“ประสิทธิ” ยืนยันไม่เกี่ยวโกงบิทคอยน์

กรุงเทพฯ 20 ส.ค. – “ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ” แถลงข่าวยืนยันความบริสุทธ์ ไม่มีเกี่ยวข้องกับการโกงบิทคอยน์ พร้อมยืนยันเป็นแพะรับบาปและผู้เสียหาย

นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ซึ่งถูกตำรวจออกหมายเรียกพร้อมพวก ในคดีโกงเงินสกุลดิจิทัล ได้เปิดแถลงข่าวกับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก หลังถูกออกหมายเรียกให้มาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 28-29 สิงหาคมนี้ โดยนายประสิทธิ์ ยืนยันความบริสุทธ์ ว่าตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโกงของนายปริญญา จารวิจิต และตนเองถือเป็นหนึ่งในผู้เสียหายและตกเป็นแพะรับบาปในคดีนี้ และพร้อมไปพบกับพนักงานสอบสวนเพื่อให้ข้อมูลทั้งหมด 

นายประสิทธิ์ ได้ชี้แจงข้อมูลเฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตนเอง โดยปฏิเสธที่จะกล่าวถึงนายปริญญา และ  นายเออาร์นี โมตาวา ซาริมา ชาวฟินแลนด์ เจ้าพ่อบิทคอยน์ ไม่ให้รายละเอียดเรื่องการซื้อขายดรากอนคอยน์  โดยบอกว่าตนเป็นแค่ดีล เมกเกอร์ หรือตัวกลางประสานงานให้เกิดการซื้อขายหุ้น บริษัท ดีเอ็นเอ 2002 จำกัด (มหาชน) ระหว่างนายปริญญา กับนายเออาร์นี เท่านั้น เพราะทั้ง 2 คนเห็นโอกาสจะสามารถทำกำไรได้ ดังนั้น จึงมีเงินเข้ามาในบัญชีตนเอง เพื่อให้ซื้อขายหุ้นดีเอ็นเอ พร้อมย้ำว่าตนเองไม่ใช่เจ้าพ่อตลาดหุ้นตามที่สื่อตั้งฉายาให้

นายประสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเองได้รับความเสียหายจากการที่นายปริญญา ชำระเงินค่าหุ้นไม่ครบ ขาดประมาณ 700 ล้านบาท จึงขอรับความช่วยเหลือจากผู้กองธรรมนัส จากการแนะนำของผู้ใหญ่  เนื่องจากถูกนายปริญญาขู่ว่า “ … ระวังจะอยู่เมืองไทยไม่ได้”  โดยทางผู้กองธรรมนัสได้เป็นคนกลางเจรจาให้นายปริญญาโอนหุ้นจำนวน 400 กว่าล้านหุ้นมาที่ผู้กองธรรมนัส และทำสัญญาล็อคห้ามขายหุ้นดังกล่าว เนื่องจากยังไม่ชำระค่าหุ้น โดยทางผู้กองธรรมนัสได้เจราจานายปริญญา และช่วยเหลือตนอย่างดี  และที่ผ่านมาได้โอนหุ้นดีเอ็นเอให้นายเออาร์นี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จำนวน 345 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 3 และ 17 พฤศจิกายน 2560 

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า เมื่อนายประสิทธิ์ เป็นผู้เสียหายเช่นเดียวกับนายเออาร์นี แล้วทำไมนายเออาร์นี ถึงมาฟ้องนายประสิทธิ์ แล้วจะยอมมาเป็นพยานให้หรือไม่ นายประสิทธิ์ ยอมรับว่าหลังเกิดคดีได้พบเจอและพูดคุยนายเออาร์นี  เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ไม่ทราบว่านายเออาร์นี จะมาเป็นพยานให้หรือไม่ แต่เห็นใจนายเออาร์นี ที่ได้รับความเสียหาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าแถลงข่าวมีคำถามสอบถามนายประสิทธิ์ ว่า “กินเจแล้วทำอย่างนี้เหรอ “ นายประสิทธิ์ ตอบว่า บุญส่วนบุญ บาปส่วนบาป  ไม่ใช่ว่ากินเจแล้วเป็นเทพเสมอไป มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ดังนั้น ความดี ความไม่ดีอยู่ที่ตัวเรา เราเป็นคนรู้จงทำในสิ่งที่ดี พูดความจริง

ก่อนหน้าการแถลงข่าวมีกลุ่มนักลงทุนมามอบดอกกุหลาบและช่อดอกไม้ให้กำลังใจ นายประสิทธิ์ด้วย

นายประสิทธิ์ กล่าวว่า การลงทุนในเหรียญดิจิทัล (ICO) นักลงทุนต้องมีความระมัดระวังในการลงทุน เพราะมีความเสี่ยงสูงมาก เพราะมี ICO ปลอมในต่างประเทศสูงถึงร้อยละ 80 ซึ่งต้องมีการตรวจสอบให้รอบคอบก่อนการลงทุน แตกต่างจากการลงทุนในหุ้นที่เสนอขายให้ประชาชน (IPO) ที่สร้างความมั่นใจในการลงทุนมากกว่า เพราะมีหน่วยงานกำกับและตรวจสอบอย่างเข้มงวด เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต.-สำนักข่าวไทย