ก.คมนาคม 10 ก.ค. – “สมคิด” ตรวจการบ้านคมนาคม สั่งเร่งเปิดประมูลทุกโครงการ ย้ำ 7-8 เดือน ก่อนเลือกตั้ง ต้องเห็นผลเป็นรูปธรรม
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมติดตามความคืบหน้าดำเนินงานในโครงการของกระทรวงคมนาคม ว่า ได้มาติดตามเร่งรัดให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการ โครงการต่าง ๆ ให้เดินไปตามเป้าหมายภายใน 7-8 เดือนนี้ก่อนที่รัฐบาลจะมีการเลือกตั้งปี 2562 ทั้งในเรื่องของการเปิดประกวดราคา เดินหน้าโครงการ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยจะขับเคลื่อนไปได้ดีก็มีจุดเริ่มต้นจากความเชื่อมั่นที่ภาครัฐดำเนินการในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน ดังนั้น จึงอยากให้กระทรวงคมนาคมคิดในมุมมองที่เกิดประโยชน์สูงสุด
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้กรมทางหลวง (ทล.) เร่งเปิดประมูล โครงการต่าง ๆ เช่น โครงการก่อสร้างที่เกี่ยวเนื่องกับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โครงการมอเตอร์เวย์โดยเฉพาะเส้นทางบางใหญ่-บ้านโป่ง ที่ยังล่าช้า ส่วนกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ให้นำโครงการสร้างทางส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวภาคใต้ “ไทยแลนด์ ริเวียร่า” เข้ามาอยู่ในแผนดำเนินงานงบประมาณปี 2562
ส่วนโครงการในความรับผิดชอบของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยเฉพาะโครงการรถไฟความเร็วสูงเส้นทาง กทม.-หัวหิน และโครงการรถไฟทางคู่ ให้ รฟท.ศึกษาเพิ่มเส้นทางเชื่อมไปยังสุราษฎร์ธานี ส่วนเส้นทางรถไฟเพื่อการท่องเที่ยวไปยังเมืองรองให้เพิ่มเส้นทางไปภาคเหนือและภาคตะวันออก ส่วนการโอนย้าย 4 สนามบินของกรมท่าอากาศยาน (ทย.) มายังบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.นั้น ให้เร่งดำเนินการให้เสร็จปีนี้
ส่วนบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ให้เร่งประชุมเพื่อเลือกผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดการบินไทยคนใหม่ เนื่องจากกระทรวงการคลังเสนอชื่อให้นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส อธิบดีกรมสรรพากร เป็นประธานบอร์ดการบินไทย รวมถึงผู้ผ่านการสรรหาตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี ) การบินไทยคนใหม่ ก็ให้การบินไทยเร่งดำเนินการเช่นกัน
ขณะที่นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า จะเร่งรัดหลายโครงการ ซึ่งมั่นใจว่าระหว่างเดือนสิงหาคมถึงตุลาคมจะมีหลายโครงการที่ถูกนำเข้าเสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ทั้งโครงการรถไฟทางคู่ 9 เส้นทางใหม่ที่จะนำเสนอครบทั้ง 9 เส้นทางภายในปีนี้ ส่วนโครงการทางด้านการบิน มีโครงการสำคัญของการบินไทยที่จะอนุมัติการจัดซื้อเครื่องบินใหม่ 23 ลำเข้ามาทดแทนเครื่องบินเดิมในฝูงบินที่ปัจจุบันที่การบินไทยมีอยู่ 105 ลำ วงเงินประมาณ 100,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เดือนสิงหาคมก่อนนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีเดือนกันยายนปีนี้ โดยโครงการดังกล่าวการบินไทยจะกำหนดแบบของเครื่องบินให้ตรงต่อความต้องการใช้งาน รวมถึงในอนาคตการบินไทยยังมีแผนการจะเช่าเครื่องบินเพิ่ม.-สำนักข่าวไทย