กรมควบคุมโรค เตือนเที่ยวป่าระวังภัยจากไข้มาลาเรีย

สธ.8 ธ.ค.-กรมควบคุมโรค ห่วงนักท่องเที่ยว เดินป่า ตั้งแคมป์ โดยเฉพาะป่าตามแนวชายแดน เสี่ยงไข้มาลาเรีย หลังพบผู้ป่วยไข้มาลาเรียแล้ว กว่า16,000 ราย ชี้หากมีอาการไข้สูง ปวดศีรษะ หนาวสั่น สลับร้อน เหงื่อออก ให้รีบพบแพทย์


ยุงก้นปล่อง1

นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า ในช่วงนี้นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปสัมผัสกับอากาศหนาวเย็นตามสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และบางส่วนมักนิยมกิจกรรมการเดินป่า ตั้งแคมป์ นอนกางเต็นท์ หรือส่องสัตว์ในป่า ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวมีโอกาสถูกยุงกัดและเสี่ยงต่อการป่วยไข้มาลาเรีย โดยเฉพาะผู้ที่นิยมเข้าป่าตามแนวชายแดน เนื่องจากยุงก้นปล่องที่นำเชื้อมาลาเรียจะพบมากบริเวณป่าเขาชายแดนของประเทศ


 

ข้อมูลจากสำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง กรมควบคุมโรค รายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม –25 พฤศจิกายน 2559 พบผู้ป่วยไข้มาลาเรียในประเทศไทย 16,651 ราย เป็นผู้ป่วยชาวไทย 11,600 ราย และชาวต่างชาติ 5,051 ราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยลดลงจากปี 2558 ในช่วงเวลาเดียวกันร้อยละ 18.64 กลุ่มอายุที่พบมากที่สุดคือ 15-24 ปี ร้อยละ 18.07 รองลงมาคือ 25-34 ปี ร้อยละ 13.77 และ 10-14 ปี ร้อยละ 10.75 ผู้ป่วยส่วนใหญ่พบตามแนวชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งอพยพข้ามพรมแดนและมีการประกอบอาชีพที่ต้องพักค้างคืนในป่า สวนไร่  ส่วนจังหวัดที่พบผู้ป่วยไข้มาลาเรียสูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ ยะลา ตาก สงขลา นราธิวาส อุบลราชธานี แม่ฮ่องสอน กาญจนบุรี ศรีสะเกษ เชียงราย และปัตตานี คิดเป็นร้อยละ 89.67 ของผู้ป่วยทั้งประเทศ

 


นพ.เจษฎา กล่าวต่อว่า ไข้มาลาเรียมียุงก้นปล่องเป็นพาหะนำโรค ยุงชนิดนี้มีแหล่งเพาะพันธุ์บริเวณเขาสูง ป่าทึบ สวนยางพารา แหล่งน้ำธรรมชาติ เริ่มออกหากินเวลาใกล้ค่ำจนรุ่งสาง โดยหลังจากถูกยุงก้นปล่องที่มีเชื้อมาลาเรียกัดประมาณ 10-14 วัน จะมีอาการไข้สูง ปวดศีรษะ หนาวสั่น สลับร้อน เหงื่อออก รู้สึกสบายแล้วกลับมาเป็นไข้ใหม่อีกครั้ง ให้คิดว่าอาจเป็นไข้มาลาเรีย ขอให้รีบไปพบแพทย์ในสถานพยาบาลทุกแห่งใกล้บ้าน เพื่อเจาะเลือดตรวจหาเชื้อมาลาเรีย และต้องแจ้งประวัติการเข้าป่าหรือไปบริเวณพื้นที่เสี่ยงให้แพทย์ทราบด้วย เพื่อให้การรักษารวดเร็ว เพราะหากช้าอาจมีอาการแทรกซ้อนร้ายแรงและเสียชีวิตในที่สุด

 

ทั้งนี้ ไข้มาลาเรียสามารถรักษาให้หายขาดได้ สิ่งสำคัญคือ ผู้ป่วยต้องไปพบแพทย์ทันท่วงทีและรับยารักษาอาการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาในการให้ยารักษามาลาเรียตามชนิดของเชื้อ ความรุนแรงของโรค และสภาวะสุขภาพของผู้ป่วยแต่ละราย ไม่ควรซื้อยารักษามาลาเรียกินเอง เพราะอาจจะได้ยาที่ไม่มีคุณภาพ หรือเป็นยาที่ใช้ไม่ได้ผลทำให้มีการดื้อยา

 

สำหรับวิธีการป้องกันไข้มาลาเรียคือ หลีกเลี่ยงไม่ให้ยุงก้นปล่องที่เป็นพาหะนำไข้มาลาเรียกัด โดยการสวมเสื้อแขนยาวหรือกางเกงขายาวปกคลุมแขนขามิดชิด ทายากันยุง นอนในที่ที่มีมุ้งชุบสารเคมี ซึ่งมุ้งนี้ไม่เป็นอันตรายต่อคน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”