คลังจัดทำงบประมาณแบบสมดุล 11 ปีข้างหน้า

รร.อินเตอร์คอนฯ 19 ก.ค. – ขุนคลังยอมรับเดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ดันหนี้สาธารณะเพิ่มเป็นร้อยละ 48 ของจีดีพี จัดทำงบประมาณแบบสมดุล  11 ปีข้างหน้า ภายใต้เงื่อนไขจีดีพีโตร้อยละ 5 ช่วยหนุนลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม


นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงานสัมมนา “ทิศทางหุ้น ครึ่งปีหลัง” จัดโดยหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ว่า การจัดทำงบประมาณแบบขาดดุลต้องการผลักดันการเบิกจ่ายเงินลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทั้งรถไฟฟ้า ท่าเรือ มอเตอร์เวย์ สนามบิน  ยอมรับว่าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาทในช่วง 4 ปีข้างหน้า จะผลักดันให้หนี้สาธารณะต่อจีดีพีจากร้อยละ 40.4 ขยับเพิ่มสูงสุดเป็นร้อยละ 48 แต่ยังต่ำกว่าเป้าหมายความมั่นคงทางการคลังที่ร้อยละ 60  เศรษฐกิจของไทยเติบโตต่อเนื่อง นับว่าจีดีพีของไทยมีศักยภาพขยายตัวได้ถึงร้อยละ 4-5 ขณะที่หน่วยงานเศรษฐกิจ ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย   (ธปท.)  สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และหน่วยงานอื่นคาดการณ์ว่าจีดีพีไทยขยายตัวร้อยละ 4.4-4.5 ในปีนี้  

ส่วนการจัดทำงบประมาณแบบสมดุลในช่วง 11 ปีข้างหน้า การลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมเพื่อหลุดพ้นจากความยากจน และทำให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน หากเศรษฐกิจขยายตัวเพียงร้อยละ 4 ต้องใช้เวลาถึง 18 ปี จึงต้องผลักดันจีดีพีให้เติบโตร้อยละ 5 ใช้เวลา 11 ปี จึงต้องปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีด้วยการขยายฐานภาษีให้ครอบคลุมทุกกลุ่มที่หลีกเลี่ยงหรือเสียภาษีอย่างถูกต้อง โดยกรมสรรพากรจะเน้นการแนะนำการเสียภาษีอย่างถูกต้อง ไม่เน้นการตรวจสอบติดตามย้อนหลัง  ดังนั้น นโยบายการคลังจึงมีความจำเป็นในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ขณะที่นโยบายการเงินของ ธปท.ยังคงต้องตรึงอัตราดอกเบี้ยเพื่อส่งเสริมให้การเกิดการลงทุน เพราะหากขยับเพิ่มดอกเบี้ยจะส่งผลต่อเงินบาทแข็งค่านานเกินไปอาจกระทบการส่งออกและเป้าหมายการสร้างรายได้ให้กับภาคเกษตร เพื่อหลุดพ้นความยากจน 


นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า จากนี้รัฐบาลจะมุ่งส่งเสริมให้ภาคเอกชนลงทุนตามภาครัฐ  หลังจากช่วงที่ผ่านมาบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีกำไรเฉลี่ยร้อยละ 10-20 ขณะที่จีดีพีเติบโตเพียงร้อยละ 1-2 เพราะบริษัทขนาดใหญ่ได้ออกไปลงทุนในต่างประเทศในช่วงไทยมีปัญหาทางการเมือง ด้วยการซื้อสินทรัพย์ช่วงเศรษฐกิจโลกมีปัญหา ทำให้ขณะนี้เอกชนรายใหญ่เติบโตขึ้นได้ ในขณะนี้จึงเหมาะกับการลงทุนเพิ่มในประเทศ  เมื่อรัฐบาลมุ่งการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เพื่อหวังให้เป็นแม่เหล็กดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ มุ่งหวังให้ท่าเรือแหลมฉบังเป็นศูนย์กลางท่าเรือน้ำลึกของภูมิภาค  การพัฒนารถไฟฟ้าเชื่อมสนามบิน

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ภาคเอกชนมีศักยภาพมากขึ้น เห็นได้จากบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ของไทยติด 50 อันดับสูงสุดของโลก ได้แก่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย โรงพยาบาลกรุงเทพ  โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เซ็นทรัล ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ขณะที่รายได้ของบริษทจะทะเบียนที่ออกไปลงทุนต่างประเทศมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศถึงร้อยละ 46 ของรายได้รวม นับว่าเงินลงทุนต่างประเทศสูงมาก เช่น กลุ่มอาเซียน เอเชียเหนือ สหรัฐ เมื่อไทยต้องการชูจุดขายเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค จึงต้องมุ่งพัฒนาด้านการลงทุน เพราะขณะนี้แหล่งทุนสำคัญของไทย 3 แหล่ง ประกอบด้วย ธนาคารพาณิชย์มียอดหนี้รวม 12-15 ล้านล้านบาท ตลาดตราสารหนี้ 9 ล้านล้านบาท ตลาดหลักทรัพย์ฯ 7 ล้านล้านบาท จึงเป็นแหล่งทุนหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ  ยอมรับว่าตลาดหุ้นไทยยังมีความผันผวนค่อนข้างมาก แต่นักลงทุนยังคงเลือกลงทุนในหุ้นที่มีความมั่นคงในการหวังผลตอบแทนที่มั่นคง

นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีและวิศวกรรม บมจ.ปตท  คาดว่ารายได้ของปตท.ในปี 61-63 จะมีอัตราการเติบโตปีละร้อยละ 2-3 ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น โดยในปี 61 คาดว่าราคาน้ำมันปรับขึ้นมาที่กว่า 60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากปีก่อนราคาน้ำมันดิบดูไบ อยู่ที่ราว 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่แปรผันไปตามราคาตลาดโลก ก็มีผลทำให้แนวโน้มการเติบโตของกำไรจะเติบโตต่ำกว่ารายได้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ