ได้ข้อสรุปทีแคส ปี 2562

ก.ศึกษาธิการ 3 ส.ค.- รมว.ศึกษาธิการ เผยได้ข้อสรุประบบคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา (ทีแคส) ปีการศึกษา 2562 แล้ว ปรับรอบ 3 เลือกได้ 6 อันดับ จาก 4 อันดับ


นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยหลังจากเป็นประธานประชุมหน่วยงานที่จัดส่งข้อมูลของนักเรียนเข้าสู่ระบบคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา ปีการศึกษา 2562 หรือ “ทีแคส” ปี 62 ว่า ศธ.และที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ได้ถอดบทเรียนทั้งหมดจากการประชาพิจารณ์และรวบรวมประเด็นปัญหาของทีแคส ปี 61 เพื่อแก้ไขปัญหาในทุกเรื่อง ตนมองว่า ระบบทีแคสเป็นระบบที่ดี และต้องดำเนินการต่อไป โดยการดำเนินงานต่อไปทุกภาคส่วนจะต้องคำนึงถึงประโยชน์ของนักเรียนเป็นหลัก โดยได้สั่งการให้ ศธ.จัดตั้งศูนย์ข้อมูลเพื่อการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา เบื้องต้นศูนย์ข้อมูลฯ มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เป็นหลักในการดูแล อย่างไรก็ตาม การทำงานของศูนย์ข้อมูลฯ นี้จะประสานกับหลายหน่วยงาน หลายกระทรวง จุดนี้ตนต้องกลับไปดูระเบียบก่อนว่าจะให้ใครเป็นหน่วยประสานงาน 

“ศูนย์ข้อมูลฯ จะทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลนักเรียนที่กำลังเรียนจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า เพื่อไม่ให้เป็นภาระของโรงเรียนที่ต้องมานั่งประมวลจัดพิมพ์แบบฟอร์ม โดยการประมวลผลข้อมูลจะทำที่ส่วนกลางทั้งหมด เพื่อความยุติธรรมในเรื่องคะแนน เช่น GPAX ที่เป็นผลการเรียน หรือเกรดเฉลี่ยของทุกวิชาที่ได้เรียนมาตลอดหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า การจัดแบบฟอร์มการจบที่ไม่เหมือนกันของแต่ละโรงเรียน และศูนย์นี้จะพัฒนาฐานข้อมูลนักเรียนทั้งหมด เพื่อประสานกับ ทปอ.โดยตรง และมีผู้อำนวยการโรงเรียนที่มีนักเรียนระดับชั้น ม.ปลาย จะเป็นผู้รับผิดชอบในการส่งข้อมูลให้ส่วนกลาง” นพ.ธีระเกียรติ กล่าว 


ด้านนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) กล่าวว่า ทปอ.ได้ถอดบทเรียนจากปีที่ผ่านมา และยอมรับว่า ทีแคส 61 ยังประสบปัญหาด้านความเหลื่อมล้ำอยู่ ซึ่งวันนี้ ทปอ.ได้เรียนรู้จากบทเรียนนี้แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องการที่จะดูแลนักเรียนกว่าครึ่งล้านคน คงไม่มีระบบไหนที่จะสมบูรณ์ และสามารถดูแลให้ทุกคนพึงพอใจได้ทั้งหมด แต่ ศธ. และ ทปอ. ยืนยันว่าจะมุ่งมั่นพยายามอย่างเต็มที่เพื่อนักเรียนทุกคน คือมุ่งมั่นจะลดความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้นในระบบการศึกษาของไทย และอยากให้นักเรียน ม.6 ได้เรียนจบก่อน กระบวนการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ถือเป็นความมุ่งมั่นที่ ทปอ.จะคงต่อไป 

ส่วนการแก้ไขปัญหาระบบทีแคสปี 62 นายชูศักดิ์ ลิ่มสกุล ประธานคณะกรรมการการพัฒนาระบบทีแคส ได้ออกแบบขั้นตอนทีแคสปี 62 โดยจะคงไว้ 5 รอบเหมือนเดิม คือ รอบที่ 1 ดูจากแฟ้มสะสมงาน (พอร์ตฟอลิโอ) รอบที่ 2 การรับแบบโควตา รอบที่ 3 การรับตรงร่วมกัน รอบที่ 4 แอดมิสชั่นส์ และรอบที่ 5 การรับตรงแบบอิสระ

“แต่ทีแคสปี 62 จะมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของการรับนักเรียน รอบที่ 3 รับตรงร่วมกัน โดยรอบที่ 3 จากปีที่แล้ว ให้นักเรียนเลือก 4 อันดับ โดยนักเรียนมีโอกาสติดทั้งหมด 4 อันดับ ทำให้เกิดปัญหาการกั๊กที่ขึ้นมา ในการประชุมครั้งนี้ได้ความชัดเจนแล้วว่า ต่อไปทีแคส รอบ 3 รับตรงร่วมกัน จะเป็นการเรียงคะแนน และจากเลือกได้ 4 อันดับ นักเรียนจะสามารถเลือกเพิ่มเป็น 6 อันดับ ซึ่งคาดว่าจะสามารถแก้ปัญหาการกั๊กที่ในรอบที่ 3 ได้ ส่วนนักเรียนในกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท.) ยังคงอยู่ในรอบที่ 3 เพราะไม่ว่านักเรียนที่สมัครในรอบที่ 3 จะเลือกคณะสาขาในกลุ่ม กสพท. หรือไม่เลือกเลย นักเรียนทุกคนจะเลือกได้ 6 อันดับเท่ากัน ทั้งนี้ ในการเรียงลำดับคะแนนรอบที่ 3 จะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง ทปอ. และมหาวิทยาลัย โดยมหาวิทยาลัยจะทำการเรียงลำดับของคณะ สาขาวิชาที่ดูแล และส่งข้อมูลมายัง ทปอ. เพื่อให้ ทปอ.ดูแลการเรียงลำดับคะแนนในภาพรวมต่อไป” นายสุชัชวีร์ กล่าว


นายสุชัชวีร์ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องระยะเวลาการเปิดรับสมัคร ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป เบื้องต้นในปีที่ผ่านมา เวลาคัดเลือก 10 เดือนด้วยกัน คือ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560 ถึงกรกฎาคม 2561 แต่ทีแคสปี 62 คาดว่าจะลดเวลาเหลือ 6 เดือนครึ่ง ซึ่งเชื่อว่าหากลดเวลาการดำเนินงาน การจัดการจะต้องดีกว่าปีที่แล้ว ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติม ทปอ.จะจัดแถลงข่าวอีกครั้ง 

ขณะที่ นพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า วันนี้ ศธ. และ ทปอ.ได้ข้อสรุปชัดเจนว่า ยังคงระบบทีแคสไว้ เพราะเป็นระบบที่ดีที่สุดในการคัดเลือกนักเรียนเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัย ตอบโจทย์ทั้งนักเรียนและมหาวิทยาลัย โดยนักเรียนสามารถเลือกที่เรียนได้ตามความต้องการของตน และมหาวิทยาลัยเองก็มีสิทธิเลือกนักเรียนให้ตรงความต้องการของมหาวิทยาลัยเช่นกัน เพียงแต่ว่าที่ผ่านมามีข้อบกพร่องทางเทคนิคบ้าง แต่ขอยืนยันว่า ศธ. และ ทปอ.จะปิดช่วงโหว่ แก้ไขปัญหานี้แน่นอน  

“นอกจากการหารือเรื่องทีแคสแล้ว ประเด็นที่หารือร่วมกันอีกประเด็นหนึ่ง คือ เรื่องข้อสอบ เพื่อที่จะตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในอนาคต และตอบสนองเป้าหมายของประเทศ ต่อไปข้อสอบจะต้องเน้นเรื่องการวัดความถนัดและสมรรถนะให้มากขึ้น ขณะนี้อยู่ในระหว่างการปรับข้อสอบ โดยต้องแยกให้ชัดเจนว่า การวัดความถนัดและสมรรถนะนั้นสำคัญที่สุด ส่วนเรื่องวิชาการไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่าไร เพราะในอนาคตความรู้ทางวิชาการอาจล้าสมัยได้ โดยสิ่งที่ ศธ.กำลังจะปรับ เช่น ข้อสอบความถนัดทั่วไป (GAT) และการทดสอบความถนัดทางวิชาการ/วิชาชีพ (PAT) ซึ่งที่ประชุมวิเคราะห์แล้วว่า ข้อสอบเหล่านี้ไม่ตอบโจทย์ความต้องการทั้งหมด จำเป็นที่ต้องปรับเปลี่ยนใหม่” นพ.อุดม กล่าว

นพ.อุดม กล่าวต่อว่า เห็นใจ ทปอ.อย่างมากที่รับทำงานตรงนี้ เนื่องจาก ทปอ.ไม่ได้เป็นหน่วยงานที่มีการรองรับทางกฎหมาย การติดต่อประสานขอข้อมูลจากหน่วยงานอื่นทำได้อย่างจำกัด และการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาเป็นงานที่ใหญ่มาก นพ.ธีระเกียรติ จึงมีนโยบายว่า ต่อไปกระทรวงอุดมศึกษาฯ ที่กำลังเกิดขึ้นใหม่ ต้องรับดูแลเรื่องการรับสมัครบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษามาเป็นงานถาวร เนื่องจากงานนี้เป็นงานใหญ่ และมีหลายกระทรวงที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ต้องมีหน่วยงานที่ดูแลอย่างจริงจัง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เมียติด GPS รถผัว ตามง้อถึงบ้าน ฝ่ายชายเมิน ยิงดับ

ภรรยาติด GPS รถสามี ตามง้อไม่สำเร็จ ซัดด้วยลูกโม่ตายคาใต้ถุนบ้าน คาดปมทะเลาะหึงหวง คิดจบชีวิตตัวเองตาม แต่พ่อสามียึดปืนไว้ทัน

ครูสูญเงิน 1.2 ล้านบาท มิจฉาชีพหลอกเป็นที่ดิน-จนท.ธนาคาร

ครูสาวชาวอุบลราชธานี ถูกมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นหน่วยงานราชการ และเจ้าหน้าที่ธนาคาร ใช้เบอร์ธนาคารโทรหาจึงหลงเชื่อ สูญเงินกว่า 1.2 ล้านบาท

สุราษฎร์ฯ คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงท่วมบ้าน-รีสอร์ต

ฝนตกหนัก-คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงซัดบ้านพัก-รีสอร์ต อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พังเสียหาย 4 หลัง เตือนเรือประมงงดออกจากฝั่ง

New threats in Los Angeles as wildfire switches direction

ไฟป่าแอลเอเปลี่ยนทิศสร้างปัญหาใหม่

ลอสแอนเจลิส 12 ม.ค.- รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเกิดภัยคุกคามใหม่วานนี้ เมื่อไฟป่าที่โหมไหม้เผาหลายพื้นที่ทั่วเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอเคาน์ตี้ได้เปลี่ยนทิศทาง ทำให้ต้องสั่งอพยพประชาชนเพิ่มเติม และกลายเป็นปัญหาท้าทายใหม่สำหรับทีมนักดับเพลิง พื้นที่เขตแคลิฟอร์เนียใต้เผชิญไฟป่ามาตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม โดยเกิดไฟป่าพร้อมกัน 6 จุดทั่วแอลเอเคาน์ตี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 คน  ผู้สูญหาย 13 คน  บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างเสียหายหรือถูกทำลายรวมแล้วกว่า 10,000 หลัง คาดว่าความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินจะเพิ่มขึ้นอีก เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบพื้นที่ประสบภัยได้อย่างละเอียด ขณะนี้ยังคงมีประชาชน 153,000 คนอยู่ภายใต้คำสั่งอพยพ และอีก 166,800 คน เสี่ยงต้องอพยพเนื่องจากมีการประกาศเคอร์ฟิวในทุกพื้นที่ที่มีการอพยพประชาชนหนีไฟป่า ขณะเดียวกันเครื่องบินกองทัพอากาศของเม็กซิโกได้ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเมื่อวานนี้ เพื่อนำทีมบุคคลากร 74 คนจากกองทัพบกและคณะกรรมาธิการป่าไม้แห่งชาติ ไปช่วยปฏิบัติการดับไฟป่าที่กำลังลุกไหม้ลามไม่หยุดทั่วเขตแคลิฟอร์เนียใต้ ภารกิจด้านมนุษยธรรมดังกล่าวครอบคลุมทั้งปฏิบัติการดับไฟป่าและปกป้องพลเรือน ขณะที่กงสุลเม็กซิโกในเมืองแอลเอประกาศไม่ปิดทำการและเสนอให้ที่พักพิงกับผู้ประสบภัยชาวเม็กซิโก ไม่ว่าจะมีสถานะเป็นผู้อพยพหรือไม่ ปัจจุบันมีชาวเม็กซิโกหรือลูกหลานชาวเม็กซิโกอาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียคิดเป็นเกือบร้อยละ 30 ของประชากรทั้งรัฐ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

น้ำค้างแข็ง

หนาวสะท้าน จ.เลย แม่คะนิ้งเกาะหลังคารถ-ยอดหญ้า

หนาวสะท้าน จ.เลย แม่คะนิ้งเกาะหลังคารถ-ยอดหญ้า ขณะที่พื้นราบหนาวไม่แพ้กัน อุณหภูมิลดเหลือ 6-7 องศาฯ ส่วนที่พิษณุโลก บ้านร่องกล้า อุณหภูมิยอดหญ้าลบ 2 องศาฯ และที่บึงกาฬ ความหนาวกระทบวิถีชาวบ้าน ลมแรงทำไฟไหม้บ้าน

เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

ครม.​อนุมัติหลักการ พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

นายกฯ​ เผย​ ครม.​อนุมัติหลักการ ร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ กฤษฎีกายันไม่ขวาง​ ไม่ต้องยกร่างใหม่ แต่จะไปปรับคำให้คล้องกับที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ชี้เกิดเร็วดีเพื่อประโยชน์ประเทศ

ฝากขังจ่าเอ็ม

ฝากขัง “จ่าเอ็ม กองเรือ” พร้อมค้านประกันตัว

ฝากขัง “จ่าเอ็ม กองเรือ” สวมเกราะ หมวกกันกระสุน พร้อมอรินทราช 26 คอยดูแลเรื่องความปลอดภัยตลอดทาง เจ้าตัวสีหน้าเรียบเฉย

Satellite images show Palisades Fire

ไฟป่าแอลเอเหลือเผาไหม้รุนแรง 3 จุด

ไฟป่าในเทศมณฑลลอสแอนเจลิส หรือแอลเอเคาน์ตี้ ของสหรัฐ ยังเหลือลุกไหม้รุนแรงอยู่ 3 จุด ภัยคุกคามจากไฟป่ายังคงสูงจนถึงวันพุธ เนื่องจากกระแสลมพัดกระโชกแรง