สภาธุรกิจตลาดทุนไทยมีมติไม่เลื่อนบังคับใช้มาตรฐาน IFRS9

กรุงเทพ 16 ก.ค. –  สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) มีมติในการประชุมคณะกรรมการ เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2561 ว่า ไม่ควรเลื่อนการบังคับใช้มาตรฐานรายงานทางการเงิน IFRS9 ออกไปอีก เนื่องจากอาจกระทบต่อความเชื่อมั่นและความสามารถการแข่งขัน รวมทั้งอาจกระทบถึงผลการประเมินภาพรวมการกำกับสถาบันการเงินของประเทศไทย ขณะที่ภาคธุรกิจได้มีการเตรียมการและทำความเข้าใจในการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานการรายงานทางการเงินดังกล่าวมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว โดย FETCO มีข้อเสนอแนะว่าควรมีการกำหนดแนวปฏิบัติของแต่ละอุตสาหกรรมร่วมกัน เพื่อให้สามารถดำเนินการในทางปฏิบัติได้อย่างราบรื่น


ตามที่คณะกรรมการกำหนดมาตรฐานการบัญชีระหว่างประเทศ (International Accounting Standard Board IASB) มีการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานการบัญชีสำหรับเครื่องมือทางการเงิน ซึ่งอยู่ภายใต้มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 9 (IFRS9) ที่นำมาใช้ทดแทนมาตรฐานการบัญชี IAS39 โดยมีการปรับปรุงหลักการและวิธีการบัญชีสำหรับเครื่องมือทางการเงิน ทำให้สะท้อนความเสี่ยงของกิจการมากขึ้น โดยประเทศไทยจะเริ่มบังคับใช้วันที่ 1 มกราคม 2562 นั้น

สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ประกอบด้วย องค์กรตลาดทุนไทย 7 องค์กร ได้แก่ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย สมาคมบริษัทจัดการลงทุน สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของผู้จัดทำและผู้ใช้รายงานทางการเงินของบริษัทที่เกี่ยวเนื่องกับตลาดทุน พร้อมที่จะให้การสนับสนุนผู้ที่เกี่ยวข้องให้สามารถดำเนินการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานการบัญชีดังกล่าวตามกำหนดระยะเวลาบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2562  เพื่อให้รายงานทางการเงินของธุรกิจมีการรับรู้และวัดมูลค่าของเครื่องมือทางการเงินสะท้อนความเสี่ยงของกิจการตามความเป็นจริง มีความถูกต้องและโปร่งใสเชิงเศรษฐกิจ และงบการเงินของกิจการในประเทศไทยสามารถเปรียบเทียบกันได้กับในระดับนานาชาติ อันจะช่วยทำให้ผู้ใช้งบการเงินและนักลงทุนสามารถนำไปใช้ตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ


FETCO มีความเห็นว่าหากมีการเลื่อนการบังคับใช้การปฏิบัติตามมาตรฐานรายงานทางการเงิน IFRS9 ตามที่กำหนดไว้ล่วงหน้าแล้วอาจจะกระทบต่อความเชื่อมั่นและความสามารถในการแข่งขัน รวมทั้งอาจกระทบถึงผลการประเมินภาพรวมการกำกับสถาบันการเงินของประเทศไทย โดยปัจจุบันภาคธุรกิจได้มีการเตรียมการและทำความเข้าใจในการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานการรายงานทางการเงินดังกล่าวมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว และหากมีการเตรียมพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงและสามารถดำเนินการถือปฏิบัติผ่านปีแรกได้ ในปีต่อไปปัญหาในทางปฏิบัติน่าจะลดลงไปมาก

อย่างไรก็ตาม FETCO เห็นว่ายังมีความไม่ชัดเจนแนวปฏิบัติหลายประเด็นที่ต้องพิจารณาดำเนินการร่วมกัน เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน อาทิ กรณีที่ไม่มีมาตรฐานกำหนดเป็นการเฉพาะในแต่ละเรื่อง การคำนวณการกันสำรองด้อยค่าในสินทรัพย์ทางการเงินและการกำหนดมาตรฐานในการวัดมูลค่ายุติธรรม การใช้ดุลพินิจในการจัดประเภทรายการต่าง ๆ ในงบการเงิน เป็นต้น

ทั้งนี้ FETCO มีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถดำเนินการในทางปฏิบัติได้อย่างราบรื่น คือ 1.พิจารณากำหนดแนวปฏิบัติ (Guideline) แต่ละอุตสาหกรรมให้มีมาตรฐานที่เกี่ยวข้องร่วมกันเพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องมีแนวปฏิบัติในการบันทึกบัญชีเหมือนกัน โดยอาจให้สมาคมที่เกี่ยวข้องเป็นตัวกลาง 2.พิจารณากำหนดวิธีปฏิบัติให้ง่ายขึ้นสำหรับการนำมาปฏิบัติใช้ในช่วงแรก เช่น ลดการเปิดเผยข้อมูลบางอย่างในหมายเหตุประกอบงบการเงิน เป็นต้น 3.เร่งทำความเข้าใจร่วมกับผู้สอบบัญชีและหน่วยงานกำกับดูแลเพื่อให้เห็นพ้องกันถึงวิธีการบันทึกบัญชี รูปแบบงบการเงิน และระบบที่เกี่ยวข้อง 


ทั้งนี้ FETCO และสมาชิกพร้อมที่จะให้การสนับสนุนและร่วมทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มาตรฐานการรายงานการเงินของธุรกิจในประเทศไทยอยู่ระดับเดียวกันกับมาตรฐานสากล มีความถูกต้องและโปร่งใสในเชิงเศรษฐกิจ พร้อมทั้งผู้ใช้งบการเงินและนักลงทุนสามารถนำไปใช้ตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

ชายแดนไทย-เมียนมา ยังระอุ ปะทะเดือดใกล้จุดแตกหัก

ทหารกะเหรี่ยงใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีฐานทหารเมียนมา ตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 800 เมตร โรงเรียนในฝั่งไทย ซึ่งอยู่ติดแนวปะทะ หยุดการเรียนการสอน 1 วัน ขณะที่มีชาวเมียนมาหนีภัยสู้รบเข้าไทยกว่า 400 คน

ทร.จับเรือประมงเมียนมารุกล้ำน่านน้ำไทย

ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือระนอง จับกุมเรือประมงสัญชาติเมียนมา พร้อมลูกเรือและกัปตันเรือ 6 คน ขณะรุกล้ำน่านน้ำไทย บริเวณน่านน้ำเกาะช้าง จ.ระนอง ก่อนควบคุมเรือลำดังกล่าวมาตรวจสอบที่ท่าเรือน้ำลึกระนอง

แจ้งความเอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ผอ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ลุยเอง ยื่นหลักฐานให้ตำรวจ ปปป. เอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก ระบุทำกันมานานเกือบ 10 ปี พบทั้งข้าราชการ-อดีตข้าราชการ เอี่ยวประมาณ 20 คน

รู้เบาะแสคนร้ายชิงทอง 102 บาท คาดเป็นคนในพื้นที่

ตำรวจรู้เบาะแสคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง 102 บาท ภายในห้างดังกลางเมืองแม่สอด คาดยังหลบอยู่ในพื้นที่ สั่งคุมเข้มแนวชายแดน ป้องกันคนร้ายหลบหนี พร้อมยกระดับมาตรการดูแลร้านทอง-ห้างสรรพสินค้า ป้องกันเหตุซ้ำรอย