เฝ้าระวังน้ำถึงตัวเมืองเพชรบุรีเย็นนี้

กรุงเทพฯ  7 ส.ค. – กรมชลประทานคาดน้ำระบายจากเขื่อนแก่งกระจานถึงตัวเมืองเพชรบุรีเย็นวันนี้ จึงวางมาตรการลดผลกระทบตัวเมืองทั้งหน่วงน้ำ ตัดยอดน้ำ และเร่งระบายสู่ทะเล



นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ได้เตรียมมาตรการบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการระบายน้ำจากเขื่อนแก่งกระจาน ซึ่งขณะนี้น้ำในทางระบายน้ำฉุกเฉิน (Spillway) ค่อย ๆ มีระดับสูงขึ้นและจะไหลลงด้านท้ายประมาณ  200 – 250 ลูกบาศก์เมตร/วินาที คาดว่าจะถึงตัวเมืองเพชรบุรีในช่วงเย็นวันนี้ (7 ส.ค.) น้ำจะเริ่มส่งผลกระทบกับพื้นที่ลุ่มต่ำและริมฝั่งแม่น้ำบางจุดมีน้ำล้นตลิ่ง 20 – 30 เซนติเมตร และค่อย ๆ สูงขึ้นประมาณ 50 – 70 เซนติเมตร ซึ่งไม่ต่างจากระดับน้ำปี 2560 มากนัก 


สำหรับการพร่องน้ำจากเขื่อนแก่งกระจาน ซึ่งขณะนี้เต็มความจุอ่างมีความจำเป็น เนื่องจากจะต้องเพิ่มพื้นที่รองรับฝนที่จะตกลงมาใหม่ตามการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (สสนก.) ซึ่งระบุว่าประเทศไทยจะมีฝนตกชุกไปจนถึงวันที่ 9 สิงหาคม จึงได้ติดตั้งกาลักน้ำเพิ่มอีก 10 ชุด รวมเป็น 22 ชุด หากติดตั้งเสร็จจะสามารถระบายน้ำประมาณ 1,700,000  ลูกบาศก์เมตร/วัน นอกจากนี้ ยังติดตั้งเครื่องสูบน้ำ Hydro Flow  6 เครื่อง และจะเร่งติดตั้งให้ครบ 20 เครื่อง ขณะที่การระบายน้ำ spillway วันละประมาณ 950,400 ลูกบากศ์เมตร ระดับน้ำที่ล้นผ่าน Spillway จะทยอยสูงขึ้นจนสูงสุดในวันที่ 10 สิงหาคม อยู่ที่ระดับ 50 เซนติเมตร รวมปริมาตรน้ำจะไหลผ่านท้ายเขื่อนแก่งกระจาน  200-250 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ทำให้แม่น้ำเพชรบุรีมีปริมาตรน้ำผ่านสูงสุดวันที่ 12 สิงหาคม  

อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า แนวทางบริหารจัดการน้ำจะทำโดยหน่วงน้ำหน้าเขื่อนแก่งกระจาน แล้วตัดน้ำเข้าระบบชลประทานฝั่งซ้ายและฝั่งขวา รวม 55 ลูกบาศก์เมตร/วินาที และผันเข้าคลองระบาย D9 ในอัตรา 35 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ทั้ง 2 ส่วนตัดน้ำก่อนถึงเขื่อนเพชร 90 ลูกบาศก์เมตร/วินาที  เมื่อน้ำไหลถึงเขื่อนเพชรที่กั้นแม่น้ำเพชรบุรีจะใช้เขื่อนเพชรเป็นเครื่องมือหน่วงน้ำ โดยระบายน้ำผ่านเขื่อนเพชร 140 – 160 ลูกบาศก์เมตร/วินาที จากการพร่องน้ำแม่น้ำเพชรบุรีเตรียมไว้แล้ว ประกอบกับการเสริมคันกั้นน้ำจะไหลผ่านหนองอำเภอหญ้าปล้อง ท่ายาง บ้านลาด โดยไม่มีผลกระทบและจะไหลผ่านเมืองเพชรบุรี ซึ่งมีความกว้างของแม่น้ำเพชรบุรีไม่มากรับน้ำได้ประมาณ 150 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ส่งผลให้มีระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่งท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่งและพื้นที่ชุมชนประมาณ 50 เซนติเมตร โดยคาดว่าน้ำจะท่วมประมาณ 2 สัปดาห์และจะลดลงตามลำดับ


สำหรับมาตรการระบายน้ำออกทะเล เพื่อลดระดับน้ำในแม่น้ำเพชรบุรีและลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อตัวเมืองเพชรบุรีนั้น  ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 30 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ 44 เครื่องเรียบร้อยแล้ว พร้อมที่จะรับมือกับสถานการณ์น้ำ หากระดับน้ำแม่น้ำเพชรบุรีสูงขึ้น ก็พร้อมที่จะเร่งระบายน้ำลงสู่ทะเลให้เร็วที่สุด จึงขอให้ประชาชนมั่นใจในศักยภาพการบริหารจัดการน้ำของกรมชลประทานและขอให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

ส่วนข้อกังวลเรื่องน้ำจะล้นเขื่อนแก่งกระจานนั้น  อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ไม่ล้นอย่างแน่นอน เนื่องจากคาดการณ์ระดับน้ำบน Spillway สูงสุดประมาณ 50 เซนติเมตร แต่ระยะห่างระหว่าง Spillway กับสันเขื่อนอยู่ที่ 7 เมตร อีกทั้งขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกเกี่ยวกับการระบายน้ำผ่าน Spillwayเนื่องจาก  Spillway เป็นทางระบายน้ำอีกช่องทางหนึ่งของเขื่อน กรณีน้ำในเขื่อนมีมากเกินปริมาณเก็บกัก การใช้ Spillway ช่วยระบายน้ำจะป้องกันไม่ให้น้ำล้นเขื่อนและช่วยรักษาเสถียรภาพของเขื่อน

รายงานสถานการณ์น้ำเขื่อนแก่งกระจานล่าสุด เมื่อเวลา 06.00 น. ระดับน้ำเหนือ Spillway 33 เซนติเมตร  จากการทำแบบจำลองทางวิศวกรรม โดยใช้ปริมาณฝนที่ตกเฉลี่ยบริเวณเขื่อนแก่งกระจานมาคำนวณขณะนี้คาดการณ์ว่า ระดับน้ำจะสูงสุดวันที่ 10-11 สิงหาคม ประมาณ 50-60 เซนติเมตร ระยะห่างระหว่าง Spillway กับสันเขื่อน 7  เมตร เมื่อระดับน้ำขึ้นสูงสุดจะยังคงห่างจากสันเขื่อนถึง 6.5  เมตร น้ำไม่ล้นเขื่อนแก่งกระจานแน่นอน ในวันที่ 10-11 สิงหาคมคาดว่า ปริมาตรการระบายน้ำท้ายเขื่อนแก่งกระจานประมาณ 230-250  ลูกบาศก์เมตร/วินาที  

ทั้งนี้ กรมชลประทานกำลังเร่งผลักดันน้ำแม่น้ำเพชรบุรีออกอ่าวไทยที่ปากแม่น้ำอำเภอบ้านแหลมโดยการใช้เครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ และเรือผลักดันน้ำ โดยสถานการณ์น้ำในเขื่อนแก่งกระจาน  เวลา 06.00 น. วันนี้ (7 ส.ค.) เขื่อนมีความจุ 710  ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาตรน้ำในอ่าง 724.945  ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 102.10  ของความจุอ่าง น้ำไหลลงอ่างด้วยอัตรา 328.04  ลูกบาศก์เมตร/วินาที หรือวันละ 28.34  ล้านลูกบาศก์เมตร  แผนการระบายน้ำระบายในอัตรา  154.37  ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีหรือคิดเป็นวันละ 13.34  ล้านลูกบาศก์เมตร.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย ขณะที่ ผบ.ตร. อาลัยตำรวจกล้า สั่งต้นสังกัดดูแลสิทธิประโยชน์ เลื่อนเงินเดือนและชั้นยศ

นักโทษกลับใจ

อดีตนักโทษกลับใจ หลังติดคุก 30 ปี โทรคุยกับพ่อทั้งน้ำตา

อดีตนักโทษชีวิตโตมาในคุก ตั้งแต่อายุ 19 จนตอนนี้ อายุ 49 ปี ร่ำไห้กับตำรวจ ขอให้ช่วยพากลับบ้านที่จากมา 30 ปี ตำรวจโทรศัพท์หาพ่อ ให้ 2 พ่อลูกคุยกันทั้งน้ำตา

ตำรวจจีนพาผู้ต้องสงสัยฉ้อโกง 200 ราย กลับจากเมียนมา

พลเมืองจีน 200 รายที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ถูกส่งตัวจากเมืองเมียวดีในเมียนมากลับจีนแล้วเมื่อวานนี้ ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน

เด็ก 12 สูบบุหรี่ไฟฟ้า-ดื่มน้ำกระท่อม ทำปอดหาย

ย่าช็อก หลานวัย 12 ปี อาการวิกฤติ ปอดหายเกือบทั้งหมด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าและดื่มน้ำกระท่อมตั้งแต่ ป.4

ข่าวแนะนำ

บ่อนดังย่านดอนเมืองปิดเงียบ ขึ้นป้ายห้ามเข้าออก

บ่อนดังย่านดอนเมืองปิดเงียบ ขึ้นป้ายพื้นที่ส่วนบุคคลห้ามเข้าออก พบปิดกิจการตั้งแต่ 16 มี.ค.63 ขณะที่มีกล้องวงจรปิดติดตั้งโดยรอบ

ฮั้วเลือก สว.67

ประธานวุฒิสภา นำทีมแถลงด่วน โต้คดีฮั้วเลือก สว.67

ประธานวุฒิสภา นำทีมแถลงด่วน โต้คดีฮั้วเลือก สว.67 เชื่อเป็นเกมการเมือง หวังเกิดวิกฤต รธน. เพื่อรื้อใหม่ทั้งฉบับ ขู่ใช้ช่องทางกฎหมายกลับ หากทำเสียหาย-บั่นทอนความเชื่อมั่น เพื่อปกป้องศักดิ์ศรี จวก “ทวี” กล่าวหาอั้งยี่ ซ่องโจรทำวุฒิเสื่อมเสีย พร้อมเปิดเวทีซักฟอก

ไทยเข้าฤดูร้อน

กรมอุตุฯ ประกาศเข้าสู่ฤดูร้อนของไทย 28 ก.พ.68

กรมอุตุนิยมวิทยา เตือน 23-25 กุมภาพันธ์นี้ ไทยตอนบนอากาศแปรปรวน ภาคใต้ฝนตกหนัก ส่วนอ่าวไทยตอนล่างคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร พร้อมประกาศประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการ 28 ก.พ.68 จนถึงกลางเดือน พ.ค.

“ไทย จีน เมียนมา” จับมือโชว์ภารกิจราบรื่น ส่งชาวจีนกลับประเทศ

“ไทย จีน เมียนมา” จับมือโชว์แสดงผลภารกิจราบรื่น ส่งชาวจีนเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับประเทศ 200 คน ปรับแผนจีนส่งเครื่องบินรับอีก 400 คน สองวันติด “ภูมิธรรม” เผยพร้อมเสนอนายกฯ เซ็นตั้ง ศปช.ส่วนหน้า ทำงานให้ชัดเจน มีกฎหมายรองรับผู้ปฏิบัติ ย้ำไทยไม่ตั้งศูนย์อพยพรองรับเหยื่อที่เหลือ แต่ประสานให้ต้นทางรับกลับทันที