กรุงเทพฯ 7 ส.ค.-การปิดช่องทางจราจรบริเวณเกาะกลาง เพื่อก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง ส่งผลให้รถติดเป็นอัมพาตกระทบคนกรุงเป็นวงกว้าง ทำให้ตำรวจมีแนวคิดเจาะเกาะกลางหน้าศาลอาญา หวังเร่งระบายรถในช่วงเวลาเร่งด่วน
บริเวณเกาะกลางตรงข้ามซอยรัชดาภิเษก 32 ขณะนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังลงพื้นที่ศึกษาความเป็นไปได้ที่จะเจาะเกาะกลาง และมีสัญญาณไฟจราจร หวังเร่งระบายรถบนถนนลาดพร้าว ที่มีติดสะสมเพราะการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง
ตำรวจลงพื้นที่บริเวณปากซอยรัชดาภิเษก 32 ซึ่งอยู่ตรงข้ามศาลอาญา โดยมีการตั้งกรวยจราจร เพื่อควบคุมการสัญจรของผู้ใช้รถ-ใช้ถนนในช่วงเวลาเร่งด่วน ซึ่งซอยนี้สามารถใช้เป็นเส้นทางลัดมุ่งไปเข้าสู่ถนนลาดพร้าว วังหิน บางกะปิ ตำรวจจึงมีแนวคิดที่จะเจาะเกาะกลางตัดตรงเข้าซอย หวังเร่งระบายรถบนถนนลาดพร้าว ที่การจราจรเป็นอัมพาต เนื่องจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง
ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธา ระบุแม้แนวคิดนี้จะส่งผลให้การจราจรบนถนนลาดพร้าวเคลื่อนตัวได้ดีขึ้น แต่จะกระทบกับผู้ที่ใช้รถบนถนนรัชดาภิเษก ที่ต้องการวิ่งทางตรงมุ่งหน้าไปยังแยกรัชโยธิน เคลื่อนตัวได้ช้าลง จากเดิม 1 ชั่วโมง จะวิ่งได้ 1,800 คัน จะเหลือเพียง 900 คัน
ขณะเดียวกันทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจการจราจรบนถนนลาดพร้าว พบมีการปิดเกาะกลาง เพื่อเปิดพื้นที่ให้ผู้รับเหมาก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ทำให้เสียพื้นที่การสัญจรไป 2 เลน และเลนซ้ายสุดก็กลายเป็นช่องทางเดินรถโดยสารสาธารณะไปโดยปริยาย ไม่เพียงผู้ใช้รถที่ได้รับผลกระทบ แต่ผู้คนที่ทำงาน หรือเล่าเรียนในย่านนี้ ยอมรับตั้งแต่มีการก่อสร้างรถไฟฟ้า เสียเวลาในการเดินทางมากกว่าเดิมเกือบเท่าตัว อาจต้องหาเช่าหอพัก ซึ่งเป็นเพิ่มภาระให้ตัวเอง
ขณะที่บริเวณซอยรัชดาภิเษก 36 หรือที่คนส่วนใหญ่เรียกกันว่า ซอยเสือใหญ่ เจ้าหน้าที่นำป้ายมาติดประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างการรับรู้ให้ประชาชนใช้เป็นเส้นทางลัด เลี่ยงการสัญจรบนถนนลาดพร้าว หลังจากนี้ คนกรุงคงต้องจับตาการแก้ปัญหาด้วยวิธีเจาะเกาะกลางจะช่วยเร่งระบายรถ หรือทำให้ปัญหารถติดขยายวงกว้างมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย