จับแก๊งไทย-ตุรกีหลอกลงทุนสูญรวมกว่า 200 ล้าน

กทม.6 ส.ค.- ตำรวจจับชาวไทยร่วมชายตุรกีหลอกให้ร่วมลงทุนผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ มีเหยื่อจำนวนมากหลงเชื่อสูญเงินรวมกว่า 200 ล้าน  


พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สอบปากคำนางสุณีย์ ประดิษฐ์ดี, นางสาวอาริยา ท้วมทอง และ นางสาวสุมารินทร์ สุวรรณเทพ ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกง


สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายร้องเรียนว่าถูกผู้ต้องหาทั้ง 3 คน รวมถึงนายฮาลิล เซอร์แคน เติร์กเมน ชาวตุรกี และนางสาวจุรีพร รุ่งเรือง ภรรยาชาวไทย ซึ่งยังหลบหนีหลอกให้ร่วมลงทุน  โดยทั้งหมดได้ร่วมกันจัดตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัด สยาม เรียล กรุ๊ป ขึ้นมาจริง จากนั้นได้หลอกลวงผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ด้วยการตั้งกลุ่มขึ้นมาหลอกเหยื่อให้ร่วมลงทุนแลก เปลี่ยนเงินตรา มีเหยื่อลงเชื่อร่วมลงทุนตั้งแต่ 500 – 100,000 บาท จำนวน 2,0000 คน มีเงินลงทุนรวมกันกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งผู้ต้องหาได้เปิดบริษัทเมื่อเดือนมิถุนายน และได้โหมระดมทุน รวมทั้งประชาสัมพันธ์ผ่านเว็บไซต์ จนมีเหยื่อหลงเชื่อ กระทั่งปิดเว็บไซต์ไปเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยอ้างกับผู้เสียหายว่า ปิดเพื่ออัพเดตระบบข้อมูล

ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีต้องหาหลบหนีออกนอกประเทศ 2 คนคือ นายฮาลิล และ นางสาวจุรีพร โดยทันยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินออกจากบัญชี คาดอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน

นางสุณีย์ฯ ยอมรับว่า เดินทางไปเปิดบัญชีธนาคารกับนางสาวจุรีพรฯ บุตรสาวจริง แต่ไม่ทราบว่าเป็นการไปเซ็นเอกสารเพื่อเปิดบัญชีธนาคาร เพื่อรอรับเงินจากกลุ่มผู้เสียหายที่โอนมาลงทุน และไม่รู้ว่าลูกสาวเปิดบริษัทต้มตุ๋นคนจำนวนมาก  


ด้านนางสาวอาริยา และ นางสาวสุมารินทร์ ยอมรับว่า ได้เซ็นเอกสารบัตรประชาชนให้กับนางสาวจุรีพรไปจริง  แต่ไม่ทราบว่าเป็นการนำเอกสารไปขอจัดตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัด สยาม เรียล กรุ๊ป เพื่อหลอกลวงคนไทยด้วยกัน ซึ่งทั้ง 3 คนยืนยันว่าไม่ได้รับผลตอบแทนใดๆ จากการหลอกลวงของนางสาวจุรีพรและนายฮาลิล จึงอาจตกเป็นเหยื่อเช่นกัน แต่คำกล่าวอ้างนี้ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ ต้องสอบปากคำให้ชัดเจนก่อน

พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้มีเหยื่อหลงเชื่อจำนวนมาก เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหาอ้างว่าจะให้ผลตอบแทนสูงร้อยละ 1.5 ต่อวัน หากลงทุน 500 – 250,000 บาท หรือได้ผลตอบแทนร้อยละ 1.8 ต่อวัน หากลงทุน 250,000 – 1,000,000 บาท และหากลงทุน 1,000,0000 บาทขึ้นไป จะได้รับผลตอบแทนร้อยละ 2 ต่อวัน  นอกจากนี้ผู้ต้องหายังนำผลตอบแทนต่อวัน ไปโชว์ไว้ในพอร์ตลงทุนของผู้เสียหาย จึงเชื่อว่าได้เงินจริงๆ แม้ถอนออกมาไม่ได้ก็ตาม  ขณะที่ทราบว่าการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทของผู้ต้องหา มีการจดทะเบียนจริง มีทุนประเดิม 1,000,0001 บาท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ แต่เป็นการนำชื่อของบุคคลอื่นไปจดทะเบียน จึงฝากไปยังให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าให้ตรวจสอบอย่างเข้มข้น เพราะกลุ่มมิจฉาชีพอาจจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเพื่อบังหน้าเพื่อการหลอกลวง   หลังจากนี้เตรียมประงาน ปปง. ตรวจเส้นทางการเงินจำนวน 200 ล้านบาทดังกล่าวว่าถูกยักย้ายถ่ายเทไปที่ใด เพื่อขยายผลจับกุมผู้ต้องหาอีก 2 คนที่ยังหลบหนี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจ ลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร ด้านบริษัท 9PK นำเอกสารชี้แจง พร้อมขอให้บริษัทจีนช่วยอนุมัติเงินมาจ่ายให้กลุ่มผู้รับเหมาก่อน

จับแล้วโจรบุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่

จับแล้วโจรมาเลย์บุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่ จนมุมสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เผยมาหาลูกชายที่ จ.นนทบุรี แต่ลูกไม่ให้เข้าบ้าน

ปิดล้อมจับชายวัย 43 ยิงเพื่อนบ้าน-ตร.เจ็บ 4

ตำรวจปิดล้อมนานถึง 11 ชั่วโมง จับชายวัย 43 ปี ใช้ปืนยิงเพื่อนบ้านและตำรวจที่เข้าระงับเหตุ บาดเจ็บรวม 4 ราย หลังโมโหเพื่อนบ้านติดกล้องวงจรปิดหันส่องไปทางบ้านผู้ก่อเหตุ ยิงแก๊สน้ำตา-ญาติเกลี้ยกล่อม ยังไม่เป็นผล

แผ่นดินไหวขนาด 5.8 ในไต้หวัน-ไม่มีรายงานความเสียหาย

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไต้หวันรายงานวันนี้ว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดด 5.8 ที่เทศมณฑลอี้หลาน (Yilan) ซึ่งเป็นพื้นที่ชนบทห่างไกลทางตจะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนืออากาศร้อนจัด-ใต้ฝนเพิ่มขึ้น

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ อากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด ส่วนภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40%

คุมตัวโจรมาเลย์ชิงทอง 138 บาท ทำแผนฯ

ตำรวจคุมตัวโจรมาเลย์ชิงทอง 138 บาท ในพื้นที่หาดใหญ่ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พบประวัติสุดแสบ ปล้นฆ่าที่มาเลเซียตั้งแต่อายุ 17 ยังหนีมาก่อเหตุซ้ำที่ไทยอีกหลายครั้ง

นายกฯ ขึ้น ฮ. ดูสภาพจราจรเดินทางสงกรานต์

นายกฯ ขึ้น ฮ. บินดูสภาพจราจร ถ.มิตรภาพ-เส้นทางขึ้นเหนือ-ลงใต้ เตรียมพร้อมประชาชนเดินทางกลับบ้านสงกรานต์ พร้อมตรวจคืบหน้าก่อสร้างทางด่วนพระราม 2 มั่นใจเปิดใช้เต็มรูปแบบ ปลายปี 68 ขณะ “สุริยะ” ยันปลอดภัย ไม่มีของตกหล่น สั่งหยุดก่อสร้างตลอด 24 ชั่วโมง