ดึง สตง.ตรวจเชิงลึกข้าวหายเกือบล้านตัน

นนทบุรี 3 ส.ค. – พาณิชย์ยันไม่ได้นิ่งนอนใจ เร่งหาข้าวสตอกรัฐหายเกือบล้านตัน เสนอ สตง.ตรวจเชิงลึก คาดสรุปผล ก.ย.นี้


นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีสื่อออนไลน์เรียกร้องหาผู้รับผิดชอบกรณีข้าวในสตอกรัฐบาลที่ยังติดค้างอยู่ในคลังสินค้าขององค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ไม่สามารถนำออกมาระบายได้ เพราะมีข้าวหายไปจากบัญชีการตรวจนับจำนวนมาก  

กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะอนุกรรมการและเลขานุการพิจารณาระบายข้าว ขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงว่าตั้งแต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาบริหารประเทศได้ตั้งคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) บริหารจัดการข้าวที่มีอยู่ในสตอกของรัฐที่เกิดจากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาลที่ผ่านมา ซึ่งเก็บรักษาอยู่ในคลังสินค้าของ อคส. และ อ.ต.ก. โดยเริ่มจากการตรวจสอบความมีอยู่จริงของข้าวทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ จากข้อมูลที่ อคส. และ อ.ต.ก. ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลรักษาข้าวในสตอกของรัฐตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาลที่ผ่านมา 


ทั้งนี้ ได้รายงานตัวเลขทางบัญชี วันที่ 2 กรกฎาคม 2557 มีปริมาณรวม 18.70 ล้านตัน โดยมีผลการตรวจสอบด้านปริมาณและคุณภาพข้าวทั้งสิ้น 17.76 ล้านตัน ซึ่งใช้เป็นบัญชีตั้งต้นของการระบายข้าวในสต็อกของรัฐของรัฐบาลปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม พบว่ามีตัวเลขส่วนต่างทางบัญชีของ อคส. และ อ.ต.ก. ปริมาณ 0.94 ล้านตัน คณะกรรมการ นบข. จึงได้มอบหมายให้ อคส.และ อ.ต.ก.ตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับปริมาณข้าว 0.94 ล้านตัน เพื่อให้ได้ปริมาณข้าวที่เป็นข้อยุติสุดท้ายก่อนพิจารณานำออกมาระบายเพื่อเป็นการรักษาประโยชน์ของรัฐต่อไป  

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาคณะกรรมการ นบข. และคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าวได้มีการติดตามความคืบหน้าการดำเนินการของ อคส. และ อ.ต.ก.เป็นระยะ และเพื่อให้การตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวเป็นไปด้วยความรอบคอบ และรัดกุม คณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าวจึงส่งข้อมูลที่ได้รับรายงานจาก อคส. และ อ.ต.ก.ให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ในฐานะหน่วยงานกลางที่ได้รับการยอมรับและเชื่อถือของทุกฝ่ายเป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลทางบัญชีของ อคส. และ อ.ต.ก. ซึ่งคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าวจะได้ติดตามความคืบหน้าผลการตรวจสอบดังกล่าวต่อไป อย่างไรก็ตาม การบริหารจัดการข้าวในสตอกของรัฐที่ผ่านมาได้มีการกำหนดขั้นตอน กระบวนการทำงาน และแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจน ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนมั่นใจและเชื่อมั่นว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ การตรวจสอบดังกล่าวต้องดำเนินการด้วยความโปร่งใส และเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยหากผลการตรวจสอบพบว่ามีความเสียหายเกิดขึ้นหรือมีผู้เข้าไปมีส่วนร่วม ก็จะถูกดำเนินการทางกฎหมายโดยเคร่งครัด โดยทาง สตง.จะสรุปผลตรวจสอบมาให้ทางกรมฯ ภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้ และทางกรมฯ จะรายงานให้ที่ประชุม นบข.รับทราบกันต่อไป

อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวถึงสถานการณ์ข้าวของประเทศว่า หลังจากนี้ความต้องการข้าวไทยในตลาดโลกยังมีอยู่มาก แต่ระหว่างนี้อาจมีการชะลอคำสั่งซื้อบ้าง เพื่อรอดูปริมาณผลผลิตข้าวฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะออกสู่ตลาด โดยราคาข้าวไทยยังอยู่ในระดับสูงเฉลี่ยส่งออกข้าวหอมมะลิเก่าอยู่ที่ตันละ 1,153 เหรียญสหรัฐ ข้าวหอมมะลิใหม่ตันละ 1,122 เหรียญสหรัฐ ข้าวขาว 5% อยู่ที่ตันละ 399 เหรียญสหรัฐ ข้าวขาว 10 % อยู่ที่ตันละ 396 เหรียญสหรัฐ  โดยปริมาณการส่งออกข้าวล่าสุดตั้งแต่เดือนมกราคมถึงวันที่ 1 สิงหาคม อยู่ที่ 6,432,586 ตัน ลดลงร้อยละ 0.17 คิดเป็นมูลค่าอยู่ที่ 3,266 ล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้น ร้อยละ 17.91


อย่างไรก็ตาม ข้าวในสตอกที่เหลือของรัฐบาลขณะนี้ ซึ่งเป็นข้าวในกลุ่มที่ 2 และ 3 จำนวน 70,000 ตัน เป็นข้าวที่จะต้องระบายเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมทั้งหมดนั้น กรมการค้าต่างประเทศจะทำการเปิดระบาย ภายในเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อไม่ให้กระทบกับข้าวฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะออกสู่ตลาด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เผยไม่มีวอร์รูมแถลงนโยบาย ยัน “คนละครึ่ง” เริ่ม ต.ค.นี้

ทำเนียบ 26 ก.ย.-นายกฯ ร้องโหย ไม่มีวอร์รูมแถลงนโยบาย มีแต่เลิฟรูม ยัน “คนละครึ่ง” เริ่มทันที ต.ค.นี้ โยน รมว.คลัง แจงรายละเอียด นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ระหว่าง 29-30 กันยายนนี้ ว่า ร่างสุดท้ายมา 100% แล้ว เมื่อถามว่า จะมีการตั้งวอร์รูมหรือไม่ นายอนุทิน ร้องโหย ก่อนจะบอกว่า “ไม่มีหรอกวอร์รูม มีแต่เลิฟรูม” เมื่อถามถึงนโยบายโครงการ “คนละครึ่ง” จะสามารถเริ่มได้เลยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี พยักหน้ารับ พร้อมระบุว่า ภายในเดือนตุลาคม แต่ขอให้ไปถามรายละเอียดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง.-319.-สำนักข่าวไทย

เร่งเทปูนลงหลุมยักษ์ หน้า รพ.วชิรพยาบาล-สน.สามเสน

กรุงเทพฯ 26 ก.ย. – เร่งเทปูนลงหลุมยักษ์ หน้า รพ.วชิรพยาบาล และ สน.สามเสน คาดวันนี้ต้องเทอีกประมาณ 200 คันรถโม่ปูน จึงจะได้ความสูงของปูนในหลุมตามแผนที่วางไว้ .-สำนักข่าวไทย

จับตาหนองหญ้าแก้ว หวั่นเขมรปลุกปั่นม็อบซ้ำรอย

สระแก้ว 26 ก.ย.- จับตาความเคลื่อนไหวชายแดนไทย-กัมพูชา “บ้านหนองหญ้าแก้ว” หวั่นม็อบเขมรปลุกปั่นสร้างความวุ่นวายซ้ำรอย ชายแดนไทย–กัมพูชา บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เช้าวันนี้ กัมพูชาพาคณะทำงานประสานงานชายแดน หรือ IOT ลงพื้นที่ใกล้จุดผ่านแดน โดยมีเจ้าหน้าที่และผู้ติดตาม 50–60 คน เข้ามาสำรวจและสังเกตการณ์ในรัศมีไม่ไกลจากแนวเขตสแลนตรงจุดพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ฝ่ายความมั่นคงประเมินว่าหลังจากคณะผู้แทนกลับไปแล้ว อาจมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนเกิดขึ้นอีก เนื่องจากมีความพยายามปลุกปั่นให้เกิดการรวมตัวในหลายครั้งที่ผ่านมา ส่วนสถานการณ์ขณะนี้ค่อนข้างสงบ แต่บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด เพราะต่างมีการขยับกำลังในพื้นที่ชายแดนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงที่คณะ IOT ลงพื้นที่ ซึ่งถือเป็นอีกจุดที่ต้องจับตาว่าจะมีความเคลื่อนไหวตามมาหรือไม่ในช่วงค่ำและวันถัดไป -สำนักข่าวไทย

“ศุภมาศ” ดีใจได้ดูแลกำกับสื่อฯ บอก “กลองดีไม่ตีก็ไม่ดัง”

ทำเนียบ 26 ก.ย.- “รมต.ศุภมาศ” ดีใจได้ดูแลกำกับสื่อฯ บอก “กลองดีไม่ตีก็ไม่ดัง” เผยหลังแถลงนโยบาย เตรียมคุยผู้บริหาร “อสมท-กรมประชาสัมพันธ์-องค์กรสื่อ” ผลักดันงานรัฐบาลให้เข้าถึงประชาชนตั้งแต่ครัวเรือนถึงรากหญ้า ในช่วงเวลา 4 เดือน ยังไม่ชัดมีรายการนายกฯ พบประชาชนหรือไม่ นางศุภมาศ อิสรภักดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถือฤกษ์ 09:09 น. เข้าห้องทำงานบนตึกบัญชาการ 1 ก่อนจะถือฤกษ์ 09:45 น. ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล จากนั้นนางศุภมาศ ได้ให้สัมภาษณ์หลังจากเข้ารับตำแหน่งแล้วจะมีนโยบายผลักดันในเรื่องใดบ้างในฐานะที่เข้ามากำกับดูแลด้านสื่อสารมวลชน ว่า เพิ่งจะได้รับทราบการแบ่งงาน ดีใจที่มีโอกาสได้เข้ามาดูแลงานประชาสัมพันธ์ให้กับรัฐบาล “ถือว่ากลองดี แต่ไม่ตีก็ไม่ดัง” เพราะรัฐบาลก็ทำดีอยู่แล้ว เพียงแต่ขาดการประชาสัมพันธ์ที่ทั่วถึงที่ข่าวสารที่จะไปถึงพี่น้องประชาชน โดยเราต้องทำให้นโยบายต่างๆ ทั้ง 4 ด้านที่ได้ประกาศออกไปถึงประชาชน และให้ได้รับประโยชน์จากนโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลตั้งใจทำให้ นางศุภมาศ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ยังต้องรอการแต่งตั้งโฆษกรัฐบาล หากมีบุคคลเข้ามารับตำแหน่งแล้วก็จะมีการพูดคุยกับโฆษกรัฐบาลอีกครั้ง และมีโอกาสจะได้พบปะกับพี่น้องสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล และสื่อมวลชนทั้งหมด เพื่อที่เราจะช่วยกันวางแผน รวมถึงยังต้องขอความรู้ ความร่วมมือ และความช่วยเหลือจากสื่อมวลชนที่จะทำอย่างไรให้นโยบายต่างๆ ที่เตรียมไว้ประชาสัมพันธ์ให้ถึงกลุ่มรากหญ้า และทุกครัวเรือน […]