แม่น้องไตตั้นเล่านาทีหมูป่าหนีน้ำ โค้ชเอกให้ทุกคนขุดดินกั้น กินน้ำฝนหยด

เชียงราย 13 ก.ค. – “แม่น้องไตตั้น” เผยนาทีลูกชายหนีน้ำในถ้ำ ยกย่อง “โค้ชเอก” ช่วยดูแลเด็กทั้ง 12 ชีวิต ขณะที่ “พ่อน้องไตตั้น” ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยเหลือทั้ง 13 ชีวิต เตรียมนัดแนะผู้ปกครองทั้งหมดรวมตัวกันให้สัมภาษณ์สื่อถึงรายละเอียดต่างๆ ในอนาคต



ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.ไอคาน วิบูลย์รุ่งเรือง อายุ 33 ปี แม่ของเด็กชายชนินทร์ วิบูลย์รุ่งเรือง หรือ “น้องไตตั้น” อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.6 ที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง แม่น้องไตตั้น บอกว่าได้มีโอกาสพบและพูดคุยกับน้องไตตั้นผ่านกระจกที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โดยมีพยาบาลคอยแนะนำข้อปฏิบัติต่างๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ จากการสังเกตเบื้องต้นพบว่า “น้องไตตั้น” มีสีหน้าแจ่มใส พร้อมเล่าสั้นๆ ว่า ขณะที่ทั้งหมดเข้าไปในถ้ำเกิดฝนตก น้ำไหลแรงและเร็ว โค้ชเอกจึงบอกให้ทุกคนช่วยกันขุดดินและปั้นดินเป็นกำแพงเพื่อกั้นน้ำ แต่เมื่อน้ำทะลักแรงจึงหนีเข้าไปในส่วนลึกของถ้ำใน 3 คืนแรก “น้องไตตั้น” เล่าว่าต้องกินน้ำฝนที่หยดมาตามซอกหิน ขณะที่โค้ชเอกกอดน้องไตตั้นไว้ เพื่อป้องกันความหนาว และให้ทุกคนนั่งสมาธิเพื่อไม่ให้เสียพลังงาน ทั้งนี้ หากทั้งหมดออกจากโรงพยาบาล เตรียมนัดผู้ปกครองของทุกคนว่าจะพาลูกบวชเณรเพื่ออุทิศเป็นส่วนกุศลอย่างน้อย 9 วัน 


ด้านนายธนาวุฒิ วิบูลย์รุ่งเรือง พ่อของ “น้องไตตั้น” เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยว่า ผู้ปกครองทุกคนล้วนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีพระเมตตากับทั้ง 13 ชีวิต และขอบคุณทุกเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ระดมกำลังช่วยกันค้นหาทั้ง 13 ชีวิต หลังจากนี้จะนัดผู้ปกครองของเด็กทุกคนให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน 1 ครั้ง เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง ส่วนอาการ “น้องไตตั้น” พบว่ามีอาการดีขึ้น


ขณะที่ นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงอาการของ 13 คนทีมหมูป่าอะคาเดมี ว่าภาพรวมทั้ง 13 คน อาการดี ลอตแรก 4 คน อาการดี ทานอาหารได้ปกติ เดินเหินเข้าห้องน้ำเองได้ และยังต้องรับฆ่าเชื้อปฏิชีวนะต่อเนื่องอีก 7 วัน เนื่องจากมีภาวะปอดอักเสบ 3 คน

ส่วนลอตที่ 2 จำนวน 4 คน อาการดีขึ้น รับประทานอาหารได้ปกติแล้ว และยังต้องรับยาฆ่าเชื้อ ส่วนผลเลือดตรวจหาเชื้อโรคอุบัติใหม่ คาดทราบผลวันนี้ ส่วนลอตสุดท้าย 5 คน มี 3 คน เกิดอาการหูอื้อ คาดว่าน่าจะเกิดจากการเป็นหวัด 

ส่วนสภาพจิตใจของทุกคนดี และมีจิตแพทย์เข้าไปพูดคุยเป็นรายบุคคล แม้แต่ตัว “โค้ชเอก” ที่หลายฝ่ายเป็นห่วง เนื่องจากเป็นผู้ใหญ่ อาจมีความรู้สึกผิดมากกว่าเด็ก ก็ไม่ต้องกังวล เพราะมีจิตแพทย์ดูแล

ส่วนหน่วยซีล ผู้ปฏิบัติงานใกล้ชิด ได้เจาะเลือดดูอาการและอยู่ในสังกัดที่รับผิดชอบแล้ว พร้อมฝากถึงสื่อมวลชนอย่ารบกวนครอบครัวของเด็กๆ ปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปตามกลไกปกติ เพื่อไม่ให้การสอบถามโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจเข้าไปกระทบจิตใจทำให้เกิดบาดแผล ขณะเดียวกันจะนำเรื่องการช่วยเหลือภายในถ้ำหลวงมาถอดบทเรียนและเชิญผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านประสบการณ์เหล่านี้มาแลกเปลี่ยนให้ความรู้. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง