กรุงเทพฯ 20 ก.ย. – ผู้บริหารพลัสพร็อพเพอร์ตี้ชี้หมดยุคเก็งกำไรใบจองคอนโดมิเนียม ชี้นักลงทุนอาจต้องถือลงทุนนานถึง 3 ปี เผยราคาย่านอโศก-พร้อมพงษ์ พุ่งสูงถึง 260,000 บาทต่อตารางเมตร
นายภูมิภักดิ์ จุลมณีโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว ทำให้กำลังซื้อมีจำกัดส่งผลให้การขายใบจอง หรือขายคอนโดมิเนียมเพื่อทำกำไรของนักลงทุนทำได้ยากขึ้น จากที่เคยขายใบจองในช่วง2-3 เดือน เป็นต้องถือลงทุนยาว 3 ปี นอกจากนี้ หลายโครงการลดความเสี่ยงด้วยการเก็บเงินดาวน์อัตราสูงขึ้น ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่มีความเข้าใจถึงข้อจำกัดของการลงทุนในคอนโดมิเนียมในช่วงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในคอนโดมิเนียมยังถือเป็นการลงทุนที่ได้รับผลตอบแทนดีในภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำ โดยเฉพาะการลงทุนในทำเลที่เป็นที่นิยม เช่น โซนอโศก- พร้อมพงษ์ ซึ่งมีขนาดเพียง 2.5 ตารางกิโลเมตร แต่เป็นจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้า BTS และ MRT ศูนย์กลางธุรกิจ ซึ่งปี 2559 คอนโดมิเนียมโซนอโศก- พร้อมพงษ์ เพิ่มขึ้น 1,044 ยูนิต หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 19 จากปี 2558 ส่งผลให้มีคอนโดมิเนียมรวม 5,417 ยูนิต ซึ่งเป็นการเติบโตในอัตราที่ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากที่ดินที่จะพัฒนาเป็นโครงการใหม่หายากขึ้น ส่งผลให้ทำเลนี้ราคาปรับเพิ่มขึ้นทุกปี โดยค่าเฉลี่ยของการปรับราคาของโครงการเปิดใหม่ต่อปีอยู่ที่ร้อยละ 9-10 ซึ่งราคาคอนโดมิเนียมพื้นที่นี้เฉลี่ยอยู่ที่ 230,000 บาทต่อตารางเมตร และคาดว่าปี 2560 ราคาขายคอนโดมิเนียมโซนอโศก- พร้อมพงษ์จะปรับขึ้นไปที่ 260,000 บาทต่อตารางเมตร หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 ซึ่งหากนักลงทุนซื้อลงทุนเมื่อปี 2556 จะมีกำไรแล้วประมาณร้อยละ 20-30 ส่วนผู้ต้องการลงทุนเพื่อปล่อยเช่ามีอัตราผลตอบแทนการปล่อยเช่าอยู่ที่ร้อยละ 5
นายภูมิภักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่เห็นสัญญาณฟองสบู่ในพื้นที่โซนอโศก-พร้อมพงษ์ เนื่องจากมีความต้องการคอนโดมิเนียมในทำเลดังกล่าวสูงมากทั้งจากผู้ที่ต้องการอยู่อาศัยเองและผู้ลงทุนเพื่อปล่อยเช่า นอกจากนี้อุปทานใหม่ในช่วงไตรมาส 4/2559 – ไตรมาส 2/2560 มีเพียง 558 ยูนิต ซึ่งเป็นจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับโซนอื่น ๆ และมีการขายไปแล้วถึงร้อยละ 80
ส่วนโครงการคอนโดมิเนียมในพื้นที่ทำเลรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่ยอดขายน้อยกว่าที่ผู้ประกอบการคาดไว้ เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารต่ำกว่าเป้าหมาย และยังได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวนั้น นายภูมิภักดิ์ กล่าวว่า ผู้ประกอบการต้องดัมพ์แคมเปญโปรโมชั่นและเพิ่มส่วนลด บางแห่งลดราคาห้องชุดถึง 200,000 บาท เพื่อระบายยอดขายให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้กระทบต่อต้นทุนและกำไรของบริษัท .-สำนักข่าวไทย