ศธ.ขับเคลื่อนโครงการไทยนิยม ยั่งยืน

ศธ.9ก.ค.-ศธ.เดินหน้าขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน เช่นขยายผลการพัฒนาชุมชนต้นแบบในระดับอำเภอและตำบลทั่วประเทศ สร้างช่องทางขายสินค้าเพิ่มรายได้ให้ผู้มีรายได้น้อย ด้านรมช.ศธ.มอบ4ภารกิจใหม่ ‘แก้ไขปัญหาประชากรวัยเรียนที่อยู่นอกระบบ-การดูแลสุขภาวะประชาชนพื้นที่ห่างไกล-การเรียนรู้ภาษาไทย-คนไทยอ่านหนังสือน้อย’


กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) แจ้งว่า เมื่อเร็วๆนี้ ศธ.ได้จัดประชุมสรุปผลการดำเนินงานการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ในส่วนที่กระทรวงฯ ดำเนินการ โดยมี พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รับฟังสรุปผลและเป็นประธานปิดการประชุม  ณ หอประชุมคุรุสภา โดยมีผู้บริหารกระทรวง และสำนักงาน กศน.ระดับจังหวัดทั่วประเทศ เข้าร่วมประชุม


พล.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวให้นโยบายและแนวทางดำเนินการ หลังรับฟังสรุปผล ดังนี้ การขยายชุมชนต้นแบบในระดับอำเภอและตำบลทั่วประเทศ ขยายผลจากที่ประชุมในภาคต่างๆได้นำเสนอ ‘ชุมชนต้นแบบ’ซึ่งถือว่าเป็นความริเริ่มที่ดี เป็นความภูมิใจในพื้นที่ เดิมกำหนดไว้ให้เป็นภาคละ1แห่งแต่จากข้อมูลยังมีหลายหมู่บ้านที่จะเป็นชุมชนต้นแบบได้อีก ดังนั้น ในระยะเวลา 2 เดือนจากนี้ ขอให้ขยายผลการพัฒนาชุมชนต้นแบบไปในระดับอำเภอ โดยใช้กลไกประชารัฐเป็นแนวทางปฏิบัติ จากนั้นจึงจะปฏิบัติในขั้นต่อไปเพื่อขยายชุมชนต้นแบบไปสู่ระดับตำบล อย่างน้อยตำบลละ1หมู่บ้านและจะขยายต่อไปอย่างต่อเนื่อง

รมช.ศึกษาฯ กล่าวต่อว่า ให้ดำเนินการตามภารกิจสำคัญของโครงการไทยนิยม ยั่งยืน อย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้พ้นจากความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ เพิ่มรายได้กับประชาชนอย่างยั่งยืน โดยให้สำนักงาน กศน. เป็นหน่วยงานหลักในการช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย สร้างช่องทางการขายสินค้าและเพิ่มรายได้ในชีวิตประจำวัน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของตนเองและชุมชน หลังจากนี้มอบหมายให้ กศน.ทั่วประเทศ ขยายผลกลุ่มเป้าหมายที่ผ่านการอบรมหลักสูตร e-Commerce จากศูนย์ดิจิทัลชุมชนไปขยายผลจากผู้ที่ได้อบรมไปแล้วกว่า100,000 คน เพื่อทำการค้าออนไลน์ผ่านช่องทางต่าง ๆ รวมถึงช่องทางการค้าขายผ่านเว็บไซต์ e-Commerce หรือ e-Market ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนที่ได้รับการขยายผล การอบรมสามารถขายสินค้าออนไลน์ในรูปแบบต่าง ๆ ได้ตามเป้าหมายมากกว่า3 แสนคนภายในสิ้นปีนี้

รวมทั้งให้ กศน.อำเภอ/ตำบล ทั่วประเทศ เปิดพื้นที่เป็น “ศูนย์จำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ออนไลน์ กศน. (ONIE Online Commerce Center – OOCC)” ในส่วนที่สามารถดำเนินการได้ตามบริบทพื้นที่ เพื่อเป็นสถานที่สำหรับประชาชนในการวางจำหน่ายสินค้าหรือสร้างช่องทางการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ ตลอดจนให้คำปรึกษาและให้ความรู้เกี่ยวกับการผลิตและการจำหน่ายสินค้าออนไลน์  โดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย  ซึ่งจะเน้นไปที่กลุ่มผู้มีรายได้น้อยเพื่อเป็นการเพิ่มรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้นตามแนวทางโครงการ “ไทยนิยม ยั่งยืน”


สำหรับภารกิจใหม่ที่จะมอบหมายให้ดำเนินการต่อไป จำนวน 4 เรื่อง คือ1.การแก้ไขปัญหาประชากรวัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษาซึ่งทำได้ผลดีมากในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จนได้รับความชื่นชมจากผู้แทน UNESCO จึงให้ขยายผลดำเนินการต่อเนื่องในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ

2.การดูแลสุขภาวะ สุขอนามัยของประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่อยู่ห่างไกล พื้นที่ชายแดน ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขดำเนินการอยู่แล้ว กระทรวงศึกษาธิการโดยครู กศน.จะเข้าไปช่วยประสานงานร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล และเจ้าหน้าที่ อสม.ในระดับหมู่บ้าน เช่นการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพให้กับประชาชน 3.การเรียนรู้ภาษาไทย ให้เกิดความเข้าใจ ลดปัญหาที่ไม่สามารถอ่านออกเขียนได้อ่านแล้วเข้าใจให้อ่านคล่องเขียนคล่อง 4.การแก้ปัญหาคนไทยอ่านหนังสือน้อยอย่างจริงจัง

ทั้งนี้ ให้มีการประชุมติดตามการทำงาน ตามที่ได้มอบหมายให้ดำเนินการตามภารกิจดังกล่าวข้างต้น และทบทวนวางแผนแนวทางการทำงาน ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2561

ขณะเดียวกันในห้วงเดือนมหามงคล เดือนแห่งการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 66 พรรษา ขอเชิญชวนให้ช่วยกันรณรงค์การทำความดีตลอดเดือนมหามงคลพร้อมกันทั่วประเทศ โดยน้อมนำศาสตร์พระราชา  ยุทธศาสตร์พระราชทานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (ในหลวงรัชกาลที่ 9) คือ “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” และหลักการทรงงาน อาทิ “รู้ รัก สามัคคี” เป็นหลักชัยในการดำเนินงาน ซึ่งในหลวงรัชกาลที่10 ที่จะทรงสืบสานรักษา ต่อยอด พระบรมราชปณิธาน และทรงเจริญรอยตามพระยุคลบาทฯรวมทั้งน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของในหลวงรัชกาลที่ 10 กล่าวคือการศึกษาต้องมุ่งสร้างพื้นฐานให้แก่ผู้เรียน 4 ด้าน คือ 1) มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง 2) มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง-มีคุณธรรม 3) มีงานทำ-มีอาชีพ 4) เป็นพลเมืองดี มาพระราชทานไว้ จึงขอให้ผู้ร่วมประชุมนำไปเป็นแนวทางในการวางแผนและดำเนินการให้เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรมต่อไป .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ตัดไฟ 5 จุดชายแดนเมียนมา วันแรก กระทบชาวบ้านหลายหมื่นคน

หลังทางการไทยตัดไฟฟ้าที่เชื่อมโยงไปยังเมืองเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งผลชาวบ้านแห่กักตุนน้ำมัน โรงพยาบาลเมียวดีได้รับผลกระทบในการเก็บเวชภัณฑ์ที่ต้องใช้ตู้แช่

ตร.ปัตตานีเร่งล่า 6 คนร้ายควงปืนปล้นร้านสะดวกซื้อ

อุกอาจ 6 คนร้าย พร้อมอาวุธมีด-ปืน ยกพวกปล้นร้านสะดวกซื้อใน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินไป 4,492 บาท ตำรวจเร่งไล่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว