ประจวบคีรีขันธ์ 23 ก.ค.- ทุกภาคส่วนประจวบคีรีขันธ์ร่วมแรงร่วมใจพัฒนาแหล่งน้ำแหล่งอาหาร สร้างโป่งเทียมผืนป่ากุยบุรี ตามโครงการปันน้ำใจให้ช้างป่า เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
นายพงษ์พันธ์ วิเชียรสมุทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานเปิดโครงการปันน้ำใจให้ช้างป่า เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2561 ที่จุดชมสัตว์ป่าโป่งสลัดได อุทยานแห่งชาติกุยบุรี โดยมีนายชาตรี จันทร์วีระชัย นายอำเภอกุยบุรี ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน 92 หน่วยงาน ประชาชนจิตอาสา เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 600 คน เพื่อพัฒนาแหล่งน้ำแหล่งอาหารในผืนป่ากุยบุรี รวมทั้งหว่านเมล็ดพันธุ์หญ้าลูซี่ในพื้นที่ 100 ไร่ ทำความสะอาดกระทะน้ำที่สร้างไว้ในป่าและเติมน้ำพร้อมปรับปรุงโป่งเทียมอาหารช้าง 2 จุดด้วยการเติมเกลือและแร่ธาตุเสริมในโป่ง
นายพงษ์พันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้อุทยานแห่งชาติกุยบุรีหรือซาฟารีเมืองไทยได้รับการยกย่องให้เป็นแหล่งชมสัตว์ป่าในธรรมชาติที่ดีที่สุดในทวีปเอเชีย เนื่องจากสภาพป่าอุดมสมบูรณ์ มีช้างป่า 237 ตัว กระทิง วัวแดง มากกว่า 200 ตัว และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี ทำให้แหล่งอาหารในป่าไม่เพียงพอ ส่งผลให้ช้างต้องออกมาหากินนอกพื้นที่ป่า กระทั่งวันที่ 5 กรกฎาคม 2542 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานแนวทางแก้ปัญหา ความว่า ช้างป่าควรอยู่ในป่า เพียงแต่ต้องทำให้ป่านั้นมีอาหารช้างเพียงพอ การปฏิบัติคือให้ไปสร้างอาหารในป่าเป็นแปลงเล็กๆ และกระจาย กรณีที่ช้างออกมาชายป่า ต้องให้ความปลอดภัยกับช้าง ที่ผ่านมาอุทยานแห่งชาติกุยบุรีได้น้อมนำแนวพระราชดำรัสมาดำเนินงานด้วยการบูรณาการความร่วมมือกับองค์กรเครือข่ายอนุรักษ์สัตว์ป่า หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน จัดทำแปลงหญ้าอาหารสัตว์กว่า 1,700 ไร่ สร้างกระทะน้ำตามจุดต่างๆ ในป่าจำนวนกว่า 40 แห่ง รวมทั้งทำโป่งเทียมกระจายทั่วพื้นที่เพื่อให้ช้างและสัตว์ป่าได้มีแหล่งอาหารและแหล่งน้ำดื่มกิน โดยเฉพาะช่วงหน้าแล้ง.-สำนักข่าวไทย