ห้องคอนเวนชั่นฮอลล์ ศูนย์ประชุมสถาบันจุฬาภรณ์ 


พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคมได้ให้ความสำคัญกับการยกระดับคุณภาพการบริการสาธารสุขและสุขภาพของผู้ประกันตน โดยพัฒนาระบบประกันสุขภาพ จัดบริการการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพ ปัจจุบันมีผู้ประกันตนในระบบทั้งสิ้น 12,840,493 คน 


ขณะที่ข้อมูลกระทรวงสาธารณสุข  พบมีผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเฉลี่ย 7,000 ล้านบาทต่อปี ปี 2557 มีผู้เสียชีวิตจากโรคดังกล่าวถึง 54,530 ราย เฉลี่ยวันละ 150 คน หรือเฉลี่ยชั่วโมงละ 6 คน ส่งผลกระทบสูญเสียทรัพยากรในวัยทำงาน และการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่หากได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว ทันเวลา จะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตลง กลับคืนสู่การทำงานได้ตามปกติ มีคุณภาพชีวิตที่ดีอีกครั้ง ดังนั้น การลงนามข้อตกลงการให้ บริการทางการแพทย์ตามโครงการรักษาหัวใจ 7/24 เฉลิมพระเกียรติครั้งนี้ จึงเป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงานประกันสังคม และราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ที่เป็นอีกสถานพยาบาลที่เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ เพื่อส่งเสริมการดูแลสุขภาพหัวใจของคนไทย ซึ่งผู้ประกันตนหรือผู้ป่วยที่อยู่ในวัยทำงานสามารถเข้ารับการรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือดโดยไม่ต้องสำรองจ่ายหรือจ่ายส่วนเกิน ภายใต้การทำหัตถการ 7 หัตถการ ประกอบด้วย1) การฉีดสีหลอดเลือดหัวใจ 

2) การฉีดสีหลอดเลือดหัวใจและขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยบอลลูน 3) การศึกษาสรีระวิทยาไฟฟ้าหัวใจ และการจี้ไฟฟ้าหัวใจ 4) การจี้ไฟฟ้าหัวใจด้วยเทคโนโลยีที่ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ไฟฟ้าในการสร้างภาพ 3 มิติ 5) การใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจแบบถาวรชนิดสองห้อง 6) การใช้เครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจถาวร และ 7) การใส่เครื่องสมานฉันท์หัวใจ ในภาวะหัวใจล้มเหลว ในห้องปฏิบัติการสวนหัวใจและหลอดเลือด ที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์  ด้วยเทคโนโลยีและเครื่องมือการรักษาที่ทันสมัยและพร้อมดูแลผู้ประกันตนทุกสถานการณ์หัวใจตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้ หากผู้ประกันตน ผู้ป่วยโรคหัวใจที่ต้องได้รับการรักษาตามแผนการรักษา 7 รายการข้างต้น โรงพยาบาลต้นสังกัดของผู้ประกันตน สามารถส่งตัวผู้ประกันเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ได้ หรือกรณีผู้ประกันตนประสงค์จะเข้ารับการรักษาที่นี่ก็สามารถติดต่อเข้ารับการรักษาได้โดยตรง โดยสถานพยาบาลและผู้ป่วย ไม่ต้องสำรองจ่ายและไม่มีค่าใช้จ่ายส่วนเกิน หากรักษาแล้วต้องรักษาต่อเนื่อง ณ โรงพยาบาลในสังกัด ทางโรงพยาบาลจุฬาภรณ์จะเป็นผู้ประสานส่งต่อให้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกันตน เพื่อให้ผู้ประกันตนได้รับการรักษาตามมาตรฐานสากล และสามารถกลับเข้าทำงานสร้างรายได้ และความมั่นคงให้แก่ประเทศชาติต่อไป .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย