กรุงเทพ ฯ 16 ส.ค. – ผู้ค้าทองคำคาดราคาทองคำร่วงลงต่อ อาจเห็น 18,300 – 18,400 บาทต่อบาททองคำ นักลงทุนเทขายหนักวิตกวิกฤติค่าเงินตุรกี ดันหนุนดอลลาร์แข็งค่า แนะนักลงทุนชะลอการลงทุนไปก่อน
นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า ราคาทองคำในประเทศปรับลดลงต่ำสุดในรอบ 2 ปี 8 เดือน อยู่ที่ประมาณ 18,550 บาทต่อบาททองคำ และแนวโน้มระยะสั้นมีโอกาสปรับลงอีก โดยมีแนวรับที่ 18,300 บาทต่อบาททองคำ หรือ 1,150 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนและกองทุนทองคำเทขายทองคำต่อเนื่องมาตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา เพราะวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาสงครามการค้า ทั้งสหรัฐ – จีน , สหรัฐ-ตุรกี รวมทั้งปัญหาวิกฤติค่าเงินของตุรกีที่อ่อนค่าลงถึงร้อยละ 45 ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ทำให้มีแรงขายทั้งสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น รวมทั้งทองคำ และหันมาลงทุนในเงินดอลลาร์สหรัฐแทน ทำให้ดัชนีค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าสูงสุดในรอบ 13 เดือน
“ตอนนี้นักลงทุนไม่ได้มองว่าทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่สุด เพราะมีแรงเทขายออกมาอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยต่างประเทศที่กดดัน ซึ่งแนวโน้มราคาทองคำยังมีโอกาสปรับลงได้อีก แต่อาจจะมีแรงซื้อกลับบ้าง เพราะราคาทองลดลงมามากแล้ว หากนักลงทุนจะเข้าซื้อควรซื้อเพียงบางส่วนเท่านั้น” น.ส.ฐิภา กล่าว
นายธนรัชต์ พสวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวว่า ราคาทองยังเป็นขาลง เพราะกังวลปัญหาวิกฤติค่าเงินตุรกีที่อาจจะลุกลามไปยังประเทศยุโรปที่เป็นเจ้าหนี้ โดยระยะสั้นมีแนวรับที่ 1,170 และ 1,150 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือประมาณ 18,400 บาทต่อบาททองคำ โดยให้นักลงทุนชะลอการลงทุนไปก่อนจนกว่าสถานการณ์ตุรกีจะชัดเจนขึ้น .- สำนักข่าวไทย