ทำเนียบ 26 ต.ค.-นายกฯ ชวนคนไทยทั้งประเทศร่วมกิจกรรม “เดินวิ่งปั่น ป้องกันอัมพาตครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติในหลวง เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ” เสาร์ที่ 2 พ.ย.นี้
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชวนคนไทยทั้งประเทศร่วมออกกำลังกายในโครงการ “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฏาคม 2567” ซึ่งจัดโดยคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล, ศูนย์โรคหลอดเลือดสมองศิริราช, ศิริราชมูลนิธิ และภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชนกว่า 40 หน่วยงาน
ทั้งนี้กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ที่ทรงเป็นแบบอย่างแก่ประชาชนชาวไทยในการรักษาสุขภาพและการออกกําลังกาย ตลอดจนจัดกิจกรรมสร้างความตระหนักรู้โรคหลอดเลือดสมอง ภายใต้หัวข้อ “คนไทยสมองดี” หรือ “Healthy Thais, Healthy Brains” และรณรงค์เชิญชวนคนไทยให้หันมาออกกําลังกายเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง อันจะเป็นการป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมองได้ในอีกทางหนึ่ง
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงความสำคัญในการมีสุขภาพที่ดีของประชาชน ผ่านวิดีโอประชาสัมพันธ์โครงการว่า “สุขภาพคือสิ่งที่สำคัญที่สุดของทุกคน ไม่ว่าจะยากดีมีจนอย่างไรหรือเพศใดก็ตาม ถ้าสุขภาพดีก็คือพื้นฐานของความแข็งแรง (เปรียบได้กับ) ถ้ามีบ้านที่แข็งแรง บ้านสะอาด บ้านเรียบร้อย ผู้อาศัยก็จะอยู่สบาย” นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อในประเด็นการดำเนินนโยบายของรัฐบาลด้านสุขภาพและการท่องเที่ยวว่า “รัฐบาลนี้เน้นเรื่องการดูแลสุขภาพไม่ว่าจะเป็นนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข 30 บาท รักษาทุกที่ ที่ในปลายปีนี้จะสามารถดูแลประชาชนได้ทั่วทุกพื้นที่ ในส่วนของกรุงเทพมหานครได้มีการสร้างสวนสาธารณะเพิ่มมากขึ้นเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนได้เดิน (ออกกำลังกาย) นอกจากนี้รัฐบาลได้ส่งเสริมการกีฬาและการท่องเที่ยวผ่านนโยบาย Thailand Grand Tourism & Sport Year ในปี 2568 ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าเที่ยวมากยิ่งขึ้น เป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น”
สำหรับประชาชนที่มีความประสงค์จะร่วมออกกำลังกายในวันดังกล่าว สามารถสวมเสื้อสีเหลืองแบบใดก็ได้เข้าร่วมกิจกรรม ณ สถานที่จัดกิจกรรมซึ่งถูกจัดไว้ในแต่ละจังหวัด สำหรับกิจกรรมส่วนกลางจัด ณ สนามลู่ปั่นจักรยานเจริญสุขมงคลจิต หรือติดตามรายละเอียดการจัดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊กแฟนเพจ WRB Fighting Stroke .-314.-สำนักข่าวไทย