เพชรบูรณ์ 1 ส.ค.-ตำรวจนำตัวฆาตกรโหดฆ่าสองยายหลานชาวเพชรบูรณ์ ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางเสียงตะโกนสาปแช่งของญาติพี่น้องผู้เสียชีวิต
พ.ต.อ.ฐเดช กล่อมเกลี้ยง รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ นำกำลังตำรวจ ภ.จว.เพชรบูรณ์ และ ตชด. กว่า 100 นาย ควบคุมตัวนายวัชรพล สีมา หรือโฟร์ อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาฆ่านางสนม เกษร อายุ 56 ปี และเด็กชายอรรถโกวิทย์ มณฑาจันทร์ อายุ 11 ปี 2 ยายหลาน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านเกิดเหตุใน ต.หนองไขว่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ หลังวานนี้ต้องเลื่อนการทำแผน หวั่นผู้ต้องหาถูกรุมประชาทัณฑ์ เนื่องจากมีบรรดาญาติๆ เพื่อนบ้านของผู้เสียชีวิตและไทยมุงมารอดูจำนวนมาก โดยในวันนี้ก็ยังมีญาติและชาวบ้านกว่า 60 คน มารอดูการทำแผนด้วยความโกรธแค้น พร้อมตะโกนสาปแช่งผู้ต้องหา โดยตำรวจให้นายวัชรพล จุดธูปขอขมาศพผู้ตาย ซึ่งทันทีที่นายวัชรพล ก้มกราบศพผู้ตาย ก็เกิดเหตุญาติผู้ตายลุกฮือจะรุมประชาทัณฑ์ ตำรวจต้องกันออกและรีบนำผู้ต้องหากลับไปสอบสวนเพิ่มเติม ก่อนฝากขังที่ศาลจังหวัดหล่มสัก และคัดค้านการประกันตัว
นายพีรพล เกสร อายุ 32 ปี บุตรชายผู้ตาย กล่าวว่า “อย่าคิดว่าลุงมึงใหญ่ ไอ้นี่มันมีหมายจับยาเสพติดตั้งแต่ปี 59 แล้ว ทำไมไม่เห็นจะมีตำรวจคนไหนไปจับมัน ถ้าไม่มีญาติอยู่ส่วนกลางเรื่องนี้ก็เงียบ”
ส่วนน้องสาวสามีผู้ตายได้ตัดพ้อว่า “ทำไมมันเป็นลูกหลานคนใหญ่คนโตหรือไง แล้วเราล่ะ เราเป็นคนน้อยถึงไม่มีสิทธิ์มีเสียง น้ามันใหญ่แค่ไหน แล้วบ้านเมืองจะอยู่อย่างไรถ้ามัวแต่ไปช่วยเหลือปกป้องมันอยู่ ถึงมันจะเป็นลูกหลานคนใหญ่คนโตก็ช่าง มันทำกับพี่น้องเราอย่างโหดร้าย ถ้ายังปล่อยมันอีก ถ้าไม่ประหารมันเราจะร้องถึงนายกรัฐมนตรี เรากลัวพี่น้องเราจะตายฟรี ”
เหตุการณ์ฆ่าโหดนี้เกิดขึ้นเมื่อ 25 ก.ค.2561 นางสนม เกษร อายุ 56 ปี เจ้าของบ้านและเด็กชายอรรถโกวิทย์ ถูกคนร้ายคือนายวัชรพล สีมา หรือโฟร์ อายุ 20 ปี ใช้มีดฟันและแทงตามร่างกายหลายจุดจนเสียชีวิต ซึ่งในบ้านหลังดังกล่าวมีผู้อาศัยอยู่ 3 คน คือ นางสนมผู้เสียชีวิต และหลานอีก 2 คน คนโตคือ ด.ช.เอ ผู้เสียชีวิต และ หลานสาวอายุ 4 ขวบ ซึ่งขณะเกิดเหตุนอนหลับอยู่ในห้อง เจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายงัดช่องกระจกข้างประตู เข้ามาขโมยทรัพย์สิน นางสนม ผู้ตาย ตื่นมาเห็นพอดี จึงเกิดการต่อสู้กัน คนร้ายจึงได้ใช้มีดฟันและแทง ส่วน ด.ช.เอ ตื่นมาเห็นเหตุการณ์ และเข้าช่วยเหลือยายจึงถูกฟันและแทงจนเสียชีวิตทั้งคู่ จากนั้นคนร้ายวิ่งลงบ้านหลบหนีไป ส่วนหลานสาวคนเล็ก 4 ขวบหลับอยู่ในห้องจึงรอดชีวิตจากคนร้าย
โดยญาติได้ประกอบพิธีฌาปนกิศศพยายหลานเมื่อ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยศพของนางสนม เกษร ตั้งบนเมรุ ส่วนศพของ ด.ช.อรรถวิทย์ มณฑาจันทร์ ตั้งบนกองฟอนข้างเมรุ บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า.-สำนักข่าวไทย