ได้ข้อสรุปทีแคส ปี 2562

ก.ศึกษาธิการ 3 ส.ค.- รมว.ศึกษาธิการ เผยได้ข้อสรุประบบคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา (ทีแคส) ปีการศึกษา 2562 แล้ว ปรับรอบ 3 เลือกได้ 6 อันดับ จาก 4 อันดับ


นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยหลังจากเป็นประธานประชุมหน่วยงานที่จัดส่งข้อมูลของนักเรียนเข้าสู่ระบบคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา ปีการศึกษา 2562 หรือ “ทีแคส” ปี 62 ว่า ศธ.และที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ได้ถอดบทเรียนทั้งหมดจากการประชาพิจารณ์และรวบรวมประเด็นปัญหาของทีแคส ปี 61 เพื่อแก้ไขปัญหาในทุกเรื่อง ตนมองว่า ระบบทีแคสเป็นระบบที่ดี และต้องดำเนินการต่อไป โดยการดำเนินงานต่อไปทุกภาคส่วนจะต้องคำนึงถึงประโยชน์ของนักเรียนเป็นหลัก โดยได้สั่งการให้ ศธ.จัดตั้งศูนย์ข้อมูลเพื่อการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา เบื้องต้นศูนย์ข้อมูลฯ มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เป็นหลักในการดูแล อย่างไรก็ตาม การทำงานของศูนย์ข้อมูลฯ นี้จะประสานกับหลายหน่วยงาน หลายกระทรวง จุดนี้ตนต้องกลับไปดูระเบียบก่อนว่าจะให้ใครเป็นหน่วยประสานงาน 

“ศูนย์ข้อมูลฯ จะทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลนักเรียนที่กำลังเรียนจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า เพื่อไม่ให้เป็นภาระของโรงเรียนที่ต้องมานั่งประมวลจัดพิมพ์แบบฟอร์ม โดยการประมวลผลข้อมูลจะทำที่ส่วนกลางทั้งหมด เพื่อความยุติธรรมในเรื่องคะแนน เช่น GPAX ที่เป็นผลการเรียน หรือเกรดเฉลี่ยของทุกวิชาที่ได้เรียนมาตลอดหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า การจัดแบบฟอร์มการจบที่ไม่เหมือนกันของแต่ละโรงเรียน และศูนย์นี้จะพัฒนาฐานข้อมูลนักเรียนทั้งหมด เพื่อประสานกับ ทปอ.โดยตรง และมีผู้อำนวยการโรงเรียนที่มีนักเรียนระดับชั้น ม.ปลาย จะเป็นผู้รับผิดชอบในการส่งข้อมูลให้ส่วนกลาง” นพ.ธีระเกียรติ กล่าว 


ด้านนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) กล่าวว่า ทปอ.ได้ถอดบทเรียนจากปีที่ผ่านมา และยอมรับว่า ทีแคส 61 ยังประสบปัญหาด้านความเหลื่อมล้ำอยู่ ซึ่งวันนี้ ทปอ.ได้เรียนรู้จากบทเรียนนี้แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องการที่จะดูแลนักเรียนกว่าครึ่งล้านคน คงไม่มีระบบไหนที่จะสมบูรณ์ และสามารถดูแลให้ทุกคนพึงพอใจได้ทั้งหมด แต่ ศธ. และ ทปอ. ยืนยันว่าจะมุ่งมั่นพยายามอย่างเต็มที่เพื่อนักเรียนทุกคน คือมุ่งมั่นจะลดความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้นในระบบการศึกษาของไทย และอยากให้นักเรียน ม.6 ได้เรียนจบก่อน กระบวนการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ถือเป็นความมุ่งมั่นที่ ทปอ.จะคงต่อไป 

ส่วนการแก้ไขปัญหาระบบทีแคสปี 62 นายชูศักดิ์ ลิ่มสกุล ประธานคณะกรรมการการพัฒนาระบบทีแคส ได้ออกแบบขั้นตอนทีแคสปี 62 โดยจะคงไว้ 5 รอบเหมือนเดิม คือ รอบที่ 1 ดูจากแฟ้มสะสมงาน (พอร์ตฟอลิโอ) รอบที่ 2 การรับแบบโควตา รอบที่ 3 การรับตรงร่วมกัน รอบที่ 4 แอดมิสชั่นส์ และรอบที่ 5 การรับตรงแบบอิสระ

“แต่ทีแคสปี 62 จะมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของการรับนักเรียน รอบที่ 3 รับตรงร่วมกัน โดยรอบที่ 3 จากปีที่แล้ว ให้นักเรียนเลือก 4 อันดับ โดยนักเรียนมีโอกาสติดทั้งหมด 4 อันดับ ทำให้เกิดปัญหาการกั๊กที่ขึ้นมา ในการประชุมครั้งนี้ได้ความชัดเจนแล้วว่า ต่อไปทีแคส รอบ 3 รับตรงร่วมกัน จะเป็นการเรียงคะแนน และจากเลือกได้ 4 อันดับ นักเรียนจะสามารถเลือกเพิ่มเป็น 6 อันดับ ซึ่งคาดว่าจะสามารถแก้ปัญหาการกั๊กที่ในรอบที่ 3 ได้ ส่วนนักเรียนในกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท.) ยังคงอยู่ในรอบที่ 3 เพราะไม่ว่านักเรียนที่สมัครในรอบที่ 3 จะเลือกคณะสาขาในกลุ่ม กสพท. หรือไม่เลือกเลย นักเรียนทุกคนจะเลือกได้ 6 อันดับเท่ากัน ทั้งนี้ ในการเรียงลำดับคะแนนรอบที่ 3 จะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง ทปอ. และมหาวิทยาลัย โดยมหาวิทยาลัยจะทำการเรียงลำดับของคณะ สาขาวิชาที่ดูแล และส่งข้อมูลมายัง ทปอ. เพื่อให้ ทปอ.ดูแลการเรียงลำดับคะแนนในภาพรวมต่อไป” นายสุชัชวีร์ กล่าว


นายสุชัชวีร์ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องระยะเวลาการเปิดรับสมัคร ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป เบื้องต้นในปีที่ผ่านมา เวลาคัดเลือก 10 เดือนด้วยกัน คือ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560 ถึงกรกฎาคม 2561 แต่ทีแคสปี 62 คาดว่าจะลดเวลาเหลือ 6 เดือนครึ่ง ซึ่งเชื่อว่าหากลดเวลาการดำเนินงาน การจัดการจะต้องดีกว่าปีที่แล้ว ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติม ทปอ.จะจัดแถลงข่าวอีกครั้ง 

ขณะที่ นพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า วันนี้ ศธ. และ ทปอ.ได้ข้อสรุปชัดเจนว่า ยังคงระบบทีแคสไว้ เพราะเป็นระบบที่ดีที่สุดในการคัดเลือกนักเรียนเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัย ตอบโจทย์ทั้งนักเรียนและมหาวิทยาลัย โดยนักเรียนสามารถเลือกที่เรียนได้ตามความต้องการของตน และมหาวิทยาลัยเองก็มีสิทธิเลือกนักเรียนให้ตรงความต้องการของมหาวิทยาลัยเช่นกัน เพียงแต่ว่าที่ผ่านมามีข้อบกพร่องทางเทคนิคบ้าง แต่ขอยืนยันว่า ศธ. และ ทปอ.จะปิดช่วงโหว่ แก้ไขปัญหานี้แน่นอน  

“นอกจากการหารือเรื่องทีแคสแล้ว ประเด็นที่หารือร่วมกันอีกประเด็นหนึ่ง คือ เรื่องข้อสอบ เพื่อที่จะตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในอนาคต และตอบสนองเป้าหมายของประเทศ ต่อไปข้อสอบจะต้องเน้นเรื่องการวัดความถนัดและสมรรถนะให้มากขึ้น ขณะนี้อยู่ในระหว่างการปรับข้อสอบ โดยต้องแยกให้ชัดเจนว่า การวัดความถนัดและสมรรถนะนั้นสำคัญที่สุด ส่วนเรื่องวิชาการไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่าไร เพราะในอนาคตความรู้ทางวิชาการอาจล้าสมัยได้ โดยสิ่งที่ ศธ.กำลังจะปรับ เช่น ข้อสอบความถนัดทั่วไป (GAT) และการทดสอบความถนัดทางวิชาการ/วิชาชีพ (PAT) ซึ่งที่ประชุมวิเคราะห์แล้วว่า ข้อสอบเหล่านี้ไม่ตอบโจทย์ความต้องการทั้งหมด จำเป็นที่ต้องปรับเปลี่ยนใหม่” นพ.อุดม กล่าว

นพ.อุดม กล่าวต่อว่า เห็นใจ ทปอ.อย่างมากที่รับทำงานตรงนี้ เนื่องจาก ทปอ.ไม่ได้เป็นหน่วยงานที่มีการรองรับทางกฎหมาย การติดต่อประสานขอข้อมูลจากหน่วยงานอื่นทำได้อย่างจำกัด และการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาเป็นงานที่ใหญ่มาก นพ.ธีระเกียรติ จึงมีนโยบายว่า ต่อไปกระทรวงอุดมศึกษาฯ ที่กำลังเกิดขึ้นใหม่ ต้องรับดูแลเรื่องการรับสมัครบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษามาเป็นงานถาวร เนื่องจากงานนี้เป็นงานใหญ่ และมีหลายกระทรวงที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ต้องมีหน่วยงานที่ดูแลอย่างจริงจัง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยยังมีฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทย มีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

รวบ ผอ.กองช่าง เรียกรับสินบน แลกใบอนุญาตถมดิน-สร้างหอพัก

ปทุมธานี 11 ก.ย. – หลักฐานคาโต๊ะ! ป.ป.ช. สนธิกำลังตำรวจ บุกจับ ผอ.กองช่างเทศบาลหลักหก จ.ปทุมธานี คาห้องทำงาน พร้อมเงินสดของกลาง 1.9 แสนบาท หลังเรียกรับสินบน แลกใบอนุญาตถมดิน-สร้างหอพัก 8 ชั้น ด้านเจ้าตัวปฏิเสธ อ้างผู้เสียหายนำมาให้เอง เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ภาค 1 นำโดย น.ส.ชฎารัตน์ อนรรฆอร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 1 วางแผนร่วมกับชุดสืบสวนสำนักงาน ป.ป.ช. และตำรวจสืบสวนภูธรภาค นำหมายศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 เข้าตรวจค้น พร้อมจับกุมนายวีระเชษฐ์ อายุ 59 ปี ผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลตำบลหลักหก จ.ปทุมธานี ภายในห้องทำงาน เทศบาลตำบลหลักหก หลังมีพฤติการณ์เรียกรับเงินจากผู้ขออนุญาตถมดินและขออนุญาตก่อสร้างอาคาร พร้อมตรวจยึดเงินของกลาง ซุกซ่อนอยู่ที่พื้นใต้ลิ้นชักโต๊ะทำงาน 190,000 บาท เบื้องต้นจากการตรวจหมายเลขธนบัตร ตรงกับสำเนาธนบัตรที่ผู้เสียหายนำไปมอบให้กับนายวีระเชษฐ์ ก่อนหน้านี้ และเจ้าหน้าที่ได้ถ่ายสำเนาและลงรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีไว้เป็นหลักฐาน […]

ปิดล้อมไล่ล่าผู้ก่อเหตุ หลังปะทะเดือดสะบ้าย้อย 2 ระลอก

สงขลา 11 ก.ย. – เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง วางกำลังปิดล้อมพื้นที่บ้านห้วยเต่า อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ไล่ล่ากลุ่มก่อความไม่สงบ หลังเหตุปะทะเดือด 2 ระลอก พบผู้ก่อเหตุมีหมายจับคดีความมั่นคง หลังเหตุปะทะเดือด 2 ระลอก ระหว่างเจ้าหน้าที่กับกลุ่มก่อความไม่สงบ ในพื้นที่บ้านห้วยเต่า อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจ วางกำลังบนถนนเส้นทางเข้าออกพื้นที่ปะทะ ไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าเขตปะทะอย่างเด็ดขาด เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่นิ่ง ยังคงมีการปิดล้อมบริเวณเนินเขา เพื่อไล่ล่ากลุ่มผู้ก่อเหตุ มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่พบรอยเลือดและกระเป๋าเป้ถูกทิ้งไว้บนเนินเขา บริเวณจุดปะทะ คาดว่ากลุ่มคนร้ายน่าจะได้รับบาดเจ็บด้วย สำหรับกลุ่มคนร้ายที่ปะทะกับเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นมีข้อมูลว่า เป็นกลุ่มของนายกอเซ็ง ลาเตะยามา อายุ 35 ปี ชาว อ.ยะหา จ.ยะลา ผู้ต้องหาคดีความมั่นคง ซึ่งมีหมายจับ 7 หมาย และนายฮุสนี ยีกะเส็ม อายุ 34 ปี ชาว อ.เทพา จ.สงขลา มีหมายจับ […]

กักสิงโตสวนสัตว์ดัง-ปรับพฤติกรรม

กรุงเทพฯ 11 ก.ย. – เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ สั่งกักสิงโตสวนสัตว์ดัง เพื่อปรับพฤติกรรม แยกเพศ-เฝ้าสังเกตใกล้ชิด เจ้าหน้าที่จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ลงพื้นที่สวนสัตว์ดัง ย่านคลองสามวา กรุงเทพฯ หลังเกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์เสียชีวิต โดยได้สั่งการให้กักสิงโตทั้งหมดในฝูงที่ก่อเหตุไว้ในกรงชั่วคราว แยกสิงโตเพศผู้และเพศเมีย เพื่อเฝ้าสังเกตพฤติกรรมในระยะใกล้ สำหรับสิงโตที่เข้าตะปบเจ้าหน้าที่จนเสียชีวิต เป็นตัวผู้ โดยสิงโตร่วมฝูงมี 7 ตัว แต่ที่เข้ารุมกัดเจ้าหน้าที่มี 5 ตัว ได้แก่ 1) ทรัมป์ (เพศผู้) ตัวตะปบ 2) ไบท์ (เพศผู้) ตัวตาม 3) อ้อน (เพศเมีย) ตัวตาม 4) อ้าย (เพศเมีย) ตัวตาม 5) ยาว (เพศเมีย) ตัวตาม ทั้งนี้ สิงโตทุกตัวอายุประมาณ 10 ปี พร้อมกันนี้ สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กำลังตรวจสอบมาตรการความปลอดภัย และจะไม่อนุญาตให้เปิดส่วนจัดแสดงสัตว์ดุร้าย […]