คุมเข้มทำแผนฯ เสี่ยอ้วน ยิง 2 ศพหน้าเขาชีจรรย์

ชลบุรี 22 ส.ค. – ตำรวจ สภ.นาจอมเทียน ประชุมเตรียมความพร้อมทำแผนฯ เสี่ยอ้วน ตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้ามาดูแลความเรียบร้อยที่เขาชีจรรย์แล้ว





ตำรวจ สภ.นาจอมเทียน จัดเตรียมสถานที่บริเวณลานจอดรถ ตรงข้ามกับพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นจุดที่นายปัญญา ยิ่งดัง หรือ เสี่ยอ้วน ก่อเหตุยิง น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือ สปาย และนายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือ ฟอส เสียชีวิตคู่กัน เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา ก่อนจะหลบหนีไปกบดานที่กัมพูชา ซึ่งถูกตำรวจกัมพูชาจับได้ และส่งตัวกลับมาเมื่อวานนี้


วันนี้ ตำรวจพยายามกันพื้นที่ที่จะทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ พร้อมจัดกำลังตำรวจทั้งในและนอกพื้นที่ เข้ามาดูแลความปลอดภัยและป้องกันเหตุชุลมุน ที่อาจจะเกิดขึ้นขณะที่กำลังทำแผนฯ

ส่วนที่ สภ.นาจอมเทียน มีการระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ตำรวจอาสาจำนวนมาก พร้อมเรียกประชุมเพื่อวางแผนการทำงาน โดยพันตำรวจตรีสังวาลย์ พันสีทา สารวัตรป้องกันและปราบปราม สภ.นาจอมเทียน ได้ตรวจความพร้อมของห้องขัง พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ให้เข้มงวด เรื่องการมาเยี่ยมผู้ต้องหาและเพิ่มกำลังสิบเวร เพื่อคอยจับตาดูเสี่ยอ้วนตลอดเวลา โดยหลังจากนำตัวเสี่ยอ้วนกลับมาที่ สภ.นาจอมเทียน ในเวลา 15.30 น. ก็จะควบคุมเสี่ยอ้วนทำแผนประกอบคำรับสารภาพทันที

พฤติการณ์ของเสี่ยอ้วน ในการก่อเหตุครั้งนี้ พบว่า มีการวางแผนมาเป็นอย่างดี ตั้งแต่การให้ลูกน้องไปตีสนิทกับ นายยันต์ เพื่อนสนิทของผู้ตาย ก่อนว่าจ้างให้ชี้จุดที่สปายและฟอสจะเดินทางไปท่องเที่ยวที่พัทยา โดยชนวนเหตุในครั้งนี้เพราะ น.ส.ปวีณา หรือ สปาย ไม่รับรักแม้ทุ่มเทให้ทุกอย่างจึงเกิดความแค้นใจ .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย