ชวนประชาชนร่วมเฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ และร่วมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ

กทม. 27 ก.ค.-รัฐบาลเชิญชวนประชาชนร่วมเฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ และร่วมกิจกรรมเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมดูแลอำนวยความสะดวกประชาชนที่มาร่วมงาน

วันนี้ (27 กรกฎาคม 2567) เวลา 12.00 น. น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม, พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมแถลงการเตรียมความพร้อมด้านการประชาสัมพันธ์และการอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชน ในงานพิธีถวายเครื่องราชสักการะ และพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ณ บริเวณท้องสนามหลวง


รัฐบาลภายใต้ความร่วมมือจากหน่วยงานต่าง ๆ จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมีการจัดกิจกรรมตลอดเดือนกรกฎาคม 2567 ประกอบด้วย การจัดทําน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมีพิธีพลีกรรมตักนํ้าจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์จากทุกจังหวัดมาประกอบพิธีเสกน้ำ เวียนเทียนสมโภชในแต่ละจังหวัด ก่อนเชิญน้ำพระพุทธมนต์ดังกล่าวมาเก็บรักษาที่กระทรวงมหาดไทย และมีขบวนเชิญน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ จากบริเวณถนนอัษฎางค์ กระทรวงมหาดไทย ไปยังวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร เพื่อทำพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา และในวันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม 2567 เวลา 06.00 น. จะมีขบวนเชิญน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์จากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร ไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง

สำหรับวันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม 2567 ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะมีพระราชพิธีและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ ดังนี้
-เวลา 06.35 น. พิธีขบวนอิสริยยศ เชิญน้ำพระพุทธมนต์จากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร ไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง
-เวลา 07.00 น. พิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตร ถวายเป็นพระราชกุศล ณ บริเวณท้องสนามหลวง
-เวลา 07.45 น. พิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน ณ บริเวณท้องสนามหลวง
-เวลา 10.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกมหาสมาคม ทรงรับการถวายพระพรชัยมงคล ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง
-เวลา 12.00 น. 3 เหล่าทัพ ยิงสลุตหลวง หน่วยละ 21 นัด
-เวลา 17.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทรงตั้งสมณศักดิ์จีน ญวน และพระสงฆ์
-เวลา 17.30 น. พิธีถวายเครื่องราชสักการะและวางพานพุ่ม ณ บริเวณท้องสนามหลวง
-เวลา 19.19 น. พิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ณ บริเวณท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร
ในส่วนภูมิภาค จังหวัดต่างๆ จะมีการจัดกิจกรรมในลักษณะเดียวกันนี้ทั่วประเทศด้วย


นอกจากนี้ ประชาชนสามารถร่วมชมการแสดงสาธิตการเห่เรือเฉลิมพระเกียรติ แบบผูกทุ่น ซึ่งกองทัพเรือได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้เชิญเรือพระที่นั่ง จำนวน 3 ลำ ประกอบด้วย เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 และเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช ผูกทุ่นประกอบการแสดงกาพย์เห่เรือเฉลิมพระเกียรติ ณ ท่าราชวรดิฐ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 28 และ 29 กรกฎาคม 2567 วันละ 2 รอบ รอบละ 25 นาที โดยวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 จัดแสดงในเวลา 15.00 น. และ 20.30 น. ส่วนวันที่ 29 กรกฎาคม 2567 จัดแสดงในเวลา 17.00 น. และ 20.00 น.

สำหรับการเดินทางร่วมพิธีต่างๆ นั้น ได้มีการจัดการโดยสารสาธารณะให้บริการฟรี เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ในการเดินทางไปร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จฯ พิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล พิธีเห่เรือพระราชพิธี และนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จากจุดต่างๆ เพื่อมายังบริเวณการจัดงาน ณ ท้องสนามหลวง ทั้งทางบก ทางราง และทางน้ำ ดังนี้

-องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จัดรถโดยสารเฉพาะกิจให้บริการฟรี (จอดรับ-ส่งทุกป้าย) ในวันที่ 28-29 กรกฎาคม 2567 ให้บริการตั้งแต่เวลา 14.00 – 21.00 น. หรือจนกว่าจะส่งประชาชนออกจากพื้นที่หมด จำนวน 5 เส้นทาง ได้แก่
1.อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (ฝั่งเกาะพญาไท) – สนามหลวง : จอดรับ – ส่ง บริเวณหน้าศาลฎีกา
2.สายใต้ใหม่ – สนามหลวง : จอดรับ – ส่ง บริเวณหน้าศาลฎีกา
3.หมอชิต 2 – สนามหลวง : จอดรับ – ส่ง บริเวณหน้าศาลฎีกา
4.วงเวียนใหญ่ – สนามหลวง : จอดรับ – ส่ง บริเวณตรงข้ามศาลฎีกา
5.เดินรถเป็นวงกลม เส้นทางสนามหลวง – ท่าช้าง – ท่าเตียน


-การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดรถไฟขบวนรถพิเศษโดยสาร 3 เส้นทาง ให้บริการฟรี ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567ได้แก่
เส้นทางที่ 1 : สถานีอยุธยา – สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) โดยออกจากสถานีอยุธยา เวลา 13.35 น. และออกจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เวลา 22.20 น
เส้นทางที่ 2 : สถานีฉะเชิงเทรา – สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) โดยออกจากสถานีฉะเชิงเทรา เวลา 13.30 น. และออกจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เวลา 22.25 น.
เส้นทางที่ 3 : สถานีนครปฐม – สถานีธนบุรี โดยออกจากสถานีนครปฐม เวลา 14.00 น. และออกจากสถานีธนบุรี เวลา 22.00 น.

-กรมเจ้าท่า จัดบริการเรือข้ามฟากและเรือด่วนอำนวยความสะดวกประชาชน ในวันที่ 28-29 กรกฎาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 15:00 น จนกว่าจะแล้วเสร็จ
บริการเรือข้ามฟาก : ไป-กลับ ระหว่างท่าเรือวัดระฆังฯ (ฝั่งธน) – ท่าเรือท่าช้าง
บริการเรือโดยสาร : กรมเจ้าท่า ร่วมกับบริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด บริการเรือฟรีรับส่งประชาชน ไป-กลับท่าเรือสาทร – ท่าเรือกรมเจ้าท่า – ท่าเรือราชินี – ท่าเรือท่าเตียน

ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้การดูแลพี่น้องประชาชนที่เดินทางมาร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จฯ พิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล พิธีเห่เรือพระราชพิธี และนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยในการดูแลอำนวยความสะดวกพี่น้องประชาชนที่เดินทางจากจังหวัดต่างๆ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มอบหมายตำรวจภูธรจังหวัดต่างๆ รับผิดชอบในการประสานงานและจัดรถนำเพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ในส่วนของพื้นที่จุดจอดรถพักคอยรอบนอกกรุงเทพมหานคร ได้จัดเตรียมไว้จำนวน 3 จุด ได้แก่ วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี , ลานจอดรถพุทธมณฑลสาย 4 และลานจอดรถ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) พระราม 9 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดเตรียมรถนำจากกองบังคับการปราบปราม กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจท่องเที่ยว และกองบังคับการตำรวจจราจร ร่วมภารกิจนำรถขบวนพี่น้องประชาชนที่แสดงความประสงค์มาร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จฯ จากต่างจังหวัด และนำส่งยังภูมิลำเนาหลังเสร็จสิ้นภารกิจ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด ในส่วนของพื้นที่เส้นทางในกรุงเทพมหานครบริเวณโดยรอบพิธีต่างๆ นั้น กองบัญชาการตำรวจนครบาลจัดเตรียมกำลังพลทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตำรวจจราจร เพื่อดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการจราจรอย่างเต็มที่ พร้อมจัดเตรียมช่างซ่อมแซมรถ รถเคลื่อนย้ายยานพาหนะ เพื่อแก้ไขปัญหากรณีเกิดอุบัติเหตุ รถเสีย รวมทั้งจัดสายตรวจจราจรเพื่อให้เข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนกรณีเร่งด่วน เพื่อให้สามารถให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชนได้ในทันท่วงที

โอกาสนี้ ขอเชิญชวนประชาชนชาวไทยทุกท่านสวมใส่เสื้อสีเหลืองตราสัญลักษณ์ ร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ร่วมประดับธงตราสัญลักษณ์ตามอาคารบ้านเรือน เจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล และร่วมจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล พร้อมกันทั่วประเทศในเวลา 19.19 น. ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยที่กรุงเทพมหานคร จัดที่ท้องสนามหลวง และต่างจังหวัดจัดในสถานที่ที่ทางจังหวัดกำหนด.-412.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 163 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 20 ส.ค. – หนีไม่รอด รวบโจรสวมชุดไรเดอร์ บุกเดี่ยวชิงทองกลางห้างดัง จ.สมุทรปราการ กวาดทอง 163 บาท พบของกลางบางส่วนซุกตู้ลำโพงในบ้าน จากกรณีคนร้ายแต่งตัวคล้ายไรเดอร์ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทอง พร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน ก่อนกระโดดข้ามตู้หน้าร้าน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวม 163 บาท เป็นทองคำรูปพรรณประเภทสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท ประมาณ 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท, น้ำหนัก 3 บาท ประมาณ 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท ประมาณ 24 เส้น น้ำหนักรวม 48 บาท (รวมสร้อยข้อมือ 79 เส้น) ก่อนวิ่งขึ้นรถ จยย.ที่จอดอยู่ด้านหน้า […]

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“ทศพล” รุดมอบมาลัย “ภูมิธรรม” หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่

กองบินตำรวจ 20 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เตรียมแถลงจับยาเสพติดลอตใหญ่ “ทศพล” รุดมอบมาลัย หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 8.00 น. ที่กองบินตำรวจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เดินทางมาขึ้นเครื่อง เพื่อไปแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดล็อตใหญ่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พลตํารวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการ รมว.มหาดไทย ร่วมเดินทางด้วย ทั้งนี้เมื่อนายภูมิธรรมเดินทางมาถึง นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ที่ ครม. มีมติเมื่อ 19 ส.ค. แต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำพวงมาลัยมามอบให้นายภูมิธรรมและปลัดกระทรวงมหาดไทย และร่วมเดินทางกับคณะด้วย โดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม อย่างไรก็ตามก่อนเดินทางเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้รายงานสถานการณ์ยาเสพติดให้นายภูมิธรรมรับทราบ.-319.-สำนักข่าวไทย

มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง

กทม.19ส.ค.-มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำพู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” นั่งพ่อเมืองปากน้ำ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง อาทิ นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้ว่าฯ สมุทรปราการ นายจุมพฎ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าฯ บึงกาฬ เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าฯ ตาก เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เป็นผู้ว่าฯ ชลบุรี นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

EOD เก็บกู้ทำลายระเบิด M33 กลางบ้าน

ตรัง 20 ส.ค.- คนร้ายลอบขว้างระเบิด M33 ใส่บ้านในพื้นที่ ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ระเบิดทำงาน 1 ลูก อีก 1 ลูกไม่ทำงาน เจ้าหน้าที่ EOD เข้าเก็บกู้ทำลายเสียงดังสนั่น เร่งสืบสวนหาตัวคนร้าย-สอบปมเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด EOD จังหวัดตรัง ได้ทำการเก็บกู้และทำลายระเบิด M33 ที่ยังไม่ทำงาน ระหว่างทำลายเกิดเสียงดังสนั่นสะเทือนไปทั่วบริเวณ ยางรถยนต์ที่ใช้เป็นอุปกรณ์ป้องกันแรงระเบิดปลิวลอยขึ้นฟ้า ควันฟุ้งกระจายไปทั่ว สร้างความแตกตื่นให้กับชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง  โดยเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นในพื้นที่บ้านยูงงาม ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบขว้างระเบิดเข้าใส่บ้านหลังหนึ่ง ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ เจ้าของบ้านเล่าว่าช่วงเกิดเหตุคนในบ้านกำลังนอนหลับ ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิด 1 ครั้ง แต่ไม่กล้าออกมาดู กระทั่งเช้าพบหลุมระเบิดขนาดกว้างราว 2 ฟุต ลึก 1 ฟุต อยู่ข้างบ้าน จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ จากการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ทราบว่าบ้านหลังนี้เคยถูกลอบยิงมาแล้วหลายครั้ง จนเจ้าของบ้านต้องสร้างกำแพงสูงเพื่อป้องกัน แต่ล่าสุดกลับถูกลอบขว้างระเบิดแบบลูกเกลี้ยง […]

ทำแผนโจรชิงทอง 123 บาท สารภาพเป็นหนี้นอกระบบ

สมุทรปราการ 20 ส.ค.- โจรชิงทองกลางห้างดังสมุทรปราการ 123 บาท ทำแผนรับสารภาพกู้เงินมาลงทุนร้านซ่อมรถ เสียดอกรายวันแต่หมุนเงินไม่ทัน จึงก่อเหตุ  กรณีนายวีรวัฒน์ อายุ 31 ปี บุกเดี่ยวควงปืนก่อเหตุชิงทองรูปพรรณน้ำหนัก 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท ที่ร้านทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ  ก่อนจะอาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีเส้นทางที่ไร้กล้องวงจรปิด โดยเหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา ต่อมา ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พบว่าผู้ต้องหานำรถจักรยานยนต์ที่ใช้หลบหนีไปทิ้งบ่อปลาแห่งหนึ่งในซอยวัดคอลาด แล้วหลบหนีต่อไป จึงไล่เรียงเบาะแสจนพบหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านพัก เมื่อวาน (19 ส.ค.) จึงนำหมายค้นบ้านนายวีรวัฒน์ พร้อมแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมกับของกลางทองรูปพรรณซุกซ่อนไว้ในตู้ลำโพงหน้าบ้าน และใส่ในถุงพลาสติกฝังดินใต้ต้นไม้ข้างบ้าน รวมตรวจยึดทองคืนได้ประมาณ 90 บาท ยังเหลือทองคำอีก 33 บาท อยู่ระหว่างสอบขยายผล  ผู้ต้องหาสารภาพว่า ก่อเหตุเพราะเป็นหนี้นอกระบบจากการกู้ยืมมาลงทุนร้านซ่อมรถและต้องเสียดอกเบี้ยเดือนละไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท จึงหมุนเงินไม่ทัน จากนั้นคิดวางแผนในการก่อเหตุ ประมาณ 1 […]

บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงงบฯ 2.6 หมื่นล้าน กลับงบกลางฉุกเฉิน

ทำเนียบฯ 20 ส.ค.-บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงงบค้างท่อ 2.6 หมื่นล้าน กลับงบกลางฉุกเฉิน เน้นเศรษฐกิจชายแดน รองรับผลกระทบภาษี “ทรัมป์” และเหตุจำเป็น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ (บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ) หลังจากรัฐบาลจัดสรรงบกระตุ้นเศรษฐกิจรอบแรก 1.15 แสนล้านบาท รอบสอง 1.8 หมื่นล้านบาท เพื่อจัดสรรเงินให้กับกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย 10,000 ล้านบาท และกองทุนเงินให้กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา (กยศ.) 8,488 ล้านบาท นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การจัดสรรให้กับหน่วยงานต่างๆ ในรอบแรกพบว่า มีหน่วยงานจัดซื้อจัดจ้างไม่ทัน จึงดึงงบกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหลือค้างท่อ 2.6 หมื่นล้านบาท กลับเข้ามาอยู่ในงบกลางสำรองฉุกเฉิน เพื่อนำมาพิจารณาใช้ในเรื่องจำเป็น เช่น การฟื้นเศรษฐกิจแดนไทย-กัมพูชา การใช้งบรองรับผลกระทบจากภาษีนำเข้าสหรัฐร้อยละ 19 ในบางรายการ หากส่วนราชการใดต้องการใช้งบดังกล่าว ต้องจัดซื้อจัดจ้างให้แล้วเสร็จภายใน 30 ก.ย.นี้ โดยสำนักงบประมาณจะพิจารณาในการจัดสรรงบให้ สำหรับผลกระทบจากภาษีศุลกากรสหรัฐ ยอมรับว่า รายย่อยที่ได้รับผลกระทบ […]