กรุงเทพฯ 22 ส.ค. – นายกสมาคมขายตรงคนใหม่ชู “4C Plus” รับยุคดิจิทัล พร้อมงัดกลยุทธ์สีขาวหนุนธุรกิจเติบโตยั่งยืน คาดตลาดขายตรงปี 2561 เติบโตร้อยละ 3
นายสุเทพ ยืนยงค์วิทยากุล นายกสมาคมการขายตรงไทยคนใหม่ เปิดตัวคณะกรรมการบริหารชุดใหม่อีก 9 คน ประกอบด้วย พญ.นลินี ไพบูลย์ อุปนายกฝ่ายรัฐสัมพันธ์, ร.ต.ต.ดร.สุรเชษฐ์ เชื้อศรี อุปนายกฝ่ายการสื่อสาร, นายกิจธวัช ฤทธีราวี เลขาธิการ, นางสาวนิตยา มงคลธรรมากุล เหรัญญิก, นางสาวสุชาดา ธีรวชิรกุล กรรมการฝ่ายสมาชิกสัมพันธ์, นางวิภาดา ตั้งปกรณ์ กรรมการฝ่ายต่างประเทศ, นายเคลย์ตัน บาร์ตัน กรรมการฝ่ายกิจกรรมพิเศษ, นายอรรถกฤต กีรติวิทยายุต กรรมการฝ่ายกิจกรรมพิเศษ และ นายนิติพงศ์ ศิวพรเสถียร กรรมการฝ่ายกิจกรรมพิเศษ
นายสุเทพ กล่าวว่า ในวาระ 2 ปี (ก.ค.61- มิ.ย.63) ของการดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฯ จะยังคงสานต่อนโยบายเดิมผลักดันการเติบโตต่อเนื่องให้กับอุตสาหกรรมการขายตรงไทย พร้อมจะสร้างความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมขายตรง ส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรในสายขายตรงให้รู้จักปรับตัว ก้าวให้ทันกับโลกสมัยใหม่ในยุคดิจิทัล ภายใต้นโยบาย “4C Plus” ประกอบด้วย 1.Core Culture คือ การส่งเสริมและปลูกฝังการมีจิตวิญญาณการเป็นผู้ประกอบการ และนักธุรกิจ ขายตรงที่ยึดมั่นในคุณธรรมและจรรยาบรรณ 2. Community & Charity การเสริมสร้างภาพลักษณ์อุตสาหกรรมขายตรงไทยและการทำความดีตอบแทนสังคม 3.Competitiveness & Righteousness การยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่บริษัทสมาชิก และนักธุรกิจขายตรงให้เข้าถึงเทคโนโลยีสื่อสารสมัยใหม่อย่างรวดเร็วบนพื้นฐานการดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้อง และ 4.Connection & Development การเข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้าง รวมถึงคุ้มครองสิทธิ์และประโยชน์ของผู้บริโภค ตลอดจนการสร้างสายสัมพันธ์ ความสามัคคีของกลุ่มสมาชิกในสมาคม และการขยายฐานสมาชิกเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกันทิศทางของอุตสาหกรรมขายตรงไทย ว่า ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดรวม 71,000 ล้านบาท และปี 2561คาดว่าตลาดจะเติบโตร้อยละ 3 จากปี 2560 โดยแรงขับเคลื่อนสำคัญมาจากเทรนด์ใส่ใจสุขภาพและความงาม และยังคงเป็นแนวโน้มที่ดีต่อไป ซึ่งผู้บริโภคยินดีจะจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเพื่อซื้อสินค้าที่มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ดีกว่า สอดคล้องกับตลาดขายตรงที่ผู้ประกอบการต่างให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้ากลุ่มสุขภาพและความงามที่มีนวัตกรรมและแตกต่าง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ขณะเดียวกันเทรนด์ของผู้บริโภคที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ตามคำแนะนำของเพื่อนมีมากขึ้นในยุคดิจิทัล เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นการเติบโตของตลาดขายตรง
ส่วนปัญหาเรื่องเครือข่าย Money Game และแชร์ลูกโซ่ที่เน้นให้ผลตอบแทนจากแผนการลงทุนที่ผิดกฎหมาย ซึ่งยังคงแฝงตัวอยู่ในอุตสาหกรรมขายตรงไทยนั้น สมาคมฯ จะเร่งแก้ปัญหา มุ่งให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับธุรกิจขายตรงผ่านสถาบันการศึกษา และประชาชนทั้งในภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดงานมหกรรม หรือการออกไปโรดโชว์ตามพื้นที่และจังหวัดต่าง ๆ เพื่อให้เป็นสื่อกลางในการเผยแพร่ข้อมูลเพื่อให้ผู้บริโภคไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของเรื่องดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีจะให้ผลบวกกับธุรกิจขายตรง หากผู้ประกอบการและนักธุรกิจสามารถนำมาใช้อย่างถูกต้อง และสมาคมฯ เตรียมการให้ความรู้เกี่ยวกับดิจิทัลให้กับบริษัทสมาชิกให้สามารถปรับตัวพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง ผ่านการเทรนนิ่ง ให้กับ CEO ของบริษัทสมาชิก เพื่อให้นำแนวคิดไปต่อยอดในการทำธุรกิจ พร้อมทั้งควรจะช่วยกันปลูกฝังวัฒนธรรม ค่านิยม และแนวคิด เพื่อให้นักธุรกิจหันมาให้ความสำคัญในการทำธุรกิจให้โดดเด่นทั้งด้าน Online Marketing และ Offline Marketing เพื่อให้ได้รับผลลัพธ์ในแบบ Hitech – HiTouch และได้ทำธุรกิจแบบ Win – Win. – สำนักข่าวไทย