เชียงราย 3 ก.ค.-หลังพบ 13 ชีวิตติดในถ้ำ นายกฯ ย้ำว่าต้องพาทั้งหมดออกมาบนพื้นฐานความปลอดภัยและรวดเร็ว ขณะที่ศูนย์อำนวยการร่วมฯ ยืนยันหน่วยซีลเข้าถึงตัวทั้งหมด พร้อมนำอาหาร-น้ำดื่มเข้าไปดูแลใกล้ชิด และต่อสายโทรศัพท์ให้พูดคุยกับพ่อแม่ให้เสร็จในคืนนี้
นายภาสกร บุญญลักษม์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย แถลงความคืบหน้าการช่วยเหลือทั้ง 13 ชีวิตที่ติดภายในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน โดยปฏิเสธกระแสข่าวการนำข้าวเหนียวไก่ย่างส่งให้ทั้ง 13 ชีวิต ยืนยันได้นำอาหารที่มีประโยชน์เข้าไป พร้อมสั่งตรวจสุขภาพอย่างละเอียด ย้ำว่าเจ้าหน้าที่ยังทำงานอย่างเต็มที่ หากเป็นไปได้ก็อยากนำตัวทั้งหมดออกมาโดยเร็ว แต่ต้องคำนึงถึงหลักความปลอดภัยก่อน
ขณะที่ ผบ.หน่วยซีล ขอให้ทุกฝ่ายไม่ต้องกังวล เพราะหน่วยซีลเข้าถึงตัวทั้งหมด ยืนยันทุกคนอยู่ได้ตามปกติ และเจ้าหน้าที่ได้นำสารดูดคาร์บอนเข้าไป เพื่อเพิ่มคุณภาพอากาศภายใน หากทุกคนพร้อมก็จะค่อยๆ ทยอยนำตัวออกมา ส่วนข้อกังวลหากเกิดฝนตกหนักซ้ำอีกครั้งนั้น ยืนยันว่ามีแผนรองรับไว้แล้ว
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำชับให้เคลื่อนย้ายทั้งหมดอย่างปลอดภัยและรวดเร็ว พร้อมชื่นชมทุกฝ่ายที่เป็น “พระเอก” ที่ร่วมส่งกำลังใจ นำตัวออกจากถ้ำ ให้ทุกคนปลอดภัย และจะนำบทเรียนไปปรับใช้ ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มองว่าโอกาสที่จะฝึกทั้ง 13 ชีวิตดำน้ำออกมามีความเป็นไปได้ แต่ต้องประเมินสถานการณ์ให้รัดกุม
ทั้งนี้ ก่อนการประชุม ครม. นายกรัฐมนตรีได้ประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เพื่อติดตามสถานการณ์และกำชับให้ดำเนินการอย่างรัดกุม ส่วนกรณีจะพาเด็กๆ ไปเที่ยวพัทยานั้น ย้ำว่าตนเองไปไม่ได้เพราะติดภารกิจ แต่มีผู้ที่เกี่ยวข้องพร้อมพาไปแน่นอน
ด้านนายแพทย์ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แสดงความดีใจที่พบทั้ง 13 ชีวิต พร้อมสั่งตรวจสอบความช่วยเหลือด้านต่างๆ ส่วนกรณีนายกรัฐมนตรีสัญญาจะพาเด็กไปเที่ยวพัทยา ก็พร้อมรับไว้พิจารณา
ขณะที่นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กระทรวงจะอาสาพาทั้ง 13 คน รวมถึงทีมเยาวชนหมู่ป่าไปทัศนศึกษา เส้นทาง “สามเหลี่ยมทองคำ-อีอีซี-ฝั่งริเวียร่า” หรือแม่สาย-พัทยา-หัวหิน หลังจากทั้งหมดแข็งแรงดี.-สำนักข่าวไทย