fbpx

เปิดรับฟังความเห็นเอกชน ร่วมโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย 2 ช่วง

กทม.3 ส.ค.-กทม.เปิดรับฟังความคิดเห็นภาคเอกชนร่วมทุน โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ช่วงเขียวใต้ แบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงเขียวเหนือ หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต แก้ปัญหารถติด มูลค่าก่อสร้างร่วม 54,000 ล้านบาท ระยะสัมปทาน 30 ปี 


นายสมพงษ์ เวียงแก้ว รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานเปิดการสัมมนาเพื่อประเมินความสนใจของภาคเอกชน (Market Sounding Seminar)งานศึกษาและวิเคราะห์ความเหมาะสมแนวทางการให้เอกชนร่วมลงทุน โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ช่วงเขียวใต้ แบริ่ง-สมุทรปราการและช่วงเขียวเหนือ หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ที่ห้องซาลอน บีชั้น 2 โรงแรมสวิสโฮเต็ลเลอ คองคอรด์ โดยโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายทั้ง 2 ช่วง ถือเป็นเส้นทาง สายหลักที่มีความสําคัญในด้านเศรษฐกิจ โดยจะเชื่อมต่อการเดินทางและคมนาคมขนส่งจากกรุงเทพมหานครไปสู่พื้นที่ปริมณฑล แนวเส้นทางของโครงการมีลักษณะในการรองรับกลุ่มผู้โดยสารในกลุ่มเขตที่อยู่อาศัยชานเมืองตอนเหนือและตอนใต้ของกรุงเทพมหานคร เพื่อให้เกิดการเดินทางเข้าสู่บริเวณศูนย์กลางเมืองอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงเชื่อมต่อการเดินทางไปยังกลุ่มพื้นที่ ที่จะพัฒนาเป็นพื้นที่อยู่อาศัย ทําให้กลุ่มเขตที่อยู่อาศัยชานเมืองได้รับการให้ บริการระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ และลดระยะเวลาในการเดินทาง รวมถึงยกระดับคุณภาพ การเดินทางสู่บริเวณศูนย์กลางเมือง ทําให้การใช้ยานพาหนะส่วนบุคคลลดลง ส่งผลทําให้สภาพจราจรติดขัดในกรุงเทพมหานครดีขึ้น 


โดยสถานะปัจจุบันของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ในส่วนงานโยธานั้นได้ก่อสร้างแล้วเสร็จ ยังคงเหลืองานระบบ โดยจะสามารถ เปิดให้บริการประชาชนได้ประมาณปลายปีพ.ศ. 2561 ส่วนช่วงหมอชิต- สะพานใหม่- คูคต ตามกําหนดการคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จและสามารถเปิด ให้บริการประชาชนได้ประมาณปีพ.ศ. 2563 เพื่อให้การดําเนินงานในขั้นตอนต่างๆ ตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวดเร็วและสามารถคัดเลือกเอกชนที่จะเข้ามา ร่วมลงทุนกับภาครัฐ สําหรับการดําเนินงาน ได้ทันตามแผนและกรอบระยะเวลา ที่จะเปิดให้บริการเพื่อความสะดวกของประชาชน พร้อมคุณภาพในการให้บริการและมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่มีความเหมาะสม


รองปลัด กทม.กล่าวว่า กรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวงที่เป็นศูนย์กลางของประเทศในทุกด้าน โดยเฉพาะด้านการปกครอง เศรษฐกิจและการท่องเที่ยว มีประชากรตามทะเบียนบ้านประมาณ 6 ล้านคน แต่มีคนที่เดินทางผ่านเข้าออกมาใช้ชีวิตในกรุงเทพมหานครหรือเดินทางผ่าน แต่ละวันมากกว่า 10 ล้านคน รัฐบาล กระทรวงมหาดไทย และกรุงเทพมหานคร  จึงให้ความสําคัญกับโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจร โดยเร่งรัด ดําเนินการโครงการตามแผนพัฒนาระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลซึ่งโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงเขียวส่วนต่อขยายทั้ง 2 ช่วง เป็นส่วนหนึ่งตามแผนงาน โดยเป็นการขยายการให้บริการ จากรถไฟฟ้าสายสีเขียวในปัจจุบัน ส่งผลให้รถไฟฟ้าสายสีเขียวมีศักยภาพเพิ่มมากขึ้นในการขนส่งประชาชนระหว่างชานเมืองของกรุงเทพกับศูนย์กลางธุรกิจชั้นในได้อย่างสะดวกรวดเร็ว พร้อมสอดรับกับการพัฒนาเมืองตามผังเมืองใหม่ของกรุงเทพมหานคร

ทั้งนี้คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก(คจร.)ได้มีมติในการประชุม ครั้งที่1/2558 เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2558 เห็นชอบในหลักการให้ กรุงเทพมหานครเป็นผู้บริหารจัดการเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ-ใต้ ช่วงดังกล่าวที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) เป็นผู้ดําเนินการ ก่อสร้าง และต่อมาคณะรัฐมนตรีรับทราบมติการประชุมของ คจร. แล้วเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2559 กรุงเทพมหานครจึงได้มอบหมายให้สํานักการจราจรและขนส่ง ดําเนินการ ศึกษาวิเคราะห์ความเหมาะสมโครงการ โดยให้คํานึงถึงประโยชน์สูงสุดของประชาชนและภาครัฐเป็นสําคัญ และเพื่อเป็ นการลดภาระค่าใช้จ่าย ด้านบุคลากรและงบประมาณของภาครัฐ ตลอดจนการเพิ่มประสิทธิภาพ การให้บริการแก่ผู้โดยสาร การควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายในการดําเนินงาน และการบริหารจัดการรายได้จากค่าโดยสาร จึงมีความจําเป็นต้องให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดําเนินงานตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนมีส่วนร่วมลงทุน ในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 และเพื่อให้การศึกษามีข้อมูลที่ครบถ้วนและสมบูรณ์

ทั้งนี้ สํานักการจราจรและขนส่ง จึงจัดให้มีการสัมมนาเพื่อประเมินความสนใจของภาคเอกชน โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนาประมาณ 100 คน และมีวัตถุประสงค์ เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนและภาคธุรกิจเอกชนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนและภาคธุรกิจเอกชนที่เกี่ยวข้อง สถาบันการเงิน ทั้งในประเทศและต่างประเทศได้รับทราบข้อมูล เกี่ยวกับโครงการตลอดจนกรอบแนวคิดแนวทางการดําเนินงาน และกรอบเวลาสําหรับการให้เอกชนมีส่วนร่วมในการดําเนินงาน เพื่อประเมินความสนใจของภาค เอกชนในการร่วมลงทุนกับภาครัฐ สําหรับการดําเนินงานโครงการ ในรูปแบบต่างๆ และรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะจากผู้เข้าร่วมงาน เกี่ยวกับ ความเป็นไปได้ปัญหาอุปสรรค และรูปแบบการร่วมลงทุนที่เหมาะสม และ คาดหวังว่า ภาคเอกชนจะได้รับข้อมูล ที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการให้เอกชนร่วมลงทุน โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายทั้ง 2 ช่วงนี้เพื่อนําไปพิจารณาวางแผน เตรียมความพร้อม และ ประกอบการตัดสินใจเข้าร่วมการยื่นข้อเสนอเพื่อร่วมลงทุนกับกรุงเทพมหานคร มูลค่าการก่อสร้าง ร่วม 54,000 ล้านบาท โดยมีระยะเวลาสัมปทาน 30 ปี เพื่อช่วยขับเคลื่อนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน กระตุ้นเศรษฐกิจ และส่งเสริมการพัฒนาของประเทศที่ยั่งยืนต่อไป .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าหั่นศพ “ยากูซ่า” จ.นนทบุรี

คดีสะเทือนขวัญ พบชิ้นส่วนมือ ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ล่าสุดตำรวจจับกุมหนึ่งในผู้ต้องหาได้แล้ว และทราบว่าทั้งผู้ตายและผู้ลงมือฆ่าหั่นศพ เป็นแก๊งยากูซ่าชาวญี่ปุ่น

ชาวบ้านร้องโรงงานเก็บสารเคมีเร่งเยียวยาเหตุไฟไหม้

ชาวบ้านที่เดือดร้อนจากเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีอุตสาหกรรม จ.ระยอง เรียกร้องโรงงานช่วยเหลือ บอกน้ำสักขวดก็ไม่ได้

แบงก์ชาติ​ส่งหนังสือให้ทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต​​ ไม่ทำสะดุด

ปลัดคลัง ระบุแบงก์ชาติ​ส่งหนังสือถึง ครม.ทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต​​ ไม่ทำให้สะดุด ชี้เป็นข้อเสนอเก่า​​ เดินหน้าตามแผนเดิม​ 

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา เริ่มมีสัญญาณที่ดี-การสู้รบเงียบสงบ

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น หลังการสู้รบเงียบสงบเกินกว่า 24 ชั่วโมง คาดมีการเจรจากันของกลุ่มต่อต้านและทางการเมียนมา หยุดยิงชั่วคราวเพื่อลดผลกระทบ